ส.ส.อุทัยฯ ชาติไทยพัฒนา ถามกระทู้สดเหตุช่างภาพป่วยคาห้องนักข่าวสภา ยกกรณี “ชุมพล” หน้ามืด แต่รถพยาบาลอ้างไม่รู้จักทำเนียบ ด้าน “นพ.ชลน่าน” อ้างคำแถลง รพ.พระมงกุฎฯ ยันอาการ “เอ๋ เนชั่น” ยังรอได้ ระบุหากฉุกเฉินใช้สิทธิประกันสังคมที่ไหนก็ได้ พร้อมรับปากแก้ระบบช่วยเหลือคน ขณะที่รองประธานสภาฯ เผยทำข้อตกลงแล้วต้องช่วยทุกคนเท่าเทียมกัน
วันนี้ (17 ม.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ถามกระทู้สดเรื่องการให้บริการด้านสาธารณสุขและทางการแพทย์ฉุกเฉินแก่ประชาชน ถาม รมว.สาธารณสุข ว่าจากเหตุการณ์สื่อมวลชนป่วยที่สภา เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีรถพยาบาลฉุกเฉินแต่ไม่นำส่งทันที โดยอ้างว่าต้องเอาไว้ดูแล ส.ส.และ ส.ว. นอกจากนี้ ผู้ป่วยมีอาการฉุกเฉินแต่กลับไปส่งโรงพยาลบาลที่มีประกันสังคม ทั้งๆ ที่กรณีฉุกเฉินจะเข้าที่ไหนก็ได้ และควรส่งไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
นายชาดากล่าวว่า นอกจากนี้ ปัญหาเรื่องรถพยาบาลที่ระบุว่าต้องรอส่งเฉพาะ ส.ส.และ ส.ว.เท่านั้น และหากในสัปดาห์นี้มีการนำรถพยาบาลมาไว้ที่สภาฯ 2 คัน ตนมองว่าเป็นการฟุ่มเฟือย ควรแบ่งให้ประชาชนได้ใช้บ้าง และหากมีเหตุก็ควรเอาคันที่อยู่ประจำสภาฯ ออกส่งก่อน แล้วส่งคันใหม่เข้ามาประจำการแทน รวมถึงปัญหาระบบการส่งผู้ป่วย เช่นกรณีของนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ป่วยฉุกเฉินที่ทำเนียบรัฐบาล แต่รถพยาบาลกลับมาที่สภาโดยอ้างว่าไม่รู้จักทำเนียบรัฐบาล ทำให้นายชุมพลต้องนอนรอ 40 นาที ก่อนจะไปส่งที่ รพ.มิชชั่น และที่ผ่านมาระบบกาสรช่วยผู้ป่วยฉุกเฉินเกิดปัญหาตลอดเพราะรถมูลนิธิต่างๆ จะไปถึงก่อนรถพยาบาลเสมอ วันนี้ข้าราชการในกระทรวงสาธารณสนุขถือว่าทำงานดีอยู่แล้ว แต่ผู้บริหารต้องมองให้ไกล
ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมช.สาธารณสุข ชี้แจงแทน รมว.สาธารณสุข ว่าจากคำแถลงรายงานของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ซึ่งแพทย์และพยาบาลที่ประจำรัฐสภาในวันที่ 10 ม.ค.ได้เข้ามาวินิจฉัยอาการของสื่อมวลชน พบว่าอยู่ในภาวะสีเหลือง คือภาวะฉุกเฉิน เร่งด่วน ที่ยังสามารถรอและให้ไปรักษาในโรงพยาบาลที่มีความพร้อม แต่ก็ต้องนำผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งตอนแรกจะนำไปส่งโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า แต่ในขณะนั้นผู้ป่วยสามารถโต้ตอบสื่อสารรู้เรื่องและร้องขอไปโรงพยาบาลกลางที่ถือบัตรประกันสังคมอยู่ ส่วนที่ถามว่าหากเกิดกรณีฉุกเฉินต้องไปส่งในโรงพยาลที่ผู้ป่วยถือสิทธิหรือไม่นั้น ขอยืนยันว่าหากเป็นกรณีฉุกเฉินสามารถเข้ารักษาที่โรงพยาลไหนก็ได้ และสิทธิต่างๆก็จะตามไปชดเชยให้ผู้ป่วย ส่วนปัญหาระบบการให้การช่วยเหลือคนในช่วงฉุกเฉิน ตนรับปากว่าจะนำปัญหานี้ไปแก้ไขต่อไป
ทั้งนี้ นายเจริญได้ชี้แจงต่อการหารือของสมาชิกในเรื่องการให้บริการด้านการสาธารณสุขภายในสภาว่า ทางสำนักเลขาธิการสภาได้ทำข้อตกลงกับโรงพยาลบาลพระมงกุฎเกล้าไว้แล้วว่า ในเรื่องการดูแลรักษาไม่ว่าจะเป็น ส.ส. ส.ว. สมาชิก และการดูแลประชาชน ให้ยาทุกชนิดเท่าเทียมกัน พร้อมกับกำชับว่าสมาชิกต้องดูแลเหมือนกัน ขณะนี้ทางสภาฯ ได้มีรถฉุกเฉินมาเพิ่มอีก 1 คัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนกรณีช่างภาพเนชั่นอีก