“อภิสิทธิ์” หวังรัฐไม่บีบ ธ.ก.ส.ขนเงินใช้จำนำข้าว เตือนบอร์ดสนองการเมืองต้องรับผิด

หน.ประชาธิปัตย์ ชี้ ธ.ก.ส.เหลือเงินไม่พอรับจำนำข้าวชัดเจน พาณิชย์ระบายข้าวไม่ได้ งงเมื่อไหร่รัฐจะทบทวนโครงการ หวังไม่บีบนำเงินทั้งหมดมาใช้ เตือนผู้บริหารตอบสนองการเมืองจะต้องรับผิดชอบ ระวังทำชาวนาเดือดร้อนโดยตรง จี้นายกฯ อย่าหนีปัญหา

วันนี้ (19 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เหลือสภาพคล่องแค่ 2 หมื่นล้านบาท ไม่เพียงพอต่อการทำโครงการรับจำนำข้าวนาปรังที่ต้องใช้เงินถึง 1.5 แสนล้านบาทว่า ปัญหาพื้นฐาน คือ ตัวนโยบาย และความจริงที่ว่ากระทรวงพาณิชย์ไม่สามารถระบายข้าวได้ จึงไม่มีเงินไปคืน ธ.ก.ส. ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น หากรัฐบาลจะเดินหน้าโครงการนี้ต่อก็ต้องหาเงินให้ ธ.ก.ส. ประเด็นสำคัญ คือ เมื่อไหร่รัฐบาลจะทบทวนโครงการนี้ ในเมื่อความเสียหายในทุกๆ ด้านปรากฏชัดมากขึ้น เพราะหาก ธ.ก.ส.ไม่มีเงินก็ทำโครงการนี้ต่อไปไม่ได้ จึงอยู่ที่รัฐบาลต้องไปจัด เนื่องจากสภาพคล่อง 1.9 แสนล้านบาทของ ธ.ก.ส.ที่มีอยู่ต้องใช้ในการดำเนินการปกติของธนาคารด้วย และตนไม่คิดว่าฝ่ายการเมืองจะบีบให้ ธ.ก.ส.ต้องนำสภาพคล่องทั้งหมดที่มีมาใช้ในโครงการรับจำนำข้าว โดยหวังว่ารัฐบาลจะไม่ทำแบบนั้น เพราะธนาคารรัฐแห่งอื่นก็มีปัญหาอยู่แล้ว ธ.ก.ส.ไม่ควรมีปัญหา แต่ถ้าต้องมาสนองนโยบายรัฐบาล รัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบซึ่งผู้บริหารของ ธ.ก.ส.ก็คงต้องระมัดระวัง เนื่องจากหากไปตอบสนองทางการเมืองสุดท้ายความรับผิดชอบก็ตกอยู่กับผู้บริหาร ธ.ก.ส.ถ้าเกิดความเสียหายขึ้น จึงเห็นว่าต้องไม่ให้ ธ.ก.ส.ล้ม เพราะหากล้มรัฐบาลต้องรับผิดชอบกับหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นเพียงแค่พยายามจะบีบหรือเบียดบังตรงนี้ก็กระทบต่อเกษตรกรอยู่แล้ว

นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า ตนเป็นห่วงในเรื่องโครงการจำนำข้าวเพราะกระทบทั้งเรื่องส่งออก ฐานะการคลัง ปัญหาการทุจริต ซึ่งหาก ธ.ก.ส.ไม่สามารถดำเนินโครงการได้ นโยบายนี้ก็เดินต่อไม่ได้ สุดท้ายคนที่เดือดร้อนก็คือชาวนา ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งไม่ได้มีปัญหาเฉพาะเรื่องเงิน แต่มีปัญหาเรื่องสถานที่เก็บข้าวในโครงการด้วย ทั้งนี้ โครงการรับจำนำข้าวนาปรังกำลังจะเกิดขึ้นในเดือนเมษายนนี้จึงอยากให้รัฐบาลเร่งรัดแก้ปัญหาโดยต้องมีคำตอบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน สถานที่เก็บ แต่ใจตนอยากให้มีการทบทวนนโยบายมากกว่า เพราะเดินต่อไปอย่างนี้เสียหายแก่ส่วนรวม และสุดท้ายเกษตรกรก็ไม่ได้ประโยชน์อย่างที่คิด ตนคิดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน กขช.ต้องทบทวนเรื่องนี้ได้แล้ว และเรียกร้องว่านายกรัฐมนตรีต้องลงมาทำเรื่องใหญ่ๆ เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน อย่าพยายามหลบไป