รอง หน.ปชป.ปลุกนายกฯ ไถ่บาปนโยบายกำปั้นเหล็กพี่ชาย ตัวการไฟใต้โหม ติงนับศพโจรใต้เป็นผลงานผิด เห็นชอบปรับใช้ พ.รบ.มั่นคง แนะแก้ ม.21 เหตุช้าต้องผ่านตุลาการ ศาล ชี้รัฐรับผิดชอบเอง ซัดไม่มี “เฉลิม” ไม่กระทบ “จูดี้” เข้าไม่เข้าวินผู้ว่าฯ ไล่ลงพื้นที่ใต้ เตือนนายกฯ เยือนมาเลย์ระวังแต่งตัว อย่าสร้างเรื่องแบบพี่ชาย ยัน ปชป.หนุนผู้หลงผิดมอบตัว แนะให้ความยุติธรรมแทนเงิน ติง “เหลิม” ใช้วาดะห์อย่าเล่นการเมือง ขอให้ทำความเข้าใจ
วันนี้ (19 ก.พ.) นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะเป็น ผอ.ศอ.บต.และผอ.กอ.รมน.รับผิดชอบหรือหาคนที่จริงใจในการรับผิดชอบในเรื่องนี้ โดยเห็นว่าจากการที่ภรรยาและแม่ของมะรอโซ ผู้ก่อความไม่สงบซึ่งบุกเข้าโจมตีฐานปฏิบติการทหารที่จังหวัดนราธิวาส และถูกวิสามัญฆาตกรรมเสียชีวิต ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่หันไปเป็นแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบเพราะการใช้นโยบายกำปั้นเหล็กนำไปสู่ความไม่ยุติธรรม จนหันไปจับปืนสู้อำนาจรัฐ ซึ่งเกิดจากการใช้นโยบายที่ผิดพลาดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงเกิดการแก้แค้นขึ้น ในขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ซึ่งเป็นน้องสาวแทนที่จะไถ่บาปแทนพี่ชาย กลับปล่อยปละละเลยไม่เอาใจใส่ และขอเตือนว่าการนับศพเป็นผลงานของรัฐบาลถือเป็นเรื่องผิด
อย่างไรก็ตาม การที่เมื่อวานรัฐบาลตัดสินใจใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง มาตรา 21 เป็นวิธีการที่ถูกต้องเพราะรัฐบาลประชาธิปัตย์ได้ริเริ่มในเรื่องนี้ไว้โดยยกเลิกการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานีมาใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง มาตรา 21 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้กลับใจเข้าสู่การฝึกอบรมมาเป็นพลเมืองดี แต่เรื่องนี้มีอุปสรรคในการทำงานคือ เนื้อหาของกฎหมายยังให้ตุลาการและอัยการเข้ามากลั่นกรองจนทำให้เกิดความล่าช้าในการทำงาน เนื่องจากเมื่อมอบตัวแล้วต้องยื่นคำร้องต่อศาลไต่สวน และศาลจะใช้ดุลพินิจว่าคนที่เข้าฝึกอบรมจะอยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะดำเนินการตามมาตรา 21 หรือไม่ จึงเสนอให้รัฐบาลแก้มาตรา 21 ตัดขั้นตอนไม่ต้องให้อัยการหรือศาลเข้ามาเกี่ยวข้องโดยให้อยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายบริหารแทน เพราะเมื่อกล้าที่จะใช้นโยบายนี้ก็ต้องกล้าที่จะรับผิดชอบด้วย แต่อย่าอคติ หรือใช้อำนาจในทำนองเลือกที่รักมักที่ชัง ก็ต้องกล้าตัดสินใจ
นายถาวรกล่าวด้วยว่า การที่นายกฯ และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ไม่ลงพื้นที่ภาคใต้ ฟังแต่รายงานจาก ศปก.กปต. ในขณะที่พี่น้องคนไทยตายทุกวันในพื้นที่ภาคใต้ แต่ ร.ต.อ.เฉลิมกลับบอกว่ารอให้การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เสร็จสิ้นก่อน เป็นการให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.มากกว่าชีวิตของพี่น้องภาคใต้ ทั้งที่วาระการแก้ปัญหาภาคใต้เป็นวาระสำคัญ แต่ถ้าขาด ร.ต.อ.เฉลิมในการหาเสียงไม่น่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พรรคเพื่อไทย สอบได้หรือสอบตก จึงขอเรียกร้องให้นายกฯ และ ร.ต.อ.เฉลิมลงพื้นที่โดยเร็ว และฝากเตือนถึงนายกรัฐมนตรีที่จะเดินทางไปมาเลเซียให้ระมัดระวังกิริยา เพราะสุภาพสตรีของรัฐอิสลามจะต้องระมัดระวังเรื่องการแต่งตัวจึงขอให้อยู่ในกรอบ เพื่อให้เกียรติกับรัฐอิสลามจะได้เกิดประโยชน์ในการเจรจา และกลุ่มที่จะไปพูดคุยด้วยอย่าให้เกิดผลกระทบเหมือนที่ พ.ต.ท.ทักษิณเคยไปคุยจนเกิดผลกระทบตามมาในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ นอกจากนี้ การเจรจาต้องไม่เอาเงินเป็นตัวตั้ง แต่ต้องหารือทุกฝ่ายอย่างรอบคอบก่อน เมื่อทุกอย่างรอบคอบแล้วขอให้กำลังใจเพราะการเปิดโอกาสให้ผู้หลงผิดเข้ามามอบตัวพรรคประชาธิปัตย์ก็เคยทำ พรรคเพื่อไทยจึงอย่าถือทิฐิเพราะพวกตนพร้อมให้กำลังใจเพื่อให้จังหวัดชายแดนภาคใต้กลับมาสู่สันติสุขอีกครั้งหนึ่ง
“ถ้าเมื่อไหร่ที่มีการพูดคุยกับรัฐข้างเคียงก็จะรู้ความต้องการว่าผู้ก่อความไม่สงบต้องการอะไร ถ้าต้องการความยุติธรรม เช่น กรณีตากใบ ก็ต้องเอาคนที่ทำผิดในยุคนั้นมาลงโทษ ขณะนี้นายตำรวจที่เคยเป็นผู้การที่นราธิวาสทำผิดไว้เยอะเอามาดำเนินคดี หรือ พล.อ.บางคนที่ทำผิดให้เอามาดำเนินคดี เพราะการเอาเงินไปฟาดหัวไม่ใช่ความต้องการของประชาชน แต่ต้องการความยุติธรรม งบประมาณที่ไปกองอยู่เชียงใหม่ขอให้นำลงไปที่ จ.นราธิวาสบ้าง” นายถาวรกล่าว
นายถาวรกล่าวด้วยว่า การที่ ร.ต.อ.เฉลิมจะเอากลุ่มวาดะห์มาเป็นที่ปรึกษาในการแก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้นั้น ก็ขอว่าอย่าเอาการเมืองเป็นตัวตั้ง เพราะวาดะห์บางคนเป็นมะเร็งร้าย เช่นบางคนเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการในช่วงที่ระบอบทักษิณเข่นฆ่าประชาชนมากที่สุด ซึ่งตนคิดว่าสาเหตุที่มีการดึงกลุ่มดังกล่าวเข้ามาเพราะอยู่ใกล้ชิดกับมวลชนจึงต้องการสร้างความเข้าใจ แต่ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์