xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.เปิดกลยุทธ์โค้งสุดท้ายศึกชิงผู้ว่าฯ กทม. แฉรัฐโปรยงบ SML ช่วยคู่แข่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

องอาจ คล้ามไพบูลย์ (แฟ้มภาพ)
“องอาจ” เปิดกลยุทธ์หาเสียง 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนเลือกผู้ว่าฯ กทม. มุ่งโชว์ผลงานเก่าเดินหน้าผลงานใหม่ โวคนกรุงปลื้ม 3 โบแดง “สุขุมพันธุ์” ทำกรุงเทพฯ เป็นเมืองท่องเที่ยวดีที่สุด 3 ปีซ้อน มีภาวะผู้นำป้องน้ำท่วม กทม. ร่วมคนกรุงบิ๊กคลีนนิ่งหลังถูกเผาเมือง ลุยปราศรัย 3 รูปแบบใหญ่ ด้าน “ณัฏฐ์” แฉสารพัดวิชามารใช้อำนาจรัฐสกัด “สุขุมพันธุ์” ปูดงบ SML เข้าพื้นที่ กทม.ก่อนเลือกตั้ง

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผอ.ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงแผนการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ช่วงสุดท้ายก่อนวันลงคะแนนเลือกตั้งว่า พรรคจะเน้นนโยบายที่ทำสำเร็จแล้วใน 4 ปีที่ผ่านมา และนโยบายที่จะทำต่อ โดยในวันจันทร์ที่จะถึงนี้จะเน้น 4 เรื่อง คือ 1. กทม.เมืองแห่งความปลอดภัย ซึ่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จะพูดถึงเรื่องกรุงเทพฯ เมืองแห่งความปลอดภัยในงานเซฟอินเดอะซิตี้ ซึ่งเป็นงานที่สมาคมโรงแรมและกลุ่มผู้ค้าราชประสงค์จัดงานนี้จากการได้รับผลกระทบวิกฤตการชุมนุมทางการเมืองปี 2553 ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างมาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์จะไปพูดถึงการเป็นผู้ว่าฯ กทม.ในขณะเกิดวิกฤตว่าได้แก้ปัญหาอย่างไร หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก และจะดำเนินนโยบายเกี่ยวกับอาสาสมัครทุกกลุ่ม 2.จะดำเนินนโยบายเกี่ยวกับอาสาสมัครทุกกลุ่ม

3. มหานครแห่งการเรียนรู้ ซึ่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์จะพูดถึงรายละเอียดและเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำมหานครแห่งการเรียนรู้มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม และ 4. มหานครแห่งการสร้างคนตั้งแต่แรกเกิดจนตาย เป็นเรื่องที่จะเน้นย้ำในช่วงสัปดาห์หน้า

นายองอาจกล่าวด้วยว่า ในการรณรงค์พบว่าผลงานที่ประชาชนประทับใจ คือ กรณีที่ผู้ว่าฯ กทม.ได้ทำให้ กทม.เป็นเมืองน่าเที่ยวที่ดีที่สุดในโลก 3 ปีซ้อนในปี 2553-2555 และ 2. กทม.ร่วมมือกับคนกรุงเทพฯ นับหมื่นคนในการบูรณะ กทม.จากเหตุการณ์ชุมนุมปี 52-53 ที่มีการเผาบ้านเผาเมือง ซึ่งมีการระดมอาสาสมัครช่วยกันบูรณะ กทม. เป็นเรื่องที่ประชาชนประทับใจ 3. การที่ผู้ว่าฯ กทม.แสดงภาวะผู้นำไม่ให้น้ำท่วม กทม.เต็มพื้นที่ทั้งหมดเพราะจะส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อ กทม.เนื่องจากจะท่วมพื้นที่เศรษฐกิจจนเกิดปัญหา

นายองอาจกล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าพรรคดำเนินกลยุทธ์เคาะประตูบ้านเต็มพื้นที่จัดปราศรัย 3 รูปแบบอย่างเข้มข้นเพื่อนำนโยบายไปถึงประชาชนให้ได้มากที่สุด โดยการปราศรัย 3 รูปแบบประกอบด้วยปราศรัยใหญ่วันศุกร์ ปราศรัยย่อม และปราศรัยย่อย โดยวันศุกร์ที่ 22 ก.พ.นี้จะมีการปราศรัยใหญ่สองจุดคือ แฟลตการเคหะคลองจั่น ที่ 22 เขตบางกะปิด และจุดที่ 2 สนามข้างโรงเรียนศาลาคู้ ติด ซ.ราษฎรอุทิศ 45 เขตมีนบุรี และอาทิตย์ที่ 24 ก.พ. 56 ปราศรัยย่อมที่หมู่บ้านสินทวี ถ.พระราม 2 เขตจอมทอง ส่วนปราศรัยย่อยตามตลาดสด ชุมชน ท่าเรือ ท่ารถ โดยปูพรมในทุกพื้นที่

“หลังจากนี้พรรคได้ทำสปอตประชาสัมพันธ์ผลงานความตั้งใจทำงานอีก 4 ปีข้างหน้าของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ผ่าน 5 ช่องทาง คือ 1. ทีวี 2. วิทยุ 3. จอแอลอีดี เกือบทุกจุดทั่ว กทม. 4. โรงภาพยนตร์ 5. โซเชียลมีเดีย โดยจะมี 2 รูปแบบซึ่งจะมีภาพตึกถูกไฟไหม้ย่านเศรษฐกิจของ กทม.แต่ฟรีทีวีไม่อนุญาตให้นำออกอากาศจึงต้องตัดออก ดังนั้นในบางเวอร์ชันที่ไม่ได้ตัดภาพดังกล่าวจะนำมาออกในทีวีดาวเทียมแทน

ด้านนายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีขบวนการใช้อำนาจรัฐที่มีผลต่อการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า เป็นประเด็นที่จะละเลยไม่ได้ เพราะทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้งมีกระบวนการที่สามารถระบุได้ว่าเป็นการใช้อำนาจรัฐ ทั้่งทางตรงและทางอ้อม เพื่อทำลายหรือช่วยเหลือผู้สมัครบางรายในช่วงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งก่อนที่จะมีการเลือกตั้งมีขบวนการทำลายผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ เช่น กรณีที่ ดีเอสไอฟ้องดำเนินคดีกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เรื่องการต่อสัญญาบีทีเอส ซึ่งพรรคเพื่อไทยอ้างว่ามีการทุจริตแต่การตั้งข้อหาของ ดีเอสไอกลับไม่ระบุถึงการทุจริต จึงเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ทั้งที่กรณีดังกล่าว รมว.มหาดไทย สามารถยับยั้งการดำเนินการของ กทม.ได้หากเห็นว่าไม่เหมาะสมแต่ก็ไม่มีการดำเนินการกลับเพิกเฉยในเรื่องนี้เพื่อให้เป็นข้ออ้างในการดำเนินคดี ทำลายเครดิตทางการเมืองและถือเป็นการละเลยการทำหน้าที่ของ รมว.มหาดไทยด้วย

นายณัฏฐ์กล่าวด้วยว่า การใช้อำนาจรัฐส่งผลต่อพรรคประชาธิปัตย์ในช่วงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และเป็นที่สังเกตว่านโยบายหรืองบประมาณหลายโครงการถ้าเป็นโครงการลักษณะเดียวกันในต่างจังหวัดกรณีงบเอสเอ็มแอล มีข้อมูลจากประธานชุมชนและประชาชนในกลุ่มอาชีพต่างๆ ที่มีส่วนจะได้รับงบประมาณเหล่านี้ในส่วนของ กทม.ว่ามีงบประมาณพร้อมที่จะส่งให้ตามโครงการดังกล่าวแล้วโดยส่งไปยังพื้นที่เป้าหมายของพรรคเพื่อไทยเป็นส่วนใหญ่ มีการแจ้งงบประมาณไปถึงพื้นที่แล้วในช่วงที่กำลังจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งตนคิดว่าเป็นที่น่าจับตามองว่าเป็นการใช้อำนาจรัฐยึดโยงให้เห็นภาพว่ากระบวนการทำงานรัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีความยึดโยงกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่อาจจูงใจทำให้ประชาชนตัดสินใจในอีกรูปแบบหนึ่ง


กำลังโหลดความคิดเห็น