xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวความเคลื่อนไหว

เผยแพร่:   โดย: พระบาท นามเมือง

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภให้สัมภาษณ์ในวาระวันเกิดครบ 58 ปีของตนว่า ของขวัญที่อยากได้คือให้บ้านเมืองเรียบร้อย ความขัดแย้งยุติ คนไทยมีความสุขและเศรษฐกิจก้าวหน้า สำหรับการเมืองนั้นหากมีจังหวะที่เหมาะสมตนจะกลับไปรับใช้บ้านเมืองแน่นอนแต่ตอนนี้ยังเรียบร้อยดีอยู่การปรับ ครม.ในเร็ววันนี้ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับตน รัฐบาลบริหารประเทศด้วยความยืดหยุ่น รับฟังความคิดเห็นในเรื่องสำคัญๆ เช่น รัฐธรรมนูญ เรื่องกฎหมายนิรโทษกรรม ในประเทศไทยก็เคยทำมาแล้ว เป็นวัฒนธรรมไทยในการให้อภัยแต่เนื้อหาจะต้องเห็นพ้องกันทุกฝ่าย

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เชิญแกนนำเสื้อแดงและเสื้อเหลืองไปหารือเกี่ยวกับการออกกฎหมายนิรโทษกรรมว่า พรรคประชาธิปัตย์ยินดีให้ความร่วมมือในการหาทางออกให้ประเทศ รวมทั้งเห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมให้ประชาชนที่ฝ่าฝืนพ.ร.บ.ความมั่นคง และพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ประชาชนจะต้องไม่มีความผิดอาญา เช่นคดีทำร้ายร่างกายหรือคดีทุจริต การนิรโทษกรรมที่ไม่ผิดกฎหมายอาญาควรดำเนินการควบคู่การให้ความรู้ประชาชน เรื่องการแสดงออกทางการเมืองในอนาคตจะได้ไม่ทำผิดพ.ร.บ.ความมั่นคงและพ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก เพื่อไม่ให้ปัญหาวนมาที่เดิม ส่วนคนทำผิดอาญาต้องไปให้ศาลตัดสินไม่ใช้กระบวนการอย่างอื่นมาตัดสิน

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยไม่มีการหารือกันในเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรม เนื่องจากยังไม่เห็นว่ารัฐบาลมีแนวทางที่ชัดเจนอย่างไรขอดูท่าทีรัฐบาลก่อน แต่หลักการคือถ้ามีการนิรโทษกรรมแล้วบ้านเมืองได้ประโยชน์ เกิดความสงบและสังคมเห็นพ้อง เราก็ยินดีร่วมพิจารณาแต่ต้องฟังเสียงของทุกภาคส่วน ขณะนี้มีความพยายามออกพ.ร.ก.นิรโทษกรรม แต่ตนมองว่าไม่น่าจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น หากจะทำจริงหมายความว่ารัฐบาลจะทำเรื่องใหญ่ใช้อำนาจบริหารโดยไม่ฟังเสียงฝ่ายนิติบัญญัติ

ด้านความคืบหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญภายหลังร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 291 ค้างการพิจารณาของที่ประชุมร่วมรัฐสภาในการลงมติวาระ 3 แม้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหาทางออกด้วยการเปิดเวทีสานเสวนาทั่วประเทศและจะทำประชามติแต่ยังไม่สามารถหาบทสรุปได้ลงตัวจึงต้องซื้อเวลาด้วยการเชิญมหาวิทยาลัยมาร่วมศึกษาหาทางออก ล่าสุดรัฐบาลได้มอบหมายให้แกนนำคนสำคัญและทีมยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยไปหารือกับทางวุฒิสภา โดยเฉพาะ ส.ว.สายเลือกตั้งให้ร่วมมือกันผลักดันร่างแก้ไขเป็นรายมาตรา โดยแกนนำกลุ่ม ส.ว.สายเลือกตั้ง อาทิ นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี อดีตประธานคณะกรรมการสมานฉันท์และศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี นายสุรชัย ตระกูลทองส.ว.ชลบุรี ได้หารือร่วมกับทีมงานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย อาทิ นายโภคิน พลกุลอดีตประธานคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลพิจารณาศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา291 นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลมา 2-3 รอบแล้วได้ข้อยุติเบื้องต้นจะยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราได้ในราวเดือนมีนาคมนี้ โดยให้ ส.ว.เป็นผู้รวบรวมรายชื่อและเข้าชื่อร่วมกับ ส.ส.เพื่อเสนอให้ประธานรัฐสภาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าการแก้ไขรายมาตราครั้งนี้จะแก้ไขเพียง 3 ประเด็น ได้แก่มาตรา 117 วรรคสอง ที่กำหนดให้สมาชิกภาพของ ส.ว.ไว้คราวละ 6 ปีโดยไม่สามารถดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินหนึ่งวาระ จะมีการแก้ไขปรับปรุงให้ ส.ว.เลือกตั้งสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งวาระติดต่อกันได้ แต่ยังไม่ไปแตะต้องมาตรา 116 ที่ห้ามไม่ให้ ส.ว.ที่สิ้นสุดสมาชิกภาพมายังไม่เกิน 2 ปีไปเป็นรัฐมนตรี ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่น เนื่องจากทางฝั่ง ส.ส.กังวลว่าหากแก้ไขในส่วนนี้อาจเกิดการทับพื้นที่ทางการเมืองกันขึ้น

ประเด็นที่สองคือมาตรา 190 เกี่ยวกับการจัดทำข้อตกลงหรือหนังสือสัญญาระหว่างประเทศที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงและอธิปไตยต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน โดยจะแก้ไขปรับปรุงให้มีความชัดเจนมากขึ้นว่าร่างสัญญาหรือข้อตกลงในลักษณะใดบ้างที่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภา และประเด็นสุดท้ายมาตรา 237 เกี่ยวกับการยุบพรรคที่ตัดสิทธิคณะกรรมการบริหารพรรคทั้งชุดจะแก้ไขเป็นลงโทษตัดสิทธิเฉพาะกรรมการบริหารพรรคที่กระทำผิด

สำหรับกระแสการปรับ ครม.นั้นนายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกระแสข่าวจะมีการปรับ ครม.ว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี ควรสะท้อนความเป็นผู้นำในการปรับครม.ครั้งนี้ โดยการยึดประสิทธิภาพการบริหารราชการแผ่นดินเป็นหลักอย่ายึดเรื่องโควตาพรรคเพราะเข้าใจว่าขณะนี้มีการพูดคุยกันกับพรรคร่วมรัฐบาลอยู่พอสมควรในการสับเปลี่ยนตำแหน่งกระทรวงต่างๆ ตามโควตาพรรคและนายกฯ ต้องตระหนักว่าหากปรับ ครม.แล้วต้องไม่ให้มีกระบวนการต่อรองทางการเมือง ขณะนี้พรรคเพื่อไทยมีความเปราะบางมากทั้งในเรื่องของการผลักดันให้มีการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมซึ่งเป็นการเพิ่มอุณหภูมิให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงที่อกหักจากการปรับ ครม.ครั้งที่ผ่านมา และส.ส.กทม.ที่มีความพยายามช่วยเหลือผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจะมีการพูดคุยแบ่งโควตากันในส่วนนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น