xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” จี้ขยายผลโจรใต้บุกนาวิกฯ ย้ำเคอร์ฟิวถาม ปชช. ชี้ “เหลิม” บินมาเลย์เติมเชื้อไฟ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)
หน.ปชป.ชี้โจรใต้อุกอาจ เป็นกำลังใจ จนท. บี้รัฐขยายผลจับกุม ขออย่ามองสถานการณ์ต่ำ เหตุกลุ่มความไม่สงบโชว์ศักยภาพขู่ ปชช.บ่อย ใช้เคอร์ฟิวต้องคำนึงผลที่ตามมา คุยชาวบ้านเอายังไง พร้อมระวังมากขึ้น ชี้แบ่งแยกดินแดนมีจริง อย่ามองดีขึ้นอย่างเดียว จวก “เฉลิม” เตือนแล้วไปมาเลย์ไฟใต้โหมเพิ่ม จี้ “ปู” เอาคนกล้าลงพื้นที่ทำงาน

วันนี้ (13 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุการณ์ผู้ก่อความไม่สงบภาคใต้บุกเข้าโจมตีฐานปฏิบัตการเล็กร้อยปืนเล็กที่ 2 ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ซึ่งตั้งอยู่ หมู่ที่ 3 บ้านยือลอ ต.บาเร๊ะเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส โดยผู้ก่อความไม่สงบเสียชีวิต 19 รายว่า ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่และอยากให้รัฐบาลเร่งประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะต้องถือว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจมาก แสดงให้เห็นถึงการรวมตัวของกองกำลังค่อนข้างชัด ขณะเดียวกันเมื่อมีผู้เสียชีวิตต้องเร่งขยายผลว่าคนเหล่านี้เป็นใคร อยู่ที่ไหน เพื่อใช้เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการวางแผนดำเนินการป้องกันเหตุ และขยายผลไปสู่การจับกุมขบวนการต่างๆ

“เรื่องใหญ่คือต้องประเมินในภาพรวมว่าการกระทำดังกล่าวเกิดจากอะไร และอยากให้รัฐบาลไม่เพียงเร่งหาข้อยุติในเรื่องเคอร์ฟิวซึ่งถกเถียงกันมาเป็นสัปดาห์แล้ว เพื่อให้มีความชัดเจนว่าในภาพใหญ่จะเดินในทิศทางไหน และไม่อยากให้รัฐบาลประเมินสถานการณ์ต่ำเกินไป เพราะผู้ก่อเหตุก็พยายามแสดงศักยภาพให้เห็นว่าเป็นขบวนการใหญ่ เริ่มจากการก่อเหตุหลายจุดพร้อมกัน กระทั่งรวมตัวก่อเหตุใหญ่กับเป้าที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐ โดยอาจประเมินตัวเองว่ามีความพร้อมมากขึ้น หรืออาจจะเป็นปฏิกิริยาที่จะส่งสัญญาณบางอย่าง ซึ่งหน่วยงานด้านความมั่นคงต้องเร่งหาข้อมูลและประเมินออกมา” นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ต้องถือว่าเจ้าหน้าที่มีความเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ แต่แสดงให้เห็นว่าเราไม่สามารถประมาทหรือประเมินสถานการณ์ต่ำได้เลย ส่วนที่มีการประกาศใช้เคอร์ฟิวในบางพื้นที่ของจังหวัดปัตตานี และนราธิวาสนั้น ตนเห็นว่าฝ่ายความมั่นคงต้องประเมิน เพราะการประกาศใช้จะส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจึงต้องทำความเข้าใจให้เกิดการยอมรับด้วย อย่าคิดว่าประกาศและใช้อำนาจตามประกาศอย่างเดียว เพราะประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนและได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว ซึ่งตนก็มีความเป็นห่วงในเรื่องนี้ เพราะหัวใจสำคัญคือต้องให้เกิดความเข้าใจและความยอมรับในพื้นที่ด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่จึงทำให้มีการประกาศใช้เคอร์ฟิวในบางพื้นที่ไปแล้วทั้งที่รัฐบาลบอกว่าจะได้ข้อสรุปในเรื่องนี้วันที่ 15 ก.พ. นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อาจจะได้รับการกระตุ้นจากเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่ย้ำว่าเรื่องนี้ต้องได้รับการยอมรับจากคนในพื้นที่ มิเช่นนั้นจะตกเป็นเหยื่อ ทั้งนี้ยังเห็นว่าฝ่ายความมั่นคงก็จะต้องมีความระแวดระวังมากขึ้น โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนว่าการที่รัฐบาลบอกว่าสถานการณ์ดีขึ้นนั้นไม่ใช่ และอยากให้ประเมินทิศทางรวมของนโยบาย โดยเฉพาะสิ่งที่ตนเคยเตือนเกี่ยวกับการไปเจรจากับทางการมาเลเซียตามแนวทางที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ว่ามีหลายแง่มุมที่ต้องคำนึงถึง และต้องไม่ปฏิเสธเรื่องปัญหาการแบ่งแยกดินแดนเพราะเท่ากับไม่ยอมรับความจริง โดยผู้ก่อความไม่สงบก็พยายามแสดงศักยภาพเต็มที่ จึงไม่สามารถบอกได้ว่าหลังจากนี้เหตุการณ์จะยกระดับรุนแรงขึ้นหรือไม่ แต่หน่วยงานของรัฐต้องมีความเข้มข้น ปรับแนวทางรองรับกับความเปลี่ยนแปลงในความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบด้วย

นายอภิสิทธิ์ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การเคลื่อนไหวอย่างหนักหน่วงของกลุ่มอาร์เคเคอาจเป็นปฏิกิริยาจากการที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ไปเจรจากับทางการมาเลเซียซึ่งได้เคยเตือนไว้แล้ว จึงอยากให้รัฐบาลประเมินตรงนี้ด้วย ส่วนผู้ก่อความไม่สงบจะมีการแก้แค้นเจ้าหน้าที่นั้น ตนก็อยากให้หน่วยงานของรัฐมีความรัดกุมและพร้อมในการป้องกันเหตุเท่าที่จะทำได้ ที่สำคัญคือระดับนโยบายจะต้องมีความเป็นเอกภาพโดยควรให้มีผู้รับผิดชอบที่ชัดเจนอยู่ในพื้นที่จะได้ประเมินสถานการณ์และทำความเข้าใจกับประชาชนหากจำเป็นต้องใช้มาตรการใหม่ออกมา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถึงเวลาที่ ร.ต.อ.เฉลิมจะต้องลงพื้นที่หรือยัง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ว่าอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิมคงไม่ลงพื้นที่เพราะเคยพูดชัดเจนมาแล้ว จึงไม่รู้จะทำอย่างไร ตนคิดว่านายกรัฐมนตรีควรมอบให้คนที่อยากทำงานและลงพื้นที่ เพราะหากตนเป็นนายกรัฐมนตรีก็คงไม่มอบให้คนที่ไม่อยากลงพื้นที่รับผิดชอบดูแลปัญหาภาคใต้ แต่ต้องเลือกคนที่ลงพื้นที่ได้ดูแลแทน


กำลังโหลดความคิดเห็น