เกาะกระแส
00 ตอกย้ำคำพูดที่ว่าไม่มีอะไรภายใต้ดวงอาทิตนี้ที่ตำรวจไทยทำไม่ได้อีกครั้งทั้งนายและลูกน้องกับกรณีที่มีนายตำรวจจากสน.บางรักตำแหน่ง สวป.ยศพันตำรวจโทนายหนึ่งพร้อมลูกน้องชั้นประทวนสองนายยกขบวนไปรีดไถ “แต๊ะเอีย” ช่วงตรุษจีน จะอ้างว่าเป็นวันมงคลสำหรับผู้ให้ก็ไม่ใช่เพราะเจ้าของร้านตัดสูทที่เข้าไป “ขอทาน” นั้นดันไม่มีเชื้อจีนแต่มีเชื้อแขก และอาจเป็นคราวซวยก็คือดันมีนักข่าวคนหนึ่งนั่งอยู่ในร้านพอดีแล้วนำเรื่องมาโพสต์ลงเฟซบุคส์ประจาน นี่แหละทำให้พวก “ลูกพี่” ทั้งหลายตั้งแต่ ผบ.ตร.คือ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว และ ผบ.ชน.พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นั่งไม่ติดต้องลงดาบทันควัน
00 แต่ขณะเดียวกันอาศัยเก๋าเกม “ระดับเขี้ยว” เข้าใจจิตวิทยามวลชนที่รู้อยู่แล้วว่าชาวบ้านส่วนใหญ่เขา “เกลียดตำรวจ” เหยียบย่ำหาคะแนนนิยมแบบ “ย้อนศร” เอาเสียเลย นั่นคือแสดงท่าทีขึงขังเอาผิดกันแบบปัจจุบันทันด่วนแบบสะใจฮาร์ทคอร์ สั่งขังทันทีตอนแรกแค่ 3 วัน ยังไม่ซีดส์พอก็เอาใหม่เปลี่ยนเป็น 7 วัน 15 วัน พร้อมกับให้สัมภาษณ์สื่อออกลีลาเด็ดขาดได้แต้มอีกจมหู มองดูเผินๆอารมณ์ไม่ต่างจากกรณีลูกชายเจ้าของ “เรดบูล” ขับรถชนตำรวจตายในพื้นที่ สน.ทองหล่อ ตอนนั้นก็มันมือนำทีมบุกไปเอาเรื่องถึงบ้าน ก็แหงหละแล้วงานนี้ “ไอ้นั่น” มันผิดชัดๆ หมูอยู่แล้วจะบีบอย่างไรก็ตาย และที่สำคัญหากมองอีกด้านหนึ่ง “ทุนค่ายนี้” มันอยู่ขั้วตรงข้ามเสียด้วยใช่มั๊ยละ
00 ที่พูดแบบนี้เดี๋ยวจะเข้าใจผิดว่าไม่เห็นดีเห็นงามกับการลงโทษตำรวจที่ทำชั่วชอบรีดไถชาวบ้าน ตรงกันข้ามสนับสนุนเต็มที่เพียงแต่ต้องมีหลักการอันมั่นคงถูกต้องเสมอต้นเสมอปลาย ตำรวจเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ “เป็นผู้รักษากฎหมาย” ต้องจำให้แม่น และต้องเตือนกันแบบรู้ทันว่าอย่าเอาหน้า สร้างภาพตามสื่อ ประเภท “ตำรวจที่นับถือโจร” ให้ โจรติดยศให้ นั้นมันด่าว่าลูกน้องได้ไม่เต็มปากหรอก ใช่มั๊ยแจ๊ส หรือแม้แต่ ผบ.ตร.อย่าง อดุลย์ แสงสิงแก้ว ก่อนนั่งเก้าอี้ใหญ่ก็มีข่าวสะพัดว่าไปให้ “โจรดูตัว” ไม่ใช่หรือ และโจรคนที่ว่านั้นคือ ทักษิณ ชินวัตร ที่ไม่ต่างจาก “มหาโจร” ที่ทำร้ายบ้านเมือง ทำร้ายศาล ทำร้ายสถาบันฯจนปั่นป่วนไปหมด คิดดูแล้วอาจจะยังเลวร้ายน้อยกว่า “ตำรวจกระจอก” สามสี่คนที่ไป “ขอทาน” เศษเงินพ่อค้าโดยไม่ดูตาม้าตาเรือในช่วงเทศกาลหรอก จะบอกให้ และรายการแบบนี้ หลักฐานชัดแบบนี้ไม่ลงโทษสิแปลกยิ่งกว่า !!
00 พูดถึงเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษฯฉบับ อุกฤษ มงคลนาวิน ที่รัฐบาลส่งต่อไปถึงมือของกฤษฎีกาในขณะนี้ดูตามอาการแล้วก็ต้องบอกว่าเป็นการ “ยื้อ” ซื้อเวลา หรือถ้าพูดง่ายๆก็คือ “ต้มแดง” ไปก่อน เพราะสิ่งที่ต้องการเร่งด่วนกว่าก็คือต้องการให้ร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาทผ่านพ้นไปก่อน อีกทั้ง ปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ยังสนุกอยู่กับ “หัวโขน” นายกฯ ไม่อยากทำอะไรที่เสี่ยงแบบไม่คุ้มค่าเป็นอันขาด
00 อย่างไรก็ดียิ่งนานวันก็ยิ่งเห็นธาตุแท้ของ “เหลี่ยมจัด” ทักษิณ ชินวัตร กับพวกแกนนำขี้ข้าทั้งหลาย ที่พยายามพ่วงขอนิรโทษฯไปพร้อมกับพวกเสื้อแดงรากหญ้าตาดำๆไปพร้อมกัน โดยพยายามเขียนเนื้อหาให้คลุมเครือต้องตีความ ทั้งในเรื่องของ “คนสั่งการ” หรือแม้แต่แกนนำ ไม่ว่ามองในมุมไหนมันก็ไม่ต่างจากการ “จับเป็นตัวประกัน” เพราะถ้าคนพวกนี้กล้าประกาศตั้งแต่แรกว่าไม่ขอรับประโยชน์จากกฎหมายฉบับนี้ขอไปพิสูจน์ความจริงในศาล มันก็จบง่ายและเร็วชาวบ้านก็ไม่ต้องเดือดร้อน !!