xs
xsm
sm
md
lg

“เหลิม” ชี้สรุปเคอร์ฟิวไม่เกิน 2 สัปดาห์ โวไม่ลงใต้แต่รู้ข้อมูล จวกสื่อ จี้ถก “มหาเธร์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี(แฟ้มภาพ)
“รองเหลิม” เผย 15 ก.พ. ถกประกาศใช้เคอร์ฟิวชายแดนใต้ รับต้องมีข้อสรุปใน 2 อาทิตย์ คุย ปชช.ลำบากไม่ทำ ชี้กลางคืนโจรใต้สบช่องปฏิบัติการ โวข้อมูลแน่น แม้ไม่ลงพื้นที่ พร้อมเปิดช่องให้กรีดยาง ทำพิธีศาสนา ยันทำจริงอำนาจอยู่ที่ จนท. มิใช่ตน ย้อน ปชป.ยังทำไม่ได้ โยนผู้ว่าฯ นัดเจอ “มหาเธร์” ให้ ด่ากราดสื่อถามไม่เข้าหู แย้มประกาศจริงยึดตามสถิติแต่ละพื้นที่ เชื่อโจรใต้หวั่น ยันไม่เสียหน้า หาก ศปก.กปต.ไม่หนุน

วันนี้ (11 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) กล่าวถึงแนวคิดการประกาศเคอร์ฟิวในบางพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หลังเกิดเหตุในพื้นที่อย่างต่อเนื่องว่า ตนนัดประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือเรื่องดังกล่าวและฟังบรรยายสรุปจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ในวันที่ 15 ก.พ.เพื่อตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรดี ไม่มีรัฐบาลชุดไหนที่จะคิดริเริ่มทำนโยบายอะไรที่กระทบกับสังคม โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ คนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ไม่คำนึงถึงความเป็นจริง ตนเป็นผู้รับผิดชอบและได้รับมอบหมายจากนายกฯ เท่ากับตนเป็นตัวแทนของรัฐบาล อะไรที่ประชาชนเดือดร้อนจากการกระทำตนจะไปคิดอย่างนั้นได้อย่างไร แต่ในทางเดียวกัน ถ้าผู้ไม่บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบก็ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำตามกฎหมาย ซึ่งหากในวันที่ 15 ก.พ.นี้ยังไม่ได้ข้อสรุป อีก 2 สัปดาห์ต่อไปต้องได้ข้อสรุป จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไม่ได้

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า จากสถิติพบว่าในเวลากลางคืนผู้ที่ก่อความไม่สงบจะออกไปตามพื้นที่เป้าหมายเพื่อไปขุดถนน สุ่มซ่อนระเบิดเอาไว้ก่อน และพอจังหวะดีๆ ก็ระเบิดในเวลากลางวัน ฉะนั้นคนที่บอกว่าเหตุเกิดตอนกลางวันปฐมเหตุมาจากกลางคืน อย่าคิดแต่เพียงว่าตนไม่ได้ลงพื้นที่ภาคใต้และจะไม่รับรู้ ตนนั้นคุยถี่ยิบ เราต้องมาดูว่ามีพี่น้องไทยพุทธและไทยมุสลิมเท่าไหร่ มีอาชีพอะไร ปกติได้ออกไปแล้วทำอะไร หากเรากำหนดเวลาในพื้นที่บางพื้นที่ เช่น เวลา 20.00-02.00 น. หรือ 21.00-03.00 น. แต่ขณะเดียวกัน พี่น้องประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเดินทางก็มาขออนุญาตเราก็ให้ ไม่ใช่ไปประกาศแล้วใครไปใครมาไม่ได้ ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับสถานการณ์ แต่เมื่อทำแล้วได้ประโยชน์มากกว่าก็ต้องทำ ดีกว่าไม่ทำ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการประกาศเคอร์ฟิวจะต้องทำความเข้าใจกับกลุ่มศาสนาที่อยู่ในพื้นที่หรือไม่ เพราะบางส่วนมองว่าจะกระทบต่อการประกอบศาสนกิจ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เรื่องการประกอบศาสนกิจหรือกรีดยางหากมาขออนุญาตเราก็อนุญาต แต่จากนี้ต่อไปหากมีการประกาศเคอร์ฟิวอำนาจอยู่ในมือเจ้าหน้าที่รัฐไม่ใช่ตน การประกาศเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้และผู้ก่อความไม่สงบจะลงมือยาก พรรคประชาธิปัตย์หากมีข้อเสนอดีเอามาตนจะรับ และหากคณะกรรมการ ศปก.กปต.เห็นด้วยจะประกาศเลยว่าเป็นนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ บ้านเมืองสงบตนไม่อายหรอก เมื่อถามว่า คิดว่าเรื่องการประกาศเคอร์ฟิวยังไม่ได้ข้อสรุปต้องรออีกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า บางครั้งรายละเอียดยังไม่มี แต่หลักการถ้าเห็นด้วยก็ให้เขาไปทำรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องถนน สถิติการก่อเหตุ จำนวนประชาชนในพื้นที่ และเวลาการประกอบศาสนกิจและการกรีดยาง จากนั้นมาประมวลเพื่อให้มีการประกาศเคอร์ฟิวน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม บางคนตกใจง่าย พอผู้นำชุมชนท้องถิ่นออกมาขัดขวางแล้วเต้น

เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคใต้ขณะนี้ถือว่าเป็นการท้าทายการประกาศเคอร์ฟิวหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ใช่ท้าทายเพราะเขาทำมาตลอด แต่พรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้แทนในพื้นที่ 2 ปี 6 เดือนทำอะไร ตนอยากจะเอาปี๊บไปคุมหัวพรรคประชาธิปัตย์ ตอนนี้ล่ะเก่งนัก ไหนบอกว่า 99 วันทำได้สำเร็จ เมื่อถามว่า กำหนดการที่จะพบกับมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียตกลงได้พบหรือยัง รองนายกฯ กล่าวว่า “ยังไม่ได้พบเพราะท่านป่วย และพอหายป่วยก็อยู่ระหว่างการเลือกตั้ง ซึ่งการที่ผมจะเดินทางไปพบกับมหาเธร์เพราะนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซียแนะนำ และผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลสนิทกับทีมงานของมหาเธร์ และผมไม่ได้ทำเองเพราะนำผู้ว่าราชการจังหวัดมาสอบถามว่าคุณคิดอะไรไม่คิดอะไร ไม่ใช่คิดแบบไอ้เอเอสทีวี ไอ้สยามรัฐ ไอ้แนวหน้า และไอ้ไทยโพสต์”

เมื่อถามว่า ประเมินว่าสิ่งที่ต้องแลกกับการประกาศเคอร์ฟิวมีอะไรบ้าง รองนายกฯกล่าวว่า ยังไม่รู้เพราะยังไม่ได้ทำ แต่ดีกว่าอยู่เฉยๆ เสียของ หากทำแล้วไม่ดีก็เลิกได้ เมื่อถามว่า เบื้องต้นช่วงเวลาที่จะมีการประกาศคือเวลาใด รองนายกฯ กล่าวว่า ต้องเอาความเห็นของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นตนมีแนวคิดแบบนี้หากเจ้าหน้าที่ตกลงก็รวบรวมกฎหมายดำเนินการ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย และไม่จำเป็นต้องประกาศทุกพื้นที่ พื้นที่ที่เป็นพื้นที่สีเขียวและพื้นที่ที่เป็นเซฟตี้โซนไม่ต้อง ซึ่งต้องนำสถิติมาดู

เมื่อถามว่า คิดว่าการประกาศเคอร์ฟิวจะมีความศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ศักดิ์สิทธิ์สำหรับคนชั่วเพราะจะไม่กล้าออก แต่หากคนดีๆ จะออกมาเราก็อนุญาต แล้วเราต้องเช็ก อะไรที่ไม่เคยทำลองทำบ้างได้หรือไม่ หากที่ประชุมไม่เอาด้วยก็เลิก ตนไม่มีเสียหน้าเพราะมีแต่หัวใจ เมื่อถามว่า ในอดีตเคยมีการประกาศใช้เคอร์ฟิวเมื่อปี 50 แต่ต้องยกเลิกไปเพราะไม่เห็นข้อดี รองนายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เอาเฉพาะตอนตนมารับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม คงต้องรอผลจากที่ประชุมก่อน


กำลังโหลดความคิดเห็น