“เหลิม” เตือนแล้ว พื้นที่ยิงครูชาวนาเสี่ยง ชูบารมี “มหาเธร์” ช่วยดับไฟ ยันไม่แยกดินแดน

“รองเหลิม” รอถก ศปก.กปต.ปมครูสอนทำนาถูกลอบยิง รับเคยเตือนแล้วพื้นที่อันตราย ชาวบ้านอยู่คนละฝั่ง บ่นพวกเอาแต่ขัด เสนอ ตชด.สอนแทนครูไม่เอา แต่ไม่เสนอทางแก้ รอคุย “มหาเธร์” ชมมีศักยภาพเจรจา แย้มปรับแผนดับไฟตรงกัน แต่ไม่ถึงแยกดินแดน พร้อมถก มท.มาเลย์ด้วย ส่วนอินโดฯ ถกแล้วแต่เผยไม่ได้ โวสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศไรท์เชิญจ้อ

วันนี้ (4 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไข ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) ให้สัมภาษณ์กรณีครูชาวนาที่ไปสอนวิธีการทำนาให้ประชาชนในจังหวัดปัตตานีถูกยิงเสียชีวิตว่า เรื่องนี้ตนจะพูดหลังจากการประชุม ศปก.กปต.ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ เพราะหากพูดก่อนคงไม่เหมาะสม ซึ่งในการประชุมตนจะคุยให้เป็นกิจจะลักษณะว่า ศปก.กปต.จะทำอะไรบ้าง จะแบ่งกันให้ชัดเจน หลายเรื่องตนเคยทักท้วงไปแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่อันตรายและสุ่มเสี่ยง เราจะไปแสดงสปิริตอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ เพราะเวลาถูกวิพากษ์วิจารณ์ฝ่ายการเมืองก็ต้องรับผิดชอบเนื่องจากเป็นผู้บริหาร

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาภาคใต้ที่ผ่านมาคิดคนละทิศละทาง อย่างเช่นแนวความคิดของตนที่เสนอให้ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) เข้าไปสอนในพื้นที่ เนื่องจากเห็นว่า ตชด.สามารถพกพาอาวุธได้ ป้องกันตัวเองได้ และสามารถดูแลครูในโรงเรียนได้ แต่กลับมีบางคนออกมาคัดค้าน พอตนถามกลับว่าจะทำอย่างไรก็บอกว่าไม่รู้ แล้วจะให้ทำอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้จะมีการหารือกับทางกองทัพด้วย

“ครูอาสาที่ไปในพื้นที่นั้นเพราะเขาคิดว่าเขาทำดีและต้องการไปช่วย แต่ผมก็เคยบอกแล้วว่าพื้นที่นั้นประชาชนเขาไม่เชื่อเราหรอก วันนี้ต่อให้เจ้าหน้าที่รัฐไปพูดให้ตายเขาก็ไม่เชื่อ เขาคลางแคลงใจเรา นี่ผมกำลังรอจะไปพบมหาเธร์เร็วๆ นี้ โดยกำลังดูวันระหว่างวันที่ 4-9 ก.พ.ถ้าเขานัดมาวันไหนผมพร้อมเดินทางไปทันที ขอให้เชื่อผมเถอะ เรื่องนี้แก้ปัญหาเฉพาะในประเทศเราไม่จบหรอก แต่หลักการที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองทำไว้อย่างไรผมก็เห็นด้วย เพียงแต่ผมจะเติมเต็มโดยไปหารือกับคนที่เขามีบารมีที่จะพูดได้ และวันที่ 21 ก.พ.นี้ รัฐมนตรีมหาดไทยของมาเลเซียจะมาพบผมเพื่อหารือเรื่องนี้กันด้วย” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การหารือกับมหาเธร์ มีแนวโน้มว่าเขาจะช่วยเหลือในเรื่องใดบ้าง รองนายกฯ กล่าวว่า ความจริงนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้แนะนำตนว่ารัฐบาลมาเลเซีย มอบหมายให้มหาเธร์มาพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย และนายมหาเธร์ถือเป็นบุคคลที่มีศักยภาพในการพูดคุยกับคนอื่นได้เยอะ ในขณะเดียวกันในบ้านเราตนก็หารือกับ ส.ส.ในภาคใต้หลายคน เช่น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ซึ่งท่านก็เห็นด้วยกับแนวคิดตน แต่ปัญหาภาคใต้ต้องยอมรับว่าหมักหมมมานานและแก้ยากที่สุด ขนาดพรรคประชาธิปัตย์มี ส.ส.ในพื้นที่เยอะยังแก้ไม่ได้

เมื่อถามว่า มั่นใจว่าอดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะสามารถเป็นตัวกลางในการประสานความร่วมมือ สร้างความเข้าใจกับแกนนำเหล่านั้นได้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าทำได้ และตอนนี้แนวคิดของเราในการแก้ปัญหาที่เคยมีความเห็นไม่ตรงกันก็มีการปรับใหม่ จนมีความเห็นตรงกันแล้ว จึงเชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร เมื่อถามต่อว่า แนวทางการเจรจาจะไม่มีผลต่อปัญหาการแบ่งแยกดินแดนใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มี ไม่ได้ ใครจะไปทำอะไรได้ ที่ผ่านมาตนก็พยายามบูรณาการในการแก้ปัญหามาตลอด โดยเฉพาะการวีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์กับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่

ผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจากมาเลเซียแล้วจะมีการขยายผลคุยกับทางอินโดนีเซียด้วยหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ทางทูตอินโดนีเซียมาคุยกับตนแล้ว แต่ยังเปิดเผยรายละเอียดไม่ได้ แต่ที่ดีที่สุดคือ ตนได้รับเชิญจากสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศไรท์ เพื่อจะไปพูดเรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะสมาคมผู้สื่อข่าวนี้ จะเป็นตัวแพร่ข่าวให้โลกเข้าใจประเทศไทยดีขึ้น