อดีต รมว.ต่างประเทศ ปชป. แจงเขมรไม่ยอมปล่อย “วีระ” เพราะถูกจับหลายครั้ง เผยพยายามช่วยและดูแลถึงที่สุดจนช่วยได้ 5 คน ส่วน “ราตรี” ขออยู่สู้ต่อเอง ยันไม่ทอดทิ้ง ชี้ “เทพเทือก” ถก “สก อาน” พื้นที่ทับซ้อนทะเล มีบันทึก ปัดเจรจาลับ อ้างเขมรตั้ง “แม้ว” ที่ปรึกษาหวั่นประโยชน์ทับซ้อนจึงยกเลิกเอ็มโอยู 44 ตบปาก รมว.กต.พูดนึกถึงประโยชน์ประเทศ แยกเรื่องการเมือง อย่ามัวแต่กัด เลิกเป็นทารก
วันนี้ (10 ก.พ.) นายกษิต ภิรมย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธัตย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่นายวีระ สมความคิด และคณะถูกกัมพูชาจับกุมตัวไปว่า ชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดแนวกว่า 7 พันกิโลเมตรนั้นยังปักหลักเขตแดนไม่แล้วเสร็จ แต่มีการแบ่งเขตปฏิบัติการระหว่างกองทัพไทยกับกัมพูชา ซึ่งพื้นที่ที่นายวีระและคณะเข้าไปและถูกจับกุมนั้นเป็นพื้นที่พิพาทและมีการส่งตัวไปพนมเปญโดยเร็ว เพราะนายวีระเคยถูกจับกุมและส่งกลับมาประเทศไทยมาแล้วหลายครั้ง จึงอาจเป็นเหตุทำให้ถูกคุมขังดังกล่าว
นายกษิตกล่าวว่า รัฐบาลประชาธิปัตย์พยายามติดต่อให้ส่งตัวกลับมา แต่กัมพูชาไม่ยอมโดยรัฐบาลได้ประชุมร่วมกับฝ่ายความมั่นคงและตนได้เดินทางไปพบกับ รมว.ต่างประเทศกัมพูชา ซึ่งได้นำวิดีโอมาให้ดูว่าเส้นทางการเดินของนายวีระและคณะเป็นอย่างไร และตนยังได้เดินทางไปเยี่ยมนายวีระและคณะเพื่อให้ติดต่อกับญาติพี่น้องดูแลจัดหาทนายให้ 2 คน รวมถึงอาหารการกิน และจัดตั๋วเครื่องบินให้มารดาและญาติพี่น้องของนายวีระหลายครั้ง จึงไม่มีอะไรตกหล่นในการดูแลคนไทยเหล่านี้ ในส่วนของตัวเองก็เดินทางไปเยี่ยมถึงสองครั้ง เพื่อช่วยให้เรื่องจบโดยเร็วจนกลับมาได้ 5 คน แต่ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ไม่เซ็นชื่อให้มีการปลดปล่อยตัวเพราะต้องการขออุทธรณ์คดีต่อ นอกจากนี้ ทั้งตนและนายอภิสิทธิ์ก็ได้พบกับมารดาของนายวีระมาโดยตลอด จึงยืนยันได้ว่าการกล่าวหาว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์ไม่เหลียวแลคนเหล่านี้ไม่เป็นความจริง
ส่วนบทบาทของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในช่วงเป็นรองนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลนั้น นายกษิตกล่าวว่า เป็นการตกลงเห็นชอบระหว่างสองนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้หัวหน้าคณะเจรจาอยู่ในระดับรองนายกรัฐมนตรี โดยฝ่ายกัมพูชา คือ นายสก อาน และไทย คือ นายสุเทพ และฝ่ายนายสก อาน เป็นผู้ติดต่อขอพบนายสุเทพเป็นการภายในเพื่อหารือนอกรอบก่อนจึงมีการพบกันที่ฮ่องกง แต่ก่อนที่นายสุเทพจะเดินทางไป ตนได้จัดบรรยายสรุปให้นายสุเทพรับทราบอย่างละเอียด มีข้าราชการที่เกี่ยวข้องอยู่ร่วมบรรยายให้นายสุเทพเพื่อไปเจรจากับนายสก อานด้วย และยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายทางทะเลระหว่างประเทศก็เชิญมาให้ข้อมูลด้วย จึงเป็นการเดินทางไปที่เป็นที่รับรู้ของรัฐบาลและหน่วยราชการ จากนั้นกลับมาก็สรุปมีบันทึกในกระทรวงการต่างประเทศด้วย
สำหรับการยกเลิกเอ็มโอยู 44 นั้น นายกษิตอธิบายว่า เป็นเพราะรัฐบาลฮุน เซน ตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชาและนายกฯ ฮุน เซน จึงเกรงว่าจะมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน จึงเป็นการไม่สมควรที่จะดำเนินการตามเอ็มโอยู 44 และขอเตือนไปถึงนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ว่าไม่สมควรพูดอะไรล่วงหน้า เนื่องจากเป็นเรื่องของผลประโยชน์ประเทศไม่ใช่เรื่องการเมือง เราไม่เอาเรื่องประโยชน์ของประเทศมาทำร้ายคู่แข่งทางการเมืองจนส่งผลกระทบในทางลบต่อภาพรวมของชาติในเรื่องน้ำหนักการเจรจากับต่างประเทศ เพราะถ้าเขาเห็นเราทะเลาะกันกัดกันเป็นหมาวัดก็จะทำให้ขาดภูมิคุ้มกัน เนื่องจากบางฝ่ายแยกแยะไม่ถูกว่าอันไหนเป็นเรื่องส่วนรวม อันไหนเป็นเรื่องส่วนตัวทางการเมือง จึงต้องขจัดความเป็นทารกออกไปเพื่อประโยชน์ของชาติ