xs
xsm
sm
md
lg

พท.ซัดไอ้โม่งงาบโรงพักจวนตัว โยนผิด “พงศพัศ-ตำรวจ” เป็นแพะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จิรายุ ห่วงทรัพย์ (แฟ้มภาพ)
พท.โวยไอ้โม่งงาบโรงพักฉาว พอเรืองจวนตัวโวนบาปตำรวจ และ “พงศพัศ” ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.เป็นแพะ อ้าง “จูดี้” เซ็นเห็นชอบตามคำสั่ง “มาร์ค-เทือก-ปทีป” ในฐานะผู้บังคับบัญชา เผยหาเสียงศึกชิงผู้ว่าฯ เมืองหลวงด้วยนโยบาย ไม่ต่อล้อต่อเถียงใคร

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ สส.กทม.และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการก่อสร้างโรงพักทั่วประเทศที่เกิดปัญหาสร้างเสร็จไม่ทันตามสัญญาว่า วันนี้พวกที่เกี่ยวข้องกำลังเจียนตัวในการที่จะต้องรับผิดชอบ และในฐานะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐนตรี เป็นผู้รับผิดชอบ สตช.ในขณะนั้นโดยตรงจะมาปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้

“พอเรื่องใกล้ตัว หันซ้ายหันขวาหาแพะที่ไหนไม่ได้ก็โยนใส่ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.อย่าง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ว่าเป็นผู้ลงนามในคณะกรรมการด้วยในขณะนั้น ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นการปัดสวะอย่างเห็นได้ชัด พล.ต.อ.พงศพัศ ซึ่งยศในสมัยนั้นก็ยศแค่พลตำรวจโท เป็นข้าราชการในตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร.ในยุคนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพจะไปทำอะไรได้ด้วยตนเองคนเดียว โดยปรกติระดับนโยบายจากรัฐบาลลงมาถึงหน่วยงานนั้นๆ ทั้งสิ้น และสตช.ก็มีคณะกรรมการ แค่ ผช.ผบ.ตร.ไม่มีอำนาจล้นฟ้าขนาดนั้น เอะอะอะไรก็โยนบาปแบบนี้ตนเห็นว่าวันนี้เป็นอาการกลัว อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งฝ่ายการเมืองเป็นผู้อนุมัติโครงการก็น่าแปลกใจอยู่แล้วว่าบริษัทเดียวไปให้สร้างพร้อมกันกว่า 400 โรงพักทั่วประเทศจะเสร็จได้อย่างไร

นายจิรายุกล่าวว่า ตนขอท้าให้นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพตั้งกรรมการร่วมกันในการพิจารณากรณีดังกล่าวนี้ และนายสุเทพ นายอภิสิทธิ์ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ว่าเหตุใด ครั้งแรกอนุมัติให้แยกเปิดประมูลสร้างโรงพัก ตามรายภูธรภาคที่มีถึง 9 ภาค และไปเปลี่ยนเป็นให้ส่วนกลางประมูลจนได้เพียงรายเดียว ซึ่งหากตำรวจภูธรภาค 1-9 เปิดให้ผู้รับเหมา 2-3 รายทำต่อภาคก็จะมีผู้รับเหมา ก่อสร้างทำแค่ภูธรภาคละ 10 กว่าโรงพัก ป่านนี้ตำรวจมีโรงพักสวยงามไปแล้ว และเหตุใด จึงไปแก้ไขให้ส่วนกลางดำเนินการทำและเปิดให้ผู้รับเหมาเพียงรายเดียวสร้างกว่า 400 โรงพักพร้อมกัน อย่างนี้รัฐบาลที่แล้วต้องตอบให้ได้

ส่วนการที่รัฐบาล น.น.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขยายเวลาให้ 30 วันก็เป็นเรื่องปกติ ที่เกิดอุทกภัยผู้รับเหมามาขอขยายเวลาส่งมอบงานก็ไม่เห็นจะแปลกอะไร ก็พยายามจะโยงให้ไปเกี่ยวจนได้ และที่ควรจะแปลกใจน่าจะเป็นต้นทางในการอนุมัติสมัยรัฐบาลที่แล้วมากกว่า ที่สังคมอยากรู้ว่าทำไมต้องรายเดียว

นายจิรายุกล่าวว่า การที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาบอกว่าให้ไปตรวจสอบ พล.ต.อ.พงศพัศว่าไปเซ็นด้วยนั้น ตนถือเป็นเรื่องใช้ไม่ได้ในช่วงวันตรุษจีน เป็นเหลาเหย่ ซี้ซั้วต่าทางการเมือง เพราะหากนายชวนนท์เป็น พล.ต.ท.ชวนนท์ ตำแหน่ง ผช.ผบ.ตร.ในยุคที่นายสุเทพเป็นรองนายกฯ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ เป็นรักษาการ ผบ.ตร. ซึ่งเรื่องการสร้างโรงพักก็มีการเสนออนุมัติกันตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรีชื่อนายอภิสิทธิ์ รองนายกรัฐมนตรีชื่อนายสุเทพ เทือกสุวรรณ ไล่ลงมาถึงรักษาการ ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชวนนท์จะทำอย่างไร

นายจิรายุอ้างว่า พล.ต.อ.พงศพัศไม่เกี่ยวเลย ตัวละครเรื่องนี้มีแค่ 2-3 คนที่จะไปค้นหาความจริงเรื่องนี้ คือ 1. รัฐบาลสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 2. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนรี คุม สตช. และ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ ที่นายอภิสิทธิ์เคยทั้งผลักทั้งดันให้เป็น ผบ.ตร.แต่ ก.ตร.ไม่อนุมัติ จนเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วว่ายุคอภิสิทธิ์มีรักษาการ ผบ.ตร.กว่า 2 ปี เรื่องอย่างนี้ไม่น่าลืมกันง่าย และเลิกโยงผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ได้แล้ว ควรจะหาเสียงกันด้วยนโยบายจะดีกว่า

นายจิรายุกล่าวด้วยว่า เห็นด้วยที่ พล.ต.อ.พงศพัศให้สัมภาษณ์ว่าไม่อยากร้องเรียนไปยัง กกต.กทม. กรณีที่นายศิริโชค โสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ไปตัดแต่งภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หาเสียงกับ พล.ต.อ.พงศพัศบนรถและตกแต่งฉากหลังในลักษณะคล้ายการใส่ร้ายป้ายสี เพราะที่ผ่านมาในการประชุมหลายครั้งนายกรัฐมนตรีกล่าวเสมอว่า “พรรคเราจะต้องหาเสียงด้วยแนวความคิดบวก และที่ผ่านมาในการเลือกตั้งใหญ่ เราก็โดนใส่ร้ายป้ายสีทุกรูปแบบ แต่เราก็ไม่ตอบโต้ ขอให้ตั้งหน้าตั้งตานำเสนอนโยบายที่ดีดีให้กับสังคมไทย เพราะพรรคเพื่อไทย มีสิ่งเดียวที่จะอยู่ได้คือ ประชาชนเท่านั้น”

นายจิรายุกล่าวว่า วันนี้การสำรวจความคิดเห็นของประชาชน หรือโพลจะเป็นอย่างไรนั้นคงไปห้ามเขาทำไม่ได้เว้นแต่มีกฎหมายบังคับ และที่สำคัญโพลหลายสำนักก็ไม่เป็นคุณกับเราก็ไม่เห็นมีใครไปต่อว่าต่อขานอะไร ผลโพลแต่ละแห่งย่อมมีหลักวิชาการในงานวิจัยเชิงปริมาณที่ต้องตอบ ว่าใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบไหนอยู่แล้ว และตนไม่เชื่อว่า สถาบันการศึกษาหลายแห่งที่ทำโพลจะรับใช้ใคร เพราะแต่ละแห่งก็เป็นสถาบันสำรวจความคิดเห็นที่มีเกียรติมีศักดิ์ศรี และทำงานมานานหลายสิบปี หากจะเอาเรื่องการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม.มาทำลายชื่อเสียงตัวเองคงไม่คุ้ม

“จริงๆ พรรคเพื่อไทยก็มีการการสำรวจความคิดเห็นประชาชนหลายครั้ง ตั้งแต่ก่อนการสมัคร และทำมานานหลายเดือนและหลังสมัครและได้เบอร์อีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยนำมาเปิดเผยต่อสาธารณะชน เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อผู้สมัครของตนเอง แต่เป็นการทำเอาไว้ดูเองเพื่อศึกษาว่า พื้นที่ไหนเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นวันนี้กระแสการโจมตีสำนักพลก็คงมาจากคนที่เสียขวัญก็ย่อมหาวิธีดิสเครดิตสำนักโพลต่างๆ อยู่แล้ว”

นายจิรายุกล่าวและว่า “กกต.ควรจะพิจารณาออกกฎหมายไปเลยว่า ห้ามทำโพล หรือห้ามประกาศผลโพล ในช่วงที่มีการเลือกตั้งว่ากันไปเลยก่อนวันสมัคร 120 วัน และหลังวันสมัครเท่าไรจะได้ไม่มีปัญหา เพราะหากกฎหมายไม่ห้าม สำนักโพลก็ทำตามกรอบกฎหมายเลือกตั้งกันมานานเป็นสิบๆ ปีแล้ว”

ส่วนการหาเสียงในพื้นที่ วันนี้นายกฯ ได้กำชับให้รัฐมนตรีช่วย, ส.ส., ส.ก.และ ส.ข.ของพรรค ในทุกพื้นที่ช่วยลงพื้นที่ นำนโยบายดีๆ ของกรุงเทพฯ ไปช่วยหาเสียงนอกเวลาราชการ ซึ่งที่ผ่านมาในพื้นที่คลองสามวาของตนก็มีนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง และนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ซึ่งก็มาช่วงเช้าตอน 6 โมง และช่วงเย็น ตอน 5 โมงเย็น และนายกฯ ก็กำชับให้ใช้รถยนต์ส่วนตัวมาช่วยหาเสียง ซึ่งรัฐมนตรีตรีทุกท่าน ปฏิบัติตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีทุกท่านตลอดกว่า 20 วันที่ผ่านมาอยู่แล้ว ส่วนการหาเสียงของพรรคการเมืองก็ยังคงดำเนินการกันอย่างเข้มข้น และในครั้งนี้ถือว่ามีวิชามารเยอะมาก เช่น การใส่ร้ายป้ายสี ยังทวีความเข้มข้น การเก็บทำลายป้ายยังมีอยู่มากมาย โดยเฉพาะพวกแต่งเติมหน้าตาป้ายหาเสียง ซึ่งวันนี้พรรคกำชับให้ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง ซึ่งหลายเขตก็มีการแจ้งความดำเนินคดีกันบ้างแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น