“พงศพัศ” เปิดนโยบายดูแลความไม่ปลอดภัยคน กทม. ให้มีศูนย์เฝ้าระวังเชื่อมวงจรปิด CCTV ของหน่วยงาน-รัฐร่วมกัน ใช้สถิติอาชญากรรมปีก่อน พร้อมจัดโซนนิ่งวางกำลังให้เหมาะสม นำแอปพลิเคชันรายงาน 24 ชม. วางอาสา 1 แสนคน ทำ ร.ร.สีขาว สานต่อชุมชนอุ่นใจลูกหลานคืน จากการบำบัดยาเสพติด เพิ่มคน-อุปกรณ์-ฮ. พร้อมดับเพลิง
วันนี้ (6 ก.พ.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 9 พรรคเพื่อไทย แถลงนโยบายเฟส 2 ด้านความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยได้เน้นย้ำการลดปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด และอัคคีภัย ว่าจะมีการจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังความปลอดภัย กรุงเทพมหานคร เพื่อทำงานเป็นศูนย์กลางและเชื่อมโยงระบบกล้องวงจรปิด หรือ CCTV ของ กทม.และตำรวจ ตลอดจนหน่วยงานของภาครัฐทุกระบบเข้าด้วยกัน รวมทั้งเชื่อมโยง CCTV และระบบรักษาความปลอดภัยของอาคารสูง นิติบุคคล หมู่บ้าน และคอนโดมิเนียม เพื่อป้องกันการเกิดปัญหา และความสูญเสีย โดยจะมีทีมเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์เข้าถึงที่เกิดเหตุได้ทันที
รวมถึงจัดทำแผนที่ตำแหน่งเหตุการณ์อาชญากรรมให้ชัดเจนด้วยสถิติข้อมูลของปีที่ผ่านมา ร่วมกับหน่วยงานรัฐ และจัดโซนนิ่งพื้นที่เสี่ยงและพื้นที่ปลอดภัยเพื่อจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่ให้เหมาะสม อีกทั้งจะมีการใช้เทคโนโลยีและระบบการสื่อสารด้วยระบบแอปพลิเคชันสมัยใหม่ให้สามารถรายงานเหตุได้อย่างแม่นยำ 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งสนับสนุนจัดอบรมอาสาสมัครเฝ้าระภัย 1 แสนคน โดยจำนวนอาสาสมัครจะขึ้นอยู่กับความมากน้อยของปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องปัญหายาเสพติดจะทำให้โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครเป็นโรงเรียนสีขาว โดยเยาวชนจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากครูและผู้ปกครอง และสนับสนุนขยายโครงการชุมชนอุ่นใจได้ลูกหลานกลับคืน อีกทั้งจะให้โรงพยาบาลในสังกัด กทม.เป็นศูนย์ฟื้นฟูบำบัดผู้ติดยาเสพติดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ ในเรื่องปัญหาอัคคีภัยจะมีการเพิ่มจำนวนสถานีตำรวจดับเพลิงให้ครอบคลุมเขตชุมชนและตึกสูง รวมถึงเพิ่มบุคลากร รถดับเพลิง และอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ให้มีจำนวนที่เหมาะสมและทันสมัยมากขึ้น และจัดหาเฮลิคอปเตอร์ดับเพลิงให้พอเพียงกับการแก้ปัญหาอัคคีภัยของอาคารสูงอย่างเหมาะสม ทั้งนี้จะมีการติดตั้งระบบ GPS บนรถสาธารณะทุกคัน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการด้วย