โฆษกเพื่อไทย เผยประชุมพรรคพรุ่งนี้ถกปราศรัยย่อย เน้นจ้อทุกวัน ส่งสก.สข.เคาะตามบ้าน ปัดรัฐสู้พระวิหารปกปิดข้อเท็จจริง อ้างนายกฯ ย้ำสู้เต็มที่ ก่อนโบ้ยทีมทำคดีก็แต่งตั้งยุคมาร์ค จี้ประชาธิปัตย์ร่วมมือรัฐ ท้า "สุเทพ" แจงสร้างโรงพัก
วันนี้ (27 ม.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการประชุมพรรคเพื่อไทยในวันพรุ่งนี้ว่าจะมีการหารือเรื่องจัดทีมปราศรัยย่อยช่วยพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคพรรคเพื่อไทย โดยจะแบ่งทีมออกเป็น 6 ทีม ใน 3 โซน ได้แก่ฝั่งธนบุรี กรุงเทพฯชั้นใน และกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก ซึ่งมีผู้รับผิดชอบได้แก่นายวราเทพ รัตนากร นายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ และนายยุรนันท์ ภมรมนตรี แกนนำและสมาชิกพรรคเพื่อไทย นำทีมปราศรัย ร่วมกับ ส.ส. สก. และ สข. เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มประชาชนชาวกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต นำนโยบายลงไปให้ประชาชนได้รับทราบ เน้นการใช้รถติดเครื่องขยายเสียง ทั้งนี้จะมีการปราศัยทุกวัน วันละ 2 จุด เน้นเวลาในช่วงเย็น นอกจากนี้จะให้สก. และ สข. ลงหาเสียงโดยการเข้าไปเคาะประตูบ้านตามบ้านเรือน หมู่บ้าน และตึกสูง ให้ประชาชนได้รับทราบนโยบายในทุกพื้นที่
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุการดำเนินการของรัฐบาลในการต่อสู้เรื่องคดีปราสาทพระวิหาร เป็นการปกปิดข้อเท็จจริง ว่า ตนขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ยืนยันรัฐบาลทำหน้าที่ในการรักษาดินแดน และความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำให้คณะทำงานต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด ซึ่งข้อกล่าวหาของนายถาวร ถือเป็นการแสดงความคิดเห็นที่ไม่สร้างสรรค์ เป็นวาทะกรรมทางการเมือง ทั้งนี้ยืนยันทีมกฏหมายที่ทำงานต่อสู้คดีก็เป็นทีมเดิมที่ตั้งโดยรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชาชชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า อยากให้พรรคประชาธิปัตย์อย่านำเรื่องดังกล่าวมาวิพากษ์วิจารณ์ และนำมาเป็นประเด็นทางการเมือง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ควรร่วมมือกันกับรัฐบาลแทนการกล่าวหาโจมตี เพราะเป็นสิ่งไม่สมควร และหากมีข้อมูลก็ควรนำมาให้รัฐบาลได้รับทราบ เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องระดับประเทศ อาจมีผลกระทบต่อรูปคดีและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ ทั้งนี้ทุกฝ่ายควรให้กำลังและติดตามการดำเนินงาน โดยนายพงษ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จะเดินทางไปประเทศอังกฤษเพื่อหารือกับทีมกฏหมายระหว่างประเทศในการต้อสู้คดี
นอกจากนี้นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีการตรวจสอบโครงการโรงพักทดแทน ที่ใช้งบไทยเข้มแข็งของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า จากการตรวจสอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษพบว่าโครงการดังกล่าวมีการทุจริตเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนบางรายจริง นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ จะอ้างว่าไม่รู้เรื่องไม่ได้ จึงขอให้พรรคประชาธิปัตย์ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบควบคู่กับการทำงานของดีเอสไอ เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงว่าใครในพรรคมีส่วนเกี่ยวข้อง อย่าดำเนินการสองมาตรฐาน พร้อมขอท้านายสุเทพ ออกมาชี้แจงในฐานะเป็นผู้ลงนามเปลี่ยนแปลงคำสั่งรวบอำนาจไว้ที่ส่วนกลางในการประมูลรับเหมาด้วย