“สุกำพล” หนุนแนวคิดให้ รด.เกณฑ์ทหาร แก้ระบบกำลังสำรอง ยันทหารพร้อม รปภ.คนนอกลงพื้นที่ แต่ต้องบอก ยังไม่ปรับแผนดูแลตรุษจีน โอดกฎหมายไม่เข้มทำความเสี่ยงเพิ่ม แต่ลั่นไม่ใช้เคอร์ฟิวแน่ โยนสภาตอบนิรโทษกรรมแดง ชี้ถ้าเดินหน้าแล้วดีขึ้นก็อย่ากลัว
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่ท่าอากาศยาน บน.6 เมื่อเวลา 08.30 น. พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีแนวคิดที่จะให้ผู้ที่เรียนจบหลักสูตรนักศึกษาวิชาทหารเข้ามาเกณฑ์ทหารว่า แนวคิดดังกล่าวเป็นแนวคิดของ ผบ.ทบ. และตนคิดว่าเป็นแนวคิดที่ดี เพราะอาจทำให้ชายไทยมีความเป็นทหารมากขึ้น และต้องการแก้ไขระบบกำลังสำรอง เนื่องจากของเดิมใช้กันมานานแล้ว ซึ่งต้องดูว่าจะทำอย่างไรให้ดีขึ้น และเข้ากับการเปิดประเทศเป็นประชาคมอาเซียนด้วย แต่แต่ยังคงเป็นเพียงแนวทางที่คงต้องนำมาหารือร่วมกันอย่างรอบคอบต่อไป
รมว.กลาโหมให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายทำร้ายคนนอกพื้นที่ที่เข้าไปใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ทางทหารพร้อมทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัย หากมีการขอร้องมาก็พร้อมช่วยเหลือ แต่ถ้าไม่บอกทหารก็ไม่ทราบ ทั้งนี้ ตนย้ำว่าในส่วนพื้นที่ที่ที่ทหารดูแลนั้นมีความปลอดภัย ถ้าใครต้องการเข้ามาดำเนินการใดๆ ในพื้นที่ขอให้บอกมา ทหารพร้อมช่วยเหลือ ส่วนที่มองว่าจะต้องมีการปรับนโยบายแนวทางการดำเนินการในการแก้ไขปัญหานั้น ตนคิดว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องมีการปรับ รวมถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลต่างๆ เช่นตรุษจีนด้วย
“แต่ปัญหามีอยู่ว่า การดำเนินงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่ได้มีการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงที่เข้มข้น เลยอาจทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เพราะชาวบ้านมีเสรีในเคลื่อนไหวไปไหนมาไหนถือเป็นความต้องการของประชาชน จึงยังทำให้มีเหตุเกิดมากขึ้น ซึ่งต้องต้องมีความระมัดระวังตนเองมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ากฎหมายที่บังคับใช้อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในปัจจุบันเป็นกติกาเดียวกับพื้นที่ กทม. และจะไม่มีการประกาศใช้กฎหมายอื่น เช่น การประกาศเคอร์ฟิวแน่นอน” พล.อ.อ.สุกำพลระบุ
พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงเดินหน้าเสนอ พ.ร.ก.นิรโทษกรรมว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมายังไม่ได้มีการหารือเรื่องดังกล่าว เพราะถือว่าเป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎร ส่วนตนไม่สามารถให้คำตอบได้ เพราะไม่ทราบในหลักการพิจารณา สำหรับที่มีความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งได้นั้น ตนมองว่าหากจะเดินหน้ากฎหมายดังกล่าวแล้วทำให้ทุกอย่างดีขึ้นก็ไม่ต้องไปกลัว ถ้ามีผลดีต่อประเทศชาติก็ต้องทำ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องมีการคิดไตร่ตรองคำนึงถึงจุดนี้ ส่วนการที่กลุ่มคนเสื้อแดงพยายามผลักดันให้พ.ร.ก.ดังกล่าวเข้าที่ประชุม ครม.นั้น ตนมองว่าก็เป็นความคิดเห็นของกลุ่มคนเสื้อแดง ทางรัฐบาลก็ไม่ได้ว่าอะไร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีต้องหาจุดที่เหมาะสม และรับฟังทุกอย่าง ส่วนแนวทางการดำเนินการนั้นเป็นเรื่องที่ละเอียด
“ผมยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวยังไม่ได้เข้า ครม.ในช่วงนี้ เป็นเพียงหลักการที่จะต้องดูก่อนว่าเป็นอย่างไร หากดีก็ต้องว่ากันไป” รมว.กลาโหมกล่าว