“สนธยา” ลุยนิรโทษฯ “กํานันเป๊าะ” ปัดช่วยหลบหนี “เหลิม” โบ้ยแพทย์เหตุย้ายไปชลฯ

รมว.วธ.ยันพ่อป่วยจริง ชี้เป็นสิทธิย้ายรักษาถิ่นตัวเองตาม กม. เผยศึกษาการอภัยโทษพร้อมช่วยเต็มที่ในฐานะของลูก อ้างพ่อเดินทางเข้าออกประเทศเอง ปัดให้ที่พักพิง “เป็ดเหลิม” ย้ำไม่เลือกปฏิบัติ เป็นคนดังเลยเป็นข่าว โยนความลับแพทย์เหตุให้ย้ายรักษาชลบุรี เงียบนิรโทษฯ ผ่านหรือไม่ แต่รับมีสิทธิขอ


วันนี้ (5 ก.พ.) นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวถึงการย้ายตัวนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ ออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไปคุมขังที่เรือนจำกลางจังหวัดชลบุรี ก่อนเข้ารักษาตัวที่ รพ.จังหวัดชลบุรี ว่าเนื่องจากนายสมชายมีอาการป่วย โดยขณะนี้มีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด และอาการก็เป็นไปตามที่แพทย์แถลงข่าว ยืนยันว่าเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งเป็นไปตามสิทธิของผู้ป่วย ไม่ได้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังในการย้ายนายสมชายเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลดังกล่าวแต่อย่างใด

นายสนธยายังกล่าวถึงแนวโน้มการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่นายสมชายด้วยว่า ขณะนี้กำลังศึกษาในข้อกฎหมายว่าจะสามารถยื่นขอพระราชทานอภัยโทษได้หรือไม่ รวมทั้งศึกษาในเรื่องกรอบเวลาด้วย เนื่องจากนายสมชายอยู่ระหว่างการรับโทษ ซึ่งเป็นไปตามสิทธิทางกฎหมาย ทั้งนี้ตนและพี่น้องทุกคนในครอบครัวก็จะทำหน้าที่ลูกอย่างเต็มที่ และจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่รู้สึกกังวลต่อผลกระทบทางการเมือง ทั้งตำแหน่งรัฐมนตรี และพรรคพลังชล เพราะทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมาย และการดำเนินคดีก็ถือว่าสิ้นสุดแล้ว เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องอธิบายต่อสังคม เพราะกฎหมาย ป.วิอาญา บอกถึงถึงสิทธิที่ผู้ต้องขังจะได้รับอยู่แล้ว และครอบครัวก็ดูแล

ส่วนข้อกล่าวหากรณีให้ที่พักพิงกับนายสมชายในระหว่างหลบหนีคดีนั้น นายสนธยากล่าวว่า การเข้าออกประเทศของนายสมชายไม่มีใครทราบ จึงไม่รู้สึกกังวลเรื่องการเดินทางเข้าออกประเทศ หรือประเด็นการให้ที่พักพิง เพราะที่ผ่านมานายสมชายดำเนินการเอง ส่วนกรณีที่ตำรวจจะมีการสืบประวัติจากโรงพยาบาลที่นายสมชายเข้ารักษาตัวนั้นก็เป็นหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน และเรายินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง

ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า นายสมชายไม่ได้รับสิทธิพิเศษในการย้ายที่ต้องขังแต่อย่างใด เพราะมีกฎหมายระบุถึงสิทธิตรงนี้ไว้ ส่วนกรณีนี้ผู้ต้องขังมีอาการเจ็บป่วยซึ่งก็ต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลก่อน ไม่ถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ เพียงแต่ผู้ที่ถูกจับเป็นคนมีชื่อเสียงจึงถูกจับตามองเป็นธรรมดา เมื่อผู้ต้องขังถูกส่งตัวไปอยู่โรงพยาบาลก็มีเจ้าหน้าที่ดูแลป้องกันการหลบหนี

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงต้องส่งตัวไปรักษาที่ จ.ชลบุรี และไม่เปิดเผยการรักษา ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า อาการเจ็บป่วยของคนไข้นั้นแพทย์มีหน้าที่ต้องเก็บเป็นความลับ และผู้ต้องหาก็มีภูมิลำเนาที่ จ.ชลบุรี เมื่อยื่นคำร้องก็สามารถอนุมัติได้ ส่วนการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเป็นสิทธิของนักโทษ แต่ต้องได้รับพระมหากรุณาธิคุณ นักโทษทุกคนสามารถยื่นได้ แต่ใช่ว่ายื่นขออภัยโทษแล้วจะได้รับอนุมัติ เมื่อถามว่ากรณีนี้เข้าข่ายได้รับพระราชทานอภัยโทษหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้