กาฬสินธุ์ - ธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยด.ญ.สุภาพร วัย 11 ปี ยอดกตัญญูเมืองกาฬสินธุ์ เลี้ยงพ่อป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งตั้งกองทุนช่วยเหลือ ขณะที่มีผู้ใจบุญสร้างบ้านหลังเล็กให้ ชื่นชมเด็กมีความเข้มแข็ง เป็นแบบอย่างที่ดีกับเยาวชน
จากกรณีสื่อนำเสนอเรื่องราวชีวิตสุดเวทนาของด.ญ.สภาพร ญาณสิทธิ์ อายุ 11 ปี หรือน้องนุ่น เด็กหญิงยอดกตัญญู นักเรียนโรงเรียนเหล่าหลวงวิทยาคาร อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ที่ดูแลบิดาซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัวมานาน 3 ปี และด้วยฐานะยากจน ต้องรับบริจาคข้าวก้นบาตร ข้าวจากโรงอาหารโรงเรียน มาป้อนบิดา และบางวันต้องอดมื้อกินมื้อตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้(31 พ.ค.) นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นางราณี สุบงกฎ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ นายนิคม ปัญจวัฒน์ นายอำเภอเมือง และเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วยนายภาคภูมิ และนางอดิภา สุวรรณชมภู เจ้าของร้านพร้อมพรรณเนื้อย่างเกากลี ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ใจดี ไปมอบเงินช่วยเหลือ และแสดงความจำนงในการสร้างบ้านให้กับน้องนุ่น ท่ามกลางความดีใจของกลุ่มผู้นำชุมชน คณะครู และนักเรียนโรงเรียนเหล่าหลวงวิทยาคาร
ทั้งนี้ นายสุวิทย์และเหล่ากาชาดจังหวัด มอบเป็นเงินก้นถุงรวม 10,000 บาท ข้าวสารอาหารแห้ง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวก และจักรยานคันใหม่ให้ขี่ไปโรงเรียน
นายสุวิทย์ กล่าวว่า เรื่องความกตัญญูที่สื่อนำเสนอ ได้ส่งผลบุญให้มีผู้มีจิตกุศล แสดงความจำนงผ่านมายังจังหวัดเป็นจำนวนมาก ซึ่งในส่วนของจังหวัด โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะเสนับสนุนส่งเสริมพร้อมกับติดตามพัฒนาการของเด็กไปจนโต ในส่วนของนายสมบูรณ์ ญาณสิทธิ์ บิดาของน้องนุ่น เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะนำตัวไปรักษา เพื่อแบ่งเบาภาระในการดูแล เพราะเท่าที่สอบถามน้องนุ่น เด็กคนนี้มีความรักและกตัญญูต่อบิดาเป็นอย่างมาก
ส่วนการช่วยเหลือนอกจากนี้ จังหวัดได้เปิดบัญชีธนาคารเพื่อตั้งเป็นกองทุนช่วยเหลือ โดยใช้บัญชีของ ธนาคารกรุงไทย สาขากาฬสินธุ์ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 4043015615 ชื่อบัญชีกองทุนช่วยเหลือด.ญ.สุภาพร ญาณสิทธิ์ (น้องนุ่น) และเพื่อป้องกันปัญหาด้านการเบิกจ่ายและการใช้เงิน เงินทุกบาทที่ส่งมาช่วยเหลือ จะมีลายเซ็นต์เบิก 3 คน ประกอบด้วย 1.ด.ญ.สุภาพร ญาณสิทธิ์ 2.นายธวัชชัย สำราญวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเหล่าหลวงวิทยาคาร 3.นายอุดมชัย ชมเชี่ยวชาญ นายกเทศมนตรีตำบลภูดิน นอกจากนี้ยังมีผู้ใหญ่ใจดีได้แสดงความจำนงสร้างบ้านใหม่ให้ด้วย
นายสุวิทย์ กล่าวว่า ธารน้ำใจที่หลั่งไหลเข้ามานั้นหมายถึงคุณงามความดีของน้องนุ่น ที่ส่งผลให้คนทั่วไปได้เห็นว่า การทำความดี ความกตัญญูต่อบิดาคือเสน่ห์ที่งดงาม ซึ่งปัจจุบันน้อยนักที่จะหาเด็กที่มีจิตใจเข้มแข็งเช่นนี้ จึงถือเป็นแบบอย่างให้กับเด็กรุ่นใหม่ได้เป็นตัวอย่างต่อไป
ด้านนายธวัชชัย สำราญวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเหล่าหลวงวิทยาคาร กล่าวว่า หลังจากมีการเสนอข่าวทั้งจากโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ได้มีผู้ใหญ่ใจดีโทรศัพท์มาสอบถาม และแจ้งความจำนงบริจาคทรัพย์มากกว่า 100 คน ในฐานะเป็นครูก็ขอกราบขอบพระคุณทุกท่าน ที่ต้องการช่วยเหลือนักเรียนคนนี้ ซึ่งในส่วนของทางโรงเรียนก็จะเป็นกำลังหลักในพื้นที่ ติดตามพัฒนาการ รวมถึงชีวิตที่เชื่อว่าจะดีขึ้นตามลำดับ
นางอดิภา สุวรรณชมพู เจ้าของร้านพร้อมพรรณเนื้อย่างเกาหลี ผู้ใหญ่ใจดี กล่าวว่า ได้แสดงความจำนงที่จะสร้างบ้านใหม่ให้กับน้องนุ่น เพราะหลังจากเห็นข่าวในหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ รู้สึกตกใจและสงสารน้องนุ่นเป็นอย่างมาก ซึ่งตนก็เป็นคนกาฬสินธุ์ จึงได้ขับรถออกมาดู ก็ปรากฏเห็นน้องนุ่นกำลังเช็ดตัว ไล่ยุ่งให้พ่อภายในบ้านที่มองยังไงก็ไม่ใช่บ้าน เป็นเพียงกระท่อมปลายนา แถมมีกลิ่นเหม็นที่เกิดจากความสกปรก จึงได้แสดงความจำนงสร้างบ้านให้ โดยได้ขอใช้พื้นที่บ้านของยายน้องนุ่น ซึ่งขณะนี้ได้นำช่างเข้าสร้างบ้านแล้ว และสำหรับผู้ใจบุญที่ต้องการช่วยเหลือเด็กยอดกตัญญูคนนี้ ก็ยังสามารถช่วยเหลือได้
"ขอชื่นชมเด็กด้วยว่า เป็นเด็กที่มีจิตใจเข้มแข็งจริงๆ"
ขณะที่ด.ญ.สุภาพรกล่าวว่า ดีใจมากและขอบพระคุณผู้ที่ใจบุญทุกท่านที่ให้การช่วยเหลือ โดยเฉพาะสื่อมวลชนทั้งโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ ที่ช่วยกันนำเสนอข่าว ซึ่งขอสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนให้มากขึ้น และจะดูแลบิดาให้ดีที่สุด
