xs
xsm
sm
md
lg

กรรม-การเมืองกระแทก ปชป.กระเทือนกรุงเทพฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ผ่าประเด็นร้อน

แม้จะรู้ทันว่าหลายเรื่องราวที่กำลังประดังเข้ามาในตอนนี้เป็นการวางแผนและออกแบบจากฝ่ายตรงข้ามอย่างพรรคเพื่อไทยและรัฐบาล บางเรื่องยังมีการ “สมคบ” กับต่างชาติ เพื่อหวังผลทางการเมือง และผลประโยชน์ตอบแทนทางธุรกิจของบุคคลที่เป็น “เจ้าของ” แต่ขณะเดียวกัน มันมี “ความจริง” เข้ามาเจือปนไม่น้อยเสียด้วย

และด้วยเหตุดังกล่าวนี่เองที่กำลังส่งผลกระทบต่อการเมืองโดยตรงทั้งในภาพรวมและการเมืองท้องถิ่นระดับสำคัญอย่างการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่กำลังเข้มข้นอยู่ทุกขณะในขณะนี้

แน่นอนว่าทั้งกรณีการปล่อยตัว ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ และการลดโทษ 6 เดือนให้กับ วีระ สมความคิด หลังจากติดคุกในเขมรนานกว่า 2 ปี พร้อมๆกับกรณีเริ่มเปิดฉากไล่บี้การทุจริตก่อสร้างโรงพักของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั่วประเทศในช่วงเวลานี้มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกเหนือจากเป็น “เกมการเมือง” ที่พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลจงใจ “เล่นงาน” พรรคประชาธิปัตย์ โดยเลือกเอาจังหวะเวลาสำคัญ นั่นคือศึกเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่การหาเสียงกำลังเข้มข้น

กรณีแรกแม้ว่าจะมีข้ออ้างสารพัด โดยเฉพาะในช่วงการถวายเพลิงพระศพสมเด็จพระสีหนุก็ตาม แต่เมื่อมีการปล่อยตัวในช่วงเวลาสำคัญ นั่นคือตรงกับช่วงการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ มันก็มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากต้องการสร้างกระแสหวังผลต่อคะแนนเสียง อย่างน้อยก็ส่งผลกระทบต่อฝ่ายตรงข้ามนั่นคือผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์

การปล่อยตัวหรือการ “ลดโทษ” ดังกล่าว ไม่ต่างจากการออกแบบมาแล้วล่วงหน้า จนเข้าใจว่านี่คือแผนสมคบกันระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลเขมรฮุนเซน ที่นาทีนี้ไม่รู้ว่ารัฐบาลประเทศไหนตกเป็นเบี้ยล่าง หรือว่า “ต่างตอบแทน” ก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น หากพิจารณาจากความสัมพันธ์จาก “เจ้าของ” รัฐบาล และพรรคเพื่อไทย อย่าง ทักษิณ ชินวัตร ทั้งก่อนหน้านี้ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

เพราะหลังจากนั้นข่าวคราวและความเคลื่อนไหวของคนที่ได้รับการปล่อยตัวออกมา คือ ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ก็ได้ให้สัมภาษณ์ยืนยันความมุ่งหมายเดิมของเธอคือรักษาและปกป้องอธิปไตยไทย และที่สำคัญได้ย้ำถึงความเจ็บปวดในใจมาตลอดก็คือถูกทหารเขมรจับกุมในดินแดนไทย ซึ่งถ้าจะเรียกให้ถูกต้องก็คือ “ถูกลักพาตัว” นั่นแหละ และคนที่เสือกใสไล่ส่งไปถึงคุกเขมรก็คือรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ที่นำโดย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มี สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง มี พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และมี กษิต ภิรมย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ไปยืนยันให้เสร็จสรรพว่าฝ่ายเรารุกล้ำเขตแดนเขมร

ทั้งที่มีเอกสารยืนยันอย่างชัดเจนว่า บริเวณพื้นที่ตรงนั้นเป็นของไทย และเคยอนุเคราะห์ตั้งเป็นศูนย์อพยพให้ชาวเขมรลี้ภัยสงครามหนีร้อนมาพึ่งเย็น แต่กลายเป็นว่าคิดจะฮุบแผ่นดินไทย โดยมีคนไทยบางคนเห็นดีเห็นงามเพื่อแลกกับผลประโยชน์ โดยอ้างว่าเพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดี

อีกเรื่องหนึ่งที่น่าจับตาเพราะเกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน นั่นคือกรณีการทุจริตก่อสร้างสถานีตำรวจและแฟลตตำรวจทั่วประเทศ ซึ่งเวลานี้ฝ่ายพรรคเพื่อไทย รัฐบาลกำลังเร่งสร้างกระแสกันรายวัน โดยใช้กลไกของกรมสอบสวนคดีพิเศษของ ธาริต เพ็งดิษฐ์ เป็นหัวหอกเช่นเคย แม้ว่าหลักฐานการทุจริตยังไม่ชัด แต่ก็เริ่มมีการปล่อยข่าวกล่าวหาพาดพิงไปถึง สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่เคยเป็นรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงคุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติในขณะนั้นเข้าไปเกี่ยวข้อง

ตอกย้ำด้วยคำพูดพล่อยๆ ตามมาจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ที่คุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติในปัจจุบันย้ำขึงขังว่า “งานนี้ต้องมีคนติดคุก” พร้อมกับมีรายงานข่าวระบุออกมาไล่เลี่ยกันทำนองว่ามีเงิน “เข้ากระเป๋า” นักการเมืองบางคนนับพันล้านบาท

แน่นอนว่าทั้งสองเรื่องดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบต่อฝ่ายตรงข้ามอย่างแน่นอน แม้ว่าอีกด้านหนึ่งอาจไม่ทำให้ฝ่ายเพื่อไทยได้คะแนนเพิ่ม แต่รับรองว่าย่อมส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของชาวบ้าน อย่างน้อยกับความรู้สึกของคนกรุงเทพฯและโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพในอดีตเมื่อครั้งที่ วีระ-ราตรี ถูกจับกุมและถูกขังฟรีในคุกเขมร มันก็เริ่มผุดขึ้นมาอีกครั้ง

ประกอบกับในช่วงเวลาเดียวกันที่การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกรุงเทพมหานครกำลังผ่านพ้นช่วงโค้งที่ 2 เข้าสู่โค้งที่ 3 ก่อนโค้งสุดท้าย ก็มีผลสำรวจออกมาจากทุกสำนักตรงกันว่าผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย คือ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ มีคะแนนทิ้งห่างผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ คือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร มากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะมีเสียงทักท้วงว่าเป็น “โพลปลอม” หรือ “รับจ้าง” ก็ตาม แต่เมื่อดูบรรยากาศการหาเสียงมันก็อดคล้อยตามบ้างไม่ได้เหมือนกัน

ถ้าจะให้สรุปก็ต้องบอกว่า ทั้งสองกรณีดังกล่าวแม้ว่าจะมองออกว่านี่คือเกมที่ฝ่ายพรรคเพื่อไทยจงใจสร้างกระแสขึ้นมาดิสเครดิตพรรคประชาธิปัตย์ พุ่งเป้าไปที่ อภิสิทธิ์-สุเทพ เป็นหลัก โดยเลือกจังหวะเวลาในช่วงที่กำลังมีการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รวมไปถึงลดกระแสความไม่พอใจเรื่องการไม่ปกป้องอธิปไตยของชาติ รวมไปถึงการฉวยโอกาสที่ ราตรี ถูกปล่อยตัวออกมาแล้วพูดความจริงอันเจ็บปวดก็คือ รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นคนตอกย้ำการันตีดินแดนให้เขมร

ดังนั้น ถ้าบอกว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็น “กรรม” นั่นคือผลจาก “การกระทำ” ของพวกเขา ซึ่งจะส่งผลกระทบทางการเมือง โดยเฉพาะต่อการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานครอย่างแน่นอน!!
พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ
 สุเทพ เทือกสุบรรณ
กำลังโหลดความคิดเห็น