นายกสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข นำ อสม.ยื่นเอกสารต่อวุฒิสภา สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.วิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน หลังถูกสงวนคำขอแปรญัตติให้ตัดเหลือช่วยเหลือผู้ป่วยเพื่อส่งต่อ ชี้ขัดเจตนารมณ์ ช่วยเหลือประชาชนไม่ได้ แม้แต่ทำแผลหรือฉีดยา หวั่นผู้ป่วยตามถิ่นทุรกันดารมีปัญหา
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายไพศาล บางชวด นายกสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข พร้อมด้วยอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. เข้ายื่นข้อมูลเอกสารประกอบการยืนยันสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.วิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน พ.ศ... ที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบแล้ว ต่อวุฒิสภา ผ่านทางนายนิคม ไวยารัชพานิช ประธานวุฒิสภา เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว หลังจากที่กรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ วุฒิสภาเห็นด้วยกับ กมธ.เสียงข้างน้อย ที่สงวนคำขอแปรญัตติให้ตัดถ้อยคำว่า “การตรวจวินิจฉัยและบำบัดรักษาโรคเบื้องต้น” รวมถึง “ประเมินอาการเจ็บป่วยออกจากคำนิยาม” ตามนิยามมาตรา 3 วรรค 1 และ วรรค 2 (3) และ (4) เหลือไว้เพียง “การดูแลและให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยเพื่อส่งต่อ”
ทั้งนี้ สมาคมวิชาชีพสาธารณสุขในฐานะองค์กรในการผลักดันเสนอร่าง พ.ร.บ.วิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน พ.ศ. ... เห็นว่า หากให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมในสาระสำคัญ ในหลายมาตราจะส่งผลกระทบต่อสาระสำคัญซึ่งขัดกับเจตนารมณ์ของสภาผู้แทนราษฎร ที่ต้องการให้มีการตรากฎหมายและสามารถนำไปบังคับใช้ในทางปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้หากร่างกฎหมายที่พิจารณาตัด “การตรวจวินิจฉัยและบำบัดรักษาโรคเบื้องต้น” ออกไป จะทำให้สาธารณสุขชุมชนไม่สามารถที่จะดูแลประชาชนในเรื่องการรักษาผู้ป่วยเล็กน้อย เช่น การทำแผล การฉีดยาไม่ได้ ซึ่งจะทำให้ประชาชนที่อยู่ในชนบทหรือถิ่นทุรกันดารต้องประสบปัญหา เช่น เดินทางไกลขึ้น เพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลในตัวเมือง อีกทั้งเมื่อตัดสาระสำคัญดังกล่าวออกไป จะทำให้สาธารณสุขชุมชน มีหน้าที่เพียงการส่งเสริมสุขอนามัย เช่น การป้องกันไข้เลือดออก การป้องกันโรคอุจจาระร่วง เพียงเท่านั้น
ด้านนายนิคมกล่าวว่า ตนสนับสนุนความเห็นของสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข เนื่องจากปัจจุบันบุคลาการทางการแพทย์มีไม่เพียงพอ จึงทำให้สาธารณสุขชุมชนมีความสำคัญที่จะแบ่งเบาภาระงานของแพทย์ พยาบาลในโรงพยาบาล
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายไพศาล บางชวด นายกสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข พร้อมด้วยอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. เข้ายื่นข้อมูลเอกสารประกอบการยืนยันสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.วิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน พ.ศ... ที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบแล้ว ต่อวุฒิสภา ผ่านทางนายนิคม ไวยารัชพานิช ประธานวุฒิสภา เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว หลังจากที่กรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ วุฒิสภาเห็นด้วยกับ กมธ.เสียงข้างน้อย ที่สงวนคำขอแปรญัตติให้ตัดถ้อยคำว่า “การตรวจวินิจฉัยและบำบัดรักษาโรคเบื้องต้น” รวมถึง “ประเมินอาการเจ็บป่วยออกจากคำนิยาม” ตามนิยามมาตรา 3 วรรค 1 และ วรรค 2 (3) และ (4) เหลือไว้เพียง “การดูแลและให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยเพื่อส่งต่อ”
ทั้งนี้ สมาคมวิชาชีพสาธารณสุขในฐานะองค์กรในการผลักดันเสนอร่าง พ.ร.บ.วิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน พ.ศ. ... เห็นว่า หากให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมในสาระสำคัญ ในหลายมาตราจะส่งผลกระทบต่อสาระสำคัญซึ่งขัดกับเจตนารมณ์ของสภาผู้แทนราษฎร ที่ต้องการให้มีการตรากฎหมายและสามารถนำไปบังคับใช้ในทางปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้หากร่างกฎหมายที่พิจารณาตัด “การตรวจวินิจฉัยและบำบัดรักษาโรคเบื้องต้น” ออกไป จะทำให้สาธารณสุขชุมชนไม่สามารถที่จะดูแลประชาชนในเรื่องการรักษาผู้ป่วยเล็กน้อย เช่น การทำแผล การฉีดยาไม่ได้ ซึ่งจะทำให้ประชาชนที่อยู่ในชนบทหรือถิ่นทุรกันดารต้องประสบปัญหา เช่น เดินทางไกลขึ้น เพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลในตัวเมือง อีกทั้งเมื่อตัดสาระสำคัญดังกล่าวออกไป จะทำให้สาธารณสุขชุมชน มีหน้าที่เพียงการส่งเสริมสุขอนามัย เช่น การป้องกันไข้เลือดออก การป้องกันโรคอุจจาระร่วง เพียงเท่านั้น
ด้านนายนิคมกล่าวว่า ตนสนับสนุนความเห็นของสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข เนื่องจากปัจจุบันบุคลาการทางการแพทย์มีไม่เพียงพอ จึงทำให้สาธารณสุขชุมชนมีความสำคัญที่จะแบ่งเบาภาระงานของแพทย์ พยาบาลในโรงพยาบาล