เครือข่ายอนุรักษ์วิถีเกษตรกรรมสระบุรี ยื่นวุฒิสภาสอบพลังงาน ประกาศกองทุนพัฒนาไฟฟ้าใช้ชื่อเอกชนพ่วงส่อเอื้่อประโยชน์ทำคนเข้าใจผิด ซัดเยียวยาไม่ครอบคลุม ด้านรองประธาน ส.ว.ชง กมธ.สิ่งแวดล้อม วุฒิฯ สอบต่อ
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายตี๋ ตรัยรัตนแสงมณี เครือข่ายอนุรักษ์วิถีเกษตรกรรม จ.สระบุรี ได้ยื่นคำร้องต่อนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา เพื่อให้ตรวจสอบกรณีที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานออกระเบียบและประกาศโดยมิชอบ ตาม พ.ร.บ.ประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 และไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
นายตี๋กล่าวว่า การที่คณะกรรมการฯ ออกประกาศเรื่อง “การกำหนดพื้นที่ประกาศ ประเภทกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในเขตพื้นที่ประกาศและจำนวนคณะกรรมการพัฒนาชุมนุมในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า กองทุนพัฒนาพัฒนาไฟฟ้า บริษัท กัลฟ์ เจพี เอ็นเอส จำกัด” ด้วยการระบุชื่อบริษัทเอกชนไว้ในประกาศนั้น ถือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนโดยเฉพาะ ไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ และทำให้เกิดความเข้าใจว่าบริษัทเอกชนเป็นเจ้าของในกองทุน ทั้งที่กองทุนพัฒนาไฟฟ้ามาจากเงินที่เรียกเก็บจากผู้ใช้ไฟฟ้าทั้งประเทศ ดังนั้น ประกาศดังกล่าวจึงไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค
นายตี๋กล่าวว่า นอกจากนี้ ระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานว่าด้วยกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่น ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นระเบียบที่พิจารณาจากแผนการผลิตไฟฟ้า ไม่ได้พิจารณาจากผลกระทบและความรุนแรงตามหลักวิชาการที่ถูกต้อง ทำให้การชดเชยและเยียวยาให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบไม่ครอบคลุม และเป็นไปได้ยาก ทั้งทางด้านสุขภาพ อาชีพ และสิ่งแวดล้อม โดยปัญหาทั้งหมดเครือข่ายอนุรักษ์วิถีเกษตรกรรมได้เคยยื่นเรื่องไปยังศาลปกครองแล้ว แต่ศาลไม่รับฟ้องเพราะผู้ฟ้องไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง
นายสุรชัยกล่าวว่า เมื่อรับคำร้องมาแล้วจะส่งต่อให้คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ได้พิจารณาต่อไป ซึ่งคาดว่าจะสามารถให้ความเป็นธรรมกับเครือข่ายฯได้
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายตี๋ ตรัยรัตนแสงมณี เครือข่ายอนุรักษ์วิถีเกษตรกรรม จ.สระบุรี ได้ยื่นคำร้องต่อนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา เพื่อให้ตรวจสอบกรณีที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานออกระเบียบและประกาศโดยมิชอบ ตาม พ.ร.บ.ประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 และไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
นายตี๋กล่าวว่า การที่คณะกรรมการฯ ออกประกาศเรื่อง “การกำหนดพื้นที่ประกาศ ประเภทกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในเขตพื้นที่ประกาศและจำนวนคณะกรรมการพัฒนาชุมนุมในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า กองทุนพัฒนาพัฒนาไฟฟ้า บริษัท กัลฟ์ เจพี เอ็นเอส จำกัด” ด้วยการระบุชื่อบริษัทเอกชนไว้ในประกาศนั้น ถือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนโดยเฉพาะ ไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ และทำให้เกิดความเข้าใจว่าบริษัทเอกชนเป็นเจ้าของในกองทุน ทั้งที่กองทุนพัฒนาไฟฟ้ามาจากเงินที่เรียกเก็บจากผู้ใช้ไฟฟ้าทั้งประเทศ ดังนั้น ประกาศดังกล่าวจึงไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค
นายตี๋กล่าวว่า นอกจากนี้ ระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานว่าด้วยกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่น ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นระเบียบที่พิจารณาจากแผนการผลิตไฟฟ้า ไม่ได้พิจารณาจากผลกระทบและความรุนแรงตามหลักวิชาการที่ถูกต้อง ทำให้การชดเชยและเยียวยาให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบไม่ครอบคลุม และเป็นไปได้ยาก ทั้งทางด้านสุขภาพ อาชีพ และสิ่งแวดล้อม โดยปัญหาทั้งหมดเครือข่ายอนุรักษ์วิถีเกษตรกรรมได้เคยยื่นเรื่องไปยังศาลปกครองแล้ว แต่ศาลไม่รับฟ้องเพราะผู้ฟ้องไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง
นายสุรชัยกล่าวว่า เมื่อรับคำร้องมาแล้วจะส่งต่อให้คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ได้พิจารณาต่อไป ซึ่งคาดว่าจะสามารถให้ความเป็นธรรมกับเครือข่ายฯได้
