“ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์” เดินทางจากเขมรถึงไทยแล้ว หลังได้รับพระราชทานอภัยโทษ เผยยังไม่รู้สึกดีใจ เพราะ “วีระ” ยังถูกคุมขัง อยากกราบเท้าพ่อแม่อย่างแรก “แยม-ฐปณีย์” นักข่าวดังสะเหล่อถาม มีโอกาสได้ปล่อยตัวพร้อม 5 คนไทยทำไมไม่ออกมา เจอย้อนกลับรู้ได้อย่างไรว่าจะถูกปล่อยตัว ลั่นต่อสู้มาตลอดไม่ได้รุกล้ำกัมพูชา
วานนี้ (1 ก.พ.) เมื่อเวลา 21.45 น. ที่อาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ผู้ที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุมและคุมขังในเรือนจำเปรยซอร์ ประเทศกัมพูชา ได้เดินทางออกมาจากช่องทางพิเศษ เพื่อออกจากอาคารผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ ประตูที่ 8 โดยมีเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ และญาติของ น.ส.ราตรี ได้พาออกมาเพื่อเลี่ยงพบสื่อมวลชน แต่ไม่สามารถเลี่ยงได้เนื่องจากมีกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ และสันติอโศกได้มารอรับกว่าร้อยคน โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชุลมุนวุ่นวาย เพราะกลุ่มที่มารอรับต่างก็ต้องการเข้าไปทักทายแสดงความยินดี ซึ่งเมื่อ น.ส.ราตรีเดินออกมาจากประตู น.ส.นฤมล จิตรวะรัตนา หนึ่งในผู้ที่เคยถูกคุมขังที่เรือนจำเปรยซอร์ด้วยกัน ก็ได้วิ่งเข้าไปสวมกอด น.ส.ราตรี พร้อมน้ำตานองหน้าด้วยความดีใจ และมอบดอกไม้พวงมาลัยให้
น.ส.ราตรีเปิดเผยความรู้สึกภายหลังจากได้รับพระราชทานอภัยโทษและได้รับอิสรภาพว่า ตอนนี้ยังไม่รู้สึกดีใจ เพราะนายวีระ สมความคิด ยังอยู่ที่เรือนจำเปรยซอร์ ส่วนตัวยังไม่อยากออกมาพูดอะไร อย่างแรกที่อยากทำคือกราบเท้าพ่อแม่ แต่ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ ที่ให้ตนเองมีกำลังใจและเข้มแข็งมากขึ้น ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ถูกจำคุกในเรือนจำเปรยซอร์ตนได้ทำทุกอย่างที่ถูกต้อง
ขณะเดียวกัน น.ส.ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 ได้ถาม น.ส.ราตรีว่า เมื่อถามว่าครั้งก่อนมีโอกาสได้รับการปล่อยตัวพร้อมกับ 5 คนไทย แค่ทำไมเลือกที่จะไม่ออกมา น.ส.ราตรีจึงตอบกลับว่า รู้ได้อย่างไรว่าจะถูกปล่อยตัวเหมือนอีก 5 คน สิ่งที่ตนยืนยันต่อสู้มาตลอด คือ ไม่ได้ทำผิดหรือรุกล้ำแผ่นดินกัมพูชา เมื่อผู้สื่อข่าวคนอื่นถามว่า นายวีระได้ฝากอะไรถึงประชาชนคนไทยหรือไม่ น.ส.ราตรีกล่าวว่า ขอให้ทำสิ่งที่ถูกต้องต่อไป เมื่อถามถึงสุขภาพและความเป็นอยู่ในเรือนจำ น.ส.ราตรีกล่าวว่า ตอนนี้สุขภาพไม่ได้เจ็บป่วยอะไร แต่น้ำหนักลดไป 5 กิโลกรัม ส่วนจะกลับมาเขียนหนังสือพ็อกเกตบุ๊กหรือไม่นั้น ขอคิดดูก่อน ขออยู่กับครอบครัว พร้อมเมื่อไหร่จะบอก จากนั้น น.ส.ราตรีได้ขอตัวกลับบ้านพร้อมครอบครัวที่มารอรับ
มีรายงานว่า ในครั้งนี้ได้มีกลุ่มเพื่อนคนไทยที่เคยถูกจำคุกที่เรือนจำเปรยซอร์มารอต้อนรับ น.ส.ราตรีด้วย อาทิ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์, ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ผู้ประสานงานกองทัพธรรมม น.ส.นฤมล จิตรวะรัตนา และนายกชนลธรณ์ ชุสนะเสวี โดยระหว่างที่รอ น.ส.ราตรีออกมา ได้มีหญิงสาวสูงวัยได้เดินเข้าไปถามนายพนิชว่า ทำไมนายวีระไม่ถูกปล่อยตัวออกมาพร้อมกัน ซึ่งนายพนิชได้กล่าวด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่ขึงขังว่า ตนก็เสียใจเหมือนกัน ครั้งที่ถูกควบคุมตัวนายวีระก็นอนอยู่ห้องเดียวกัน ได้พูดคุยถึงความรู้สึกเรื่องนี้ ตนรู้สึกเสียใจไม่แพ้ทุกคน และจะหาทางพานายวีระกลับมาประเทศไทยอย่างปลอดภัย
ร.ต.แซมดินกล่าวว่า ตนได้พูดคุยกับนายวีระผ่านมารดาของนายวีระที่เดินทางไปเยี่ยมทุกสัปดาห์ และรับปากว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้นายวีระออกจากเรือนจำเปรยซอร์ให้ได้ ยืนยันว่าทุกคนที่ถูกกัมพูชาจับกุมและควบคุมตัวไป ไม่เคยรับว่ารุกล้ำเข้าไปในแผ่นดินกัมพูชา ไม่ว่าจะขั้นตอนไหนก็ตาม ไม่เคยยอมรับว่าทำผิด มีแต่รัฐบาลสมัยนั้นพูดอยู่ฝ่ายเดียวว่า ทั้ง 7 คนรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่กัมพูชา อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันที่จะปกป้องรักษาแผ่นดิน 4.6 ตารางกิโลเมตรต่อไป ขอให้นายวีระสบายใจว่ามีคนไทยจำนวนหนึ่งสนใจดูแลผืนแผ่นดินนี้อยู่