รมว.มหาดไทยโยนตำรวจสอบ “วินัย” กำนัน ต.เสม็ด เอี่ยวช่วยเหลือ “กำนันเป๊าะ” ยันไม่ทราบเปลี่ยนชื่อได้ยังไง ยันเลขประจำตัว 13 หลักยังมีอยู่ โต้ “อลงกรณ์” ปูดทุจริตจัดซื้อผ้าห่ม อ้างมั่วนิ่ม ยันใช้งบไม่ถึง 120 ล้าน อีกทั้งให้ซื้อจากกลุ่มอาชีพไม่ใช่ห้างร้าน
วันนี้ (1 ก.พ.) ที่กระทรวงมหาดไทย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีตำรวจจับกุมตัวนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ โดยมีนายวินัย พ้นภัยพาล กำนัน ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี รวมอยู่ด้วยว่า ทราบข่าวจากสื่อ ยังคงตอบไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้พบ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. จึงได้สอบถามเรื่องนี้ ซึ่งทาง พล.ต.อ.อดุลย์รับปากว่าจะไปตรวจสอบว่าเรื่องนี้จริงหรือไม่ ถ้าหากพบข้อเท็จจริงว่ามีกำนันอยู่ในรถด้วย แล้วจะมีความผิดอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนที่จะไปดำเนินการ
ส่วนการเปลี่ยนชื่อของนายสมชาย เป็นนายกิม แซ่ตั้ง นายจารุพงศ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าเปลี่ยนได้อย่างไร ต้องไปดูหลักฐาน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าผู้ป่วยแจ้งชื่อด้วยวาจา หรือมีบัตรประชาชนที่ไม่ใช่ชื่อเดิม และตรวจสอบอีกว่าโรงพยาบาลเอกชน ระเบียบของเขาต้องขอบัตรประชาชนหรือไม่ และได้มีกำหนดหรือไม่ว่าต้องขอบัตรประชาชนก่อน อย่างไรก็ตาม ถึงจะมีการเปลี่ยนชื่อแต่บุคคลยังมีเลข 13 หลักอยู่
นายจารุพงศ์ยังกล่าวถึงกล่าวถึงกรณีนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ระบุว่า มีการทุจริตในโครงการจัดซื้อผ้าห่มกันหนาวของกระทรวงมหาดไทย ว่า การจะซื้อผ้าห่มได้แปลว่าต้องเกิดภัยหนาว และการจะประกาศภัยหนาวได้ หมู่บ้าน ตำบล หรืออำเภอนั้นจะต้องมีอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส ติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน
“หลักเกณฑ์ประกาศภัยหนาว ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอรู้อยู่แล้ว เว้นแต่ ส.ส.อาจไม่รู้ หรือแกล้งไม่รู้ โดยจังหวัดที่ประกาศภัยหนาวขณะนี้มีทั้งหมด 14 จังหวัด และมี 10 จังหวัดที่จัดซื้อผ้าห่มกันหนาว รวมเป็นเงิน 9,998,008 บาท ส่วนอีก 4 จังหวัดยังไม่ได้จัดซื้อ เพราะจังหวัดได้นำผ้าห่มกันหนาวที่ได้รับบริจาคไปช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้น และคงจะมีการจัดซื้อเร็วๆ นี้ ดังนั้น การที่บอกว่าซื้อผ้าห่มไปถึง 120 ล้านบาท จึงเป็นข้อเท็จทั้งสิ้น” รมว.มหาดไทยระบุ
นอกจากนี้ รมว.มหาดไทยกล่าวว่า การจัดซื้อเป็นระเบียบกระทรวงการคลัง โดยจะต้องประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ แล้วอำนาจการจัดซื้อเป็นของผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งมติ ครม.เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.46 กำหนดให้จัดซื้อผ้าห่มจากกลุ่มอาชีพต่างๆ ในหมู่บ้านตำบลที่ได้ขึ้นทะเบียนตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ไม่ใช่เป็นการจัดซื้อตามห้างร้านอย่างที่เป็นข่าว อย่างไรก็ตาม หากเป็นอย่างที่นายอลงกรณ์พูดก็ต้องหาข้อเท็จจริงกันแล้วลงโทษกันต่อไป แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมว่าอย่าพูดอะไรให้เกินเลย นอกจากนี้ ที่บอกว่าต้นทุน 40 บาท แล้วไปเบิก 240 บาท ใช้เงินงบประมาณ 120 ล้านบาท มีส่วนต่าง 600 เปอร์เซ็นต์ หากมาบวกลบคูณหารคนนี้คงตกเลข
