มทภ.1 ต้อนรับ ผบ.กกล.ญี่ปุ่นชมงานช่วยเหลือสาธารณภัย ทบ. เผยสนใจรถครัวสนาม-ผลิตประปาเคลื่อนที่-รถสายพานบรองโก้ ระหว่างนำมาสาธิต ชื่นชมการเตรียมความพร้อม เผยภัยธรรมชาติไม่มีใครคาดเดาได้ ด้าน มทภ.1 เผย ผบ.ทบ.อนุมัติปรับปรุงหน่วยให้ทันสมัย อีกทั้งกระชับความสัมพันธ์ทางทหารไทย-ญี่ปุ่น พร้อมฝึกเอชเอดีอาร์ ในการฝึกร่วมผสมฯ
วันนี้ (1 ก.พ.) ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) บางเขน พล.ท.ไพบูลย์ คุ้มฉายา แม่ทัพภาคที่ 1 ได้เป็นผู้แทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้การต้อนรับ พล.อ.เอจิ คิมิซูกะ ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันตนเองทางบกญี่ปุ่นและคณะ ในการเดินทางมาเยี่ยมชมกิจการการดำเนินงานในการกำลังช่วยเหลือบรรเทาสาธารณะภัยของกองทัพบก ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อรับทราบภารกิจ และการจัดกำลังของหน่วยทหารระดับกองทัพบก และกองทัพภาคที่ 1 ในการปฏิบัติภารกิจการช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติและชมการสาธิตการปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติที่ผ่านมา โดยได้ชมการสาธิตการจัดเตรียมกำลังของกองร้อยบรรเทาสาธารณภัยระดับกองทัพบกจากกรมการทหารช่างและระดับกองทัพภาคของกองพลพัฒนาที่ 1 พร้อมทั้งสาธิตการปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดเหตุอัคคีภัยของกองร้อยช่วยเหลือประชาชนของ ร.11 รอ. ซึ่งถือเป็นแผนการศึกษาหาความรู้จากกองทัพอื่นๆ ในอาเซียน โดยเฉพาะในเรื่องของภัยพิบัติ ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเกิดความสงสัยว่าทางไทยมีกำลังทหารเข้าไปทำงานร่วมกับงานกิจการพลเรือนได้อย่างไร ซึ่งทางญี่ปุ่นเองได้มีการพัฒนาแผนรองรับสถานการณ์ตามแบบอย่างของไทย และได้นำไปใช้ในช่วงทีหากเกิดเหตุสึนามิ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประเทศญี่ปุ่นถือเป็นกองกำลังป้องกันตนเอง ที่รัฐธรรมนูญของญี่ปุ่นระบุว่าการนำกำลังออกมาปฏิบัติหน้าที่ต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลฯ ขณะที่รัฐธรรมนูญไทยได้ระบุไว้ว่า นอกจากกองทัพจะมีภารกิจในการป้องกันประเทศแล้ว ยังมีหน้าที่ในการพัฒนาประเทศ เพราะฉะนั้น การเตรียมกำลังของ ทบ.ไทยจึงมีทั้งการจัดหน่วยกองร้อยบรรเทาสาธารณภัย และ การปรับกำลังกองร้อยป้องกันชายแดน มาปฏิบัติภารกิจในการบรรเทาสาธารณภัยได้โดยภารกิจหน้าที่ตามกฎหมาน กระนั้น ผบ.กกล.ป้องกันตนเองยังได้ให้ความสนใจรถครัวสนาม รถผลิตน้ำประปาเคลื่อนที่ รถสายพานลำเลียงสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก บรองโก้ เพื่อเข้าไปช่วยประชาชนในพื้นที่เกิดอุทกภัยที่นำมาแสดงระหว่างการสาธิตด้วย
ทั้งนี้ พล.อ.เอจิกล่าวว่า ขอขอบคุณกำลังพลทุกนายที่มาร่วมกันสาธิตการซ้อมบรรเทาสาธารณะภัยในวันนี้ ขอชื่นชมเป็นอย่างมากในเรื่องการเตรียมความพร้อม เพราะการฝึกซ้อมเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ ซึ่งเราจะได้ช่วยและระงับเหตุสาธารณภัยได้อย่างทันท่วมที อย่างไรก็ตาม กองทัพบกในทุกประเทศจะได้รับความไว้วางใจให้ปฏิบัติภารกิจดังกล่าวและสามารถปฏิบัติได้เป็นอย่างดี ซึ่งเราได้เห็นว่าหน่วยของท่านมีความสำคัญในการป้องกันเมืองหลวงประเทศ ทั้งนี้ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปตนหวังว่ากำลังของไทยจะฝึกซ้อมภารกิจบรรเทาสาธารณภัยต่างๆ เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมถึงประชาชนชนคนไทยทุกคน และคาดหวังว่าในอนาคตกองทัพไทยและญี่ปุ่นจะมีความร่วมมือมากขึ้นระหว่างกองทัพบกสองประเทศที่จะต้องเผชิญกับภัยพิบัติเหมือนกัน
ด้าน พล.ท.ไพบูลย์กล่าวว่า การเดินทางมาเยี่ยมชมสาธิตวันนี้ สืบเนื่องจากที่ ผบ.ทบ.ได้เดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนก่อน ซึ่งเครื่องมือยุทโธปกรณ์ในการบรรเทาสาธารณภัยวันนี้ของไทยมีแล้วแต่ทางญี่ปุ่นยังไม่มี จะเห็นได้ว่าสิ่งที่เรามีอยู่เปลี่ยนแปลงไปในลักษณะที่ทันสมัยมากขึ้น ซึ่งจะต้องพัฒนาเพื่อรองรับภัยพิบัติในรูปแบบต่างๆ ที่อาจจะหนักและมากขึ้น ที่สำคัญเราต้องเข้าสู่อาเซียนบวกสาม ความร่วมมือด้านความมั่นคงคงก็ต้องมากตามไปด้วย ที่ผ่านมา ผบ.ทบ.ได้อนุมัติให้มีการปรับปรุงให้การจัดหน่วยในเรื่องนี้ รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ ให้มีความทันสมัยขึ้น มีการจัดตั้งกองร้อยสามมิติ ในส่วนของกองทัพภาคที่ 1 โดยมีการปรับจากกองร้อยป้องกันชายแดน เป็นกองร้อยบรรเทาสาธารณภัย โดยให้พิจารณาว่าจะประสานกับหน่วยงานใดได้บ้าง เชื่อมั่นว่าการเตรียมพร้อมเหล่านี้จะรองรับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ นอกจากนั้น ไทยและญี่ปุ่นยังจะมีความร่วมมือในการฝึกศึกษา การฝึกบรรเทาสาธารณภัย และช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม (เอชเอดีอาร์) ในการฝึกร่วมผสมฯ