กมธ.ตำรวจ สภาฯ ถกความคืบหน้าก่อสร้าง สภ.396 แห่ง หลังสุดอืด ก่อนมีมติเอกฉันท์ 12 เสียง ให้ สตช.เลิกสัญญา รอง ผบ.ตร.รับลำบากใจ แต่สั่งลูกน้องรวมข้อมูลพร้อมแล้ว ลั่นฟ้องร้องแน่ แต่ขอพิจารณาก่อน
วันนี้ (30 ม.ค.) ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน ได้มีการพิจารณากรณีการติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างสถานีตำรวจภูธรทั่วประเทศ จำนวน 396 แห่ง ซึ่งมีการว่าจ้างตั้งแต่ พ.ศ. 2554 และมีการต่อระยะเวลาการก่อสร้างมาแล้ว 2 ครั้ง และจะหมดสัญญาครั้งสุดท้ายในวันที่ 15 ม.ค. 2556 ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะการก่อสร้างกลับล่าช้า โดยส่วนใหญ่ดำเนินงานได้เพียง 1-2 งวด จากการก่อสร้างทั้งหมด 13 งวด หรือคิดเป็น 20% จากการก่อสร้างทั้งหมดทั่วประเทศเท่านั้น ทั้งนี้ภายกลางการหารือนานกว่า 1 ชั่วโมง กมธ.ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ 12 เสียง ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยกเลิกสัญญาการก่อสร้างกับบริษัท พีซีซี ดีเวลลอปเมนท์ แอนด์ คอนสตรักชั่น จำกัด ทั้งหมด โดยจะทำหนังสือให้ สตช.ไปดำเนินการต่อ ส่วนจะยกเลิกสัญญาทันทีหรือจะรอให้สัญญาหมดลงไปก่อน ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ สตช.เอง
ทั้งนี้ บรรยากาศการประชุมในถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง โดยส่วนใหญ่ต้องการให้ยกเลิกสัญญา พร้อมกันนี้ยังต้องฟ้องร้องดำเนินคดีกับคู่สัญญา เพื่อให้ชดใช้ค่าเสียหายและจ่ายเงินเยียวยาที่เกิดขึ้น
ขณะที่ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก ผบ.ตร.เพื่อติดตามเรื่องดังกล่าว ยอมรับว่ามีความลำบากใจ เพราะเมื่อเป้าหมายคือการก่อสร้างที่ทำงานใหม่ให้ได้ก็ต้องพิจารณาว่าระหว่างการยกเลิกสัญญาทั้งหมด กับการอดทนรอการก่อสร้างให้แล้วเสร็จจึงจะรวดเร็วกว่ากัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีการมอบหมายให้สถานีตำรวจทุกแห่งไปรวบรวมข้อมูล แบบอาคาร เพื่อเตรียมความพร้อมหากจะมีการยกเลิกสัญญาเก่า และแบ่งสัญญาการก่อสร้างให้ไปขึ้นกับตำรวจภูธรแต่ละจังหวัด หรือแต่ละกองบัญชาการภาคแล้ว ทั้งนี้การฟ้องร้องหลังยกเลิกสัญญาจะมีอย่างแน่นอน ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรยังไม่ได้มีการหารือกัน เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะรอให้หมดสัญญาก่อนแล้วค่อยดำเนินคดี หรือจะดำเนินคดีได้เลยทันที เพื่อความได้เปรียบในทางกฎหมายกว่ากัน เพราะที่ผ่านมาตนได้หารือกับหลายฝ่าย ทั้งตุลาการ อัยการ แต่ได้ข้อมูลที่แตกต่างกัน