“ปลอดประสพ” ยันดันกลุ่มป่าแก่งกระจานเข้ามรดกโลกได้ แม้ฝ่ายค้านพยายามให้ถอนตัว แต่เป็นแบบไม่เป็นทางการ ติงประเทศเกือบเสียประโยชน์ แนะติเรื่องดีบ้าง ครม.หนุนอุทยานแก่งกระจาน ขึ้นมรดกโลก
วันนี้ (29 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ กล่าวภายหลังร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ครม.เห็นชอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก นำเสนอพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน (Kaeng Krachan Forest Complex : KKFC) ขอขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติต่อศูนย์มรดกโลก กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส แต่ที่ประชุมได้มีการพูดคุยกันว่าฝ่ายค้านตั้งหน้าตั้งหน้าจะเสนอให้ประเทศไทยถอนตัวจากมรดกโลก แล้วขณะนี้เรากำลังเสนอเข้าเป็นมรดกโลกจะเป็นอย่างไร
นายปลอดประสพกล่าวต่อว่า ตนได้ชี้แจงว่าสมัยที่นายสุวิทย์ คุณกิตติ อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปร่วมประชุม ไม่ได้เป็นการถอนตัว เป็นการเดินออกตามคำสั่งรัฐบาลสมัยนั้น แต่ไม่ได้ถอนตัวแบบเป็นทางการจึงไม่ได้มีผล เราสามารถเสนอได้ เรื่องนี้จึงเป็นอุทธาหรณ์ พรรคฝ่ายค้านชอบแสดงความเห็นในทางลบตลอด ถ้าทำอย่างที่ฝ่ายค้านพูดทำให้เราเสียโอกาส 2 โอกาส คือ 1. อุทยานทางวัฒนธรรมที่นครศรีธรรมราช 2. อุทยานทางธรรมชาติที่แก่งกระจาน ฉะนั้นอยากฝากฝ่ายค้านว่าหากจะแนะนำอะไรขอให้แนะนำทางบวก ไม่ใช่ทางลบตลอดเวลาและไม่เห็นจะได้เรื่องได้ราว
ด้านนายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมครม. ว่า ครม.มีมติเห็นชอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก นำเสนอพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานเพื่อขอขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ ต่อศูนย์มรดกโลก กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส
รองโฆษก กล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก (กอม.) รายงานในที่ประชุม ครม.ว่า เนื่องจาก ครม.เห็นชอบการเสนอพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานเพื่อบรรจุไว้ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น หน่วยงานประสานงานกลางอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกได้มีหนังสือถึงผู้อำนวยการศูนย์มรดกโลก แจ้งเรื่องการขอบรรจุพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน ในชื่อ KKFC (Kaeng Krachan Forest Complex) ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น โดยอุทยานแห่งชาติแห่งชาติแก่งกระจานมีคุณค่าความโดดเด่นที่เป็นสากลที่สมควรจะได้ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ เนื่องจากเป็นศูนย์รวมความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย โดยพบชนิดพันธ์อย่างน้อย 720 ชนิด เป็นแหล่งสำคัญของสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ และได้รับการประกาศเป็นมรดกแห่งอาเซียนเมื่อปี พ.ศ.2546
ทั้งนี้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้วเห็นว่ากรณีดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก โดยทาง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้เสนอขอให้หน่วยงานราชการ เช่นสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และสำนักงบประมาณ ร่วมเสนอความเห็นประกอบการเพื่อพิจารณาของคณะรัฐมนตรีด้วย