xs
xsm
sm
md
lg

แดงบุกทำเนียบจี้นิรโทษฯ ก๊วน ขู่สรุปก่อน 6 โมงเย็น “เฉลิม” ขึ้นเวทีรับลูก แต่คงไม่ทันเส้นตาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แก๊งแดง 29 มกรา บุกทำเนียบ จี้ปล่อยก๊วนเผาเมืองพ้นคุก ยื่นร่าง รธน.ฉบับนิรโทษฯ ของนิติราษฎร์ ขู่ไม่จบก่อน 6 โมงเย็นก่อม็อบใหญ่ ด้าน “เฉลิม” ขึ้นเวทีรับเรื่อง หยอดถ้าไม่มีเสื้อแดงก็ไม่ได้เป็นรองนายกฯ ลั่นชงเรื่องทันที โวทำ “มาร์ค-เทือก” เจอข้อหาจ้างวานฆ่า ก่อนตีหน้าเครียดลงเวที สั่ง “แรมบ้า” ส่งเลขาฯ กฤษฎีกาเช็กด่วน รับเป็นไปไม่ได้ทันเดดไลน์ ชี้เอาอารมณ์หักล้างกฎหมายไม่ได้ ยันถ้าจะทำต้องเป็น พ.ร.บ. โยน “อำมาตย์เต้น” ช่วยแจง เชื่อพวกกันเดี๋ยวก็อารมณ์ดี





วันนี้ (29 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในนามกลุ่ม 29 มกรา ปลดปล่อยนักโทษการเมือง นำโดยนางสุดา รังผูกพันธ์ และนางดารณี กฤตบุญญาลัย พร้อมสมาชิกได้มารวมตัวกันที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เพื่อจัดกิจกรรมหมื่นปลดปล่อย ก่อนเคลื่อนตัวมาอยู่ที่บริเวณหน้าประตูทางเข้าทำเนียบรัฐบาล สะพานชมัยมรุเชฐ ในเวลา 09.00 น. โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามจลาจลจำนวน 7 กองร้อยมาทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยรอบทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อยื่นหนังสือและข้อเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการปล่อยนักโทษทางการเมืองให้หมดจากเรือนจำ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดเส้นทางการจราจร ถ.พิษณุโลก ตั้งแต่สี่แยกมิสกวันจนถึงสะพานชมัยมรุเชฐ ส่งผลให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดเป็นอย่างมาก ทำให้รถต้องเปลี่ยนเส้นทางไปใช้เส้นทางอื่น

นางสุดากล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อยื่นร่างรัฐธรรมนูญว่าด้วยนิรโทษกรรม และการขจัดความขัดแย้ง ที่กลุ่มนักวิชาการคณะนิติราษฎร์ได้เสนอมาก่อนหน้านี้ เช่น ให้ผู้ที่มีความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจาก พ.ร.บ.ความมั่นคงให้พ้นจากความผิด ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. 2549 - 9 พ.ค. 2554 นอกจากนี้ เห็นว่า 6 ปีที่ผ่านมาหลังจากที่ได้มีการยึดอำนาจจากคณะรัฐประหาร ทำให้ประเทศเกิดวิกฤตทางการเมือง รวมทั้งส่งผลให้ประเทศเสียหายมาอย่างต่อเนื่อง ประชาชนถูกทำร้าย จับกุม และมีบางส่วนถึงขั้นเสียชีวิต ทั้งนี้ เฉพาะปี 2553 ที่ผ่านมามีประชาชนที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐออกหมายจับตามคำสั่งของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบภายในสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แล้ว 1,857 ราย

จากนั้น เวลา 10.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้เป็นตัวแทนมารับเรื่องดังกล่าว เนื่องจากนายกฯ ติดภารกิจทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

โดย ร.ต.อ.เฉลิมได้รับหนังสือพร้อมกับแจกันดอกไม้ ก่อนที่จะขึ้นเวทีปราศรัยเคลื่อนที่ของกลุ่ม 29 มกราฯ พร้อมกล่าวว่าตนเป็นคนแรกที่ยอมรับว่ารัฐบาลกับคนเสื้อแดงเป็นพวกเดียวกัน ถ้าไม่มีคนเสื้อแดงวันนั้นจะไม่มีตนที่มาเป็นรองนายกฯ ในวันนี้ แต่ครั้งนี้ตนไม่ได้ปราศรัยเพื่อการปลุกระดม แต่มาเพื่อยุยง ทั้งนี้ เมื่อได้รับหนังสือแล้วจะนำไปมอบและหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการในทันที และที่ผ่านมาตนได้เขียนกฎหมายไว้ 6 มาตราเพื่อนิรโทษกรรมให้แก่ประชาชน ยกเว้นผู้สั่งการให้สั่งฆ่าประชาชนที่จะไม่ได้รับอานิสงส์ จากนั้นเมื่อนายกฯ ได้มอบหมายให้ตนติดตามผลคดีของกลุ่ม นปช. จึงได้เรียกนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มาเพื่อขอสำนวนการสอบสวนทั้งหมด พร้อมทั้งได้สั่งการให้มีการตั้งคณะพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อชันสูตรพลิกศพ ซึ่งคดีนายพัน คำกอง โชเฟอร์แท็กซี่ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตจากเหตุการณ์การชุมนุมเมื่อช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 2553 ที่ผ่านมา โดยศาลตัดสินว่าการเสียชีวิตมาจากกระสุนของเจ้าหน้าที่ และมีการแจ้งข้อหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และผู้อำนวยการ ศอฉ.ขณะนั้น ข้อหาจ้างวาน ใช้ ฆ่าผู้อื่นเรียบร้อยแล้ว

“รัฐบาลไม่มีการละเว้นโทษให้กับผู้ที่กระทำผิดอย่างเด็ดขาด จากนั้นก็มีคดีอื่นๆ ที่ศาลตัดสินต่อมา” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

อย่างไรก็ดี ระหว่างที่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวชี้แจงอยู่บนเวที นายไม้หนึ่ง ก.กุนที แกนนำกลุ่ม 29 มกราฯ ได้ถามสวนว่า แล้วเรื่องดังกล่าวรัฐบาลจะมีคำตอบให้ได้เร็วที่สุดเมื่อไหร่ และจะนำเข้าที่ประชุม ครม.เลยหรือไม่ เนื่องจากทางกลุ่มต้องการให้รัฐบาลเร่งปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองทันที และเมื่อการประชุม ครม.เสร็จสิ้นจะสามารถให้คำตอบได้เวลา 18.00 น.หรือไม่ ทั้งนี้ อยากให้เป็น ร.ต.อ.เฉลิม หรือตัวแทนจากรัฐบาลเดินทางไปให้คำตอบกับกลุ่มผู้ชุมนุม ที่หมุดคณะราษฎร ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า

“หากรัฐบาลนิ่งเฉย หรือไม่ให้คำตอบภายในเวลาที่ทางกลุ่ม 29 มกราฯ กำหนด กลุ่มผู้ชุมนุมจะเดินทางมาปิดทำเนียบรัฐบาล และตั้งเวทีปราศรัยถาวร” นายไม้หนึ่งกล่าว

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวต่อว่า อย่างเพิ่งเรียกว่าเป็นนักโทษทางการเมือง เนื่องจากศาลยังไม่ได้ตัดสินว่าเป็นผู้กระทำความผิด ทั้งนี้ เมื่อรับเรื่องแล้วจะขอนำเรื่องดังกล่าวไปอ่านและศึกษากับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ใช่ว่ารัฐบาลไม่คิดช่วย แต่มันมีหลักนิติรัฐ นิติธรรม ดังนั้น ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมใจเย็นๆ เพราะตนจะตัดสินคนเดียวไม่ได้ ต้องนำไปหารือ

“หากตัดสินใจได้คนเดียว ไอแค็กเดียวก็จบแล้ว แต่มันมีขั้นตอนให้กฤษฎีกาอ่าน ผมจะเร่งรัดให้เร็วที่สุด เขาให้มารับเรื่องอย่างเดียว ทำหน้าที่เป็นบุรุษไปรษณีย์ ดังนั้นขอไปอ่านไปศึกษาเพื่อทำความเข้าใจหน่อย ถ้าทำได้จะทำทันที” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิมพยายามจะขอลงจากเวทีหลายครั้ง โดยอ้างว่าต้องรีบนำข้อเรียกร้องทั้งหมดไปแจ้งให้ทางรัฐบาลรับทราบ แต่ทางแกนนำกลุ่มไม่ยอม พร้อมพยามยามคาดคั้นคำตอบ ร.ต.อ.เฉลิมให้ได้ ทว่า ร.ต.อ.เฉลิมได้กล่าวตัดบทแล้วรีบเดินลงจากเวทีทันทีด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยประจำตัว ได้นำรถส่วนตัวมาจอดรอรับเพื่อขับพาไปร่วมประชุม ครม. แต่ ร.ต.อ.เฉลิมปฏิเสธที่จะขึ้นรถ และเดินทางยังตึกบัญชาการ ซึ่งระหว่างเดินอยู่ ได้แจ้งให้นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นำข้อเรียกร้องไปแจ้งกับเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาเรื่องดังกล่าวเป็นการด่วน

ต่อมาเวลา 10.30 น. ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวภายหลังว่า คนที่มาวันนี้เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม ส่วนที่ต้องการจะให้ได้คำตอบในเวลา 18.00 น.นั้น มองว่าไม่สามารถเป็นไปได้ รัฐบาลจะพิจารณาว่าช่องใดดำเนินการได้ ก็ต้องหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกา ประสานวิปฯ และไปขอความเห็นชอบจากพรรค อาจจะยื่นหลายช่องทาง โดยเนื้อหาสาระต้องเป็นไปตามกฎหมายหลักนิติรัฐและนิติธรรม เรื่องอย่างนี้แสดงอารมณ์ได้ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ แต่จะเอาอารมณ์ไปหักล้างกฎหมายที่มีอยู่มันไม่ได้ แต่อะไรที่จะได้รับความเป็นธรรมกับคณะของเสื้อแดงและภาคส่วนอื่นๆ รัฐบาลต้องดำเนินการ แต่ต้องเป็นไปตามกลไกลของรัฐสภา มีการบอกว่าจะออก พ.ร.ก.มันก็ไม่เคยมีในระหว่างประชุมสภา และออกพระราชกำหนดในเรื่องแบบนี้นั้นใจตนเห็นว่าต้องออกเป็นพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม หรือ พ.ร.บ.ปรองดอง เพราะว่าหากออกเป็น พ.ร.ก.เลยก็จะมีคนไปยื่นร้องต่อศาลให้ตีความได้ และฟันธงได้เลยว่าผลก็จะออกเป็นโมฆะ เสียเปล่า อย่างไรก็ตาม การดูแลพี่น้องประชาชนต้องดูแลทั้งประเทศและยึดหลักกฎหมาย อย่างที่ผู้ชุมนุมต้องการได้คำตอบภายในเวลา 18.00 น.นั้น มันเป็นไปไม่ได้ ใครก็ทำไม่ได้ ไม่ว่าเสื้อสีใดก็ทำไม่ได้ และรัฐบาลต้องเน้นความเสมอภาค และตนไม่รู้สึกอึดอัด ชี้แจงก็เบาไปนิดแล้ว เรื่องทุกอย่างต้องผ่านสภา รัฐบาลจะไปทำอะไรได้ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้มอบให้ตนรับเรื่องและห้ามขึ้นไปปราศรัย แต่ตนไปชี้แจงผ่านเครื่องขยายเสียงเพื่อให้เข้าใจทั่วกัน คนที่มาก็รู้จักกันทั้งนั้น

เมื่อถามว่า ผู้ชุมนุมขีดเส้นให้รัฐบาลมีคำตอบในเย็นนี้ ไม่อย่างนั้นจะมีการตั้งเวทีถาวรที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เรื่องนี้พี่น้องเสื้อแดงที่มาบางส่วนเข้าใจ แต่บางส่วนยังไม่เข้าใจ ถ้าสื่อช่วยกันรายงานก็เชื่อว่าในที่สุดจะเข้าใจกันดี ไม่กลัวก็ชี้แจงกันไป ตนเห็นใจเสื้อแดง แต่ไม่ได้เริ่มต้นกันมาก่อน ความผูกพันก็ไม่มาก ต้องให้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ไปชี้แจง ซึ่งตนจะไม่เข้าไปหารือด้วย แต่จะเรียบเรียงเรื่องแล้วนำส่งไป ซึ่งในเย็นวันนี้ถ้านายกรัฐมนตรีมอบหมายตนก็จะเดินทางไปชี้แจงด้วยตนเอง แต่ถ้าไม่มอบหมายก็จะไม่ไป

“วันนี้ต้องพูดความจริงจะไปเอาใจกัน เป๊ะๆ มันทำไม่ได้ มันจะทำอย่างไร 18.00 น.ได้ข้อยุติ แค่อ่านเอกสาร 7-8 ซองยังสรุปไม่ได้เลยว่างั้นเถอะ เดี๋ยวก็อารมณ์ดีน่ะ พวกๆ กัน ไม่เป็นอะไร ถึงคนละพวกกันรัฐบาลก็ไม่เคยทำร้าย ผมเป็นคนขี้กลัว ไม่นิยมความรุนแรง” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว





























กำลังโหลดความคิดเห็น