“ประยุทธ์” ปฏิเสธทหารเอี่ยวลอบยิงรถข่าว ASTV บอกส่วนตัวไม่สนับสนุนความรุนแรงเพราะผิดกฎหมาย ต่างฝ่ายเคารพซึ่งกันและกัน ส่วนการดูแลครูภาคใต้ยังไม่ปรับแผน อยู่ที่ข้อตกลงระหว่างครูและเจ้าหน้าที่ เชื่อปัญหาความขัดแย้งปราสาทพระวิหาร ต้องจบลงที่การเจรจา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีคนร้ายใช้อาวุธปืนลอบยิงรถข่าวของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ในเรื่องดังกล่าวนั้นทางกองทัพไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งต่างคนต่างต้องเคารพซึ่งกันและกัน และที่ผ่านมาก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้สนับสนุนเรื่องการใช้ความรุนแรงในลักษณะดังกล่าวนี้ เพราะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจใช่หรือไม่ว่าไม่มีกำลังพลนอกแถวเข้าไปเกี่ยวข้อง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกระแทกเสียงว่า “ไม่เกี่ยวข้อง ขอให้ไปสอบสวนกัน ใครผิดก็ไปจับมา”
ส่วนการลงพื้นที่ภาคใต้ครั้งนี้คงไม่ต้องมีการปรับแผนเพิ่มเติมในการรักษาปลอดภัยให้กับครู เพราะมีความชัดเจนอยู่แล้ว แต่ยอมรับว่าทหารคงดูแลรักษาความปลอดภัยครูทั้งหมดไม่ได้ เนื่องจากมีภารกิจอีกหลายด้าน ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่และครูต้องมีความระมัดระวังด้วย
“ขึ้นอยู่กับการตกลงกันของทางเจ้าหน้าที่และครูในพื้นที่ รวมถึงการนำไปปฏิบัติใช้ ฉะนั้นคงไม่ต้องมีการปรับแผนเพิ่มเติมแต่อย่างใด”
สำหรับปัญหาชาวมุสลิมโรฮิงยาที่หลบหนีเข้ามือง ผู้บัญชาการทหารบกกล่าวว่า ทหารเป็นหน่วยงานที่คอยให้ความช่วยเหลือเมื่อได้รับการร้องขอ รัฐบาลได้ประกาศชัดเจนว่าจะให้ความช่วยเหลือกลุ่มคนเหล่านี้สักระยะ แล้วจึงจะหามาตรการแก้ไขปัญหากันต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงมาตรการดูแลชายแดนข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร ภายหลังจากการประชุมกับนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมาว่า ทหารทุ่มเทดูแลทุกวันอยู่แล้ว ซึ่งพื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทก็คงต้องว่ากันไปตามกระบวนการและกติกา แต่หากเป็นพื้นที่ที่มีเขตแดนชัดเจนและมีการรุกล้ำเข้ามาก็สามารถปฏิบัติการทางทหารได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ปัญหาความขัดแย้งดังกล่าวในที่สุดจะต้องจบลงด้วยการพูดคุยเจรจาเท่านั้น