xs
xsm
sm
md
lg

บ้านป่าเมืองเถื่อน คนพูดความจริง-เห็นต่าง อันตรายถึงตัว!!

เผยแพร่:   โดย: นกหวีด


ข่าวปนคน คนปนข่าว

ช่วงระยะหลังมานี้เกิดเหตุการณ์ซ้ำแล้วซ้ำอีกกับสื่อในเครือ เอเอสทีวีผู้จัดการ ก็ไม่รู้ว่าทำหน้าที่ตรงไปตรงมาเกินไป หรือไปเหยียบตาปลาหมาตัวไหน จนอยู่ไม่สุข ออกมาปั่นป่วนระรานคนสุจริตกันแบบนี้ !!

ล่าสุดเมื่อเช้ามืดวันที่ 26 มกราคม 2556 ที่บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ และที่หน้าสวนสันติชัยปราการ รถข่าวของเอเอสทีวีผู้จัดการโดนกระสุนปืนยิงทะลุกระจก 4 คันรวด นอกจากนั้นอาคารอนุรักษ์ ซึ่งเป็นสำนักบริหารของเอเอสทีวีที่กระจกชั้น 2 ของอาคารถูกยิงกระจกแตก อีก 2 นัด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเกิดจากอาวุธปืนขนาด .22

พฤติกรรมข่มขู่คุกคาม ลอบกัด ไม่กล้าเปิดเผยตัวตนให้เห็นกันจะๆ อนุมานไว้ก่อนเลยว่าน่าจะเป็น “โจรที่มีอำนาจคุ้มกบาล” เพราะดูจากเหตุการณ์และการกระทำแล้ว คงไม่ใช่นักเลงหัวไม้ หรืออันธพาลที่ไหน ท่าทีผู้ก่อเหตุดูสุขุมไม่โฉ่งฉ่าง คล้ายมืออาชีพ การใช้อาวุธปืน .22 เป็นตัวบ่งบอกอย่างดีว่าไม่ต้องการทิ้งหลักฐานให้จับได้โดยง่าย

หากเป็นโจรกระจอกบุ่มบ่าม ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง จ้องจะระบายความแค้นส่วนตัวก็น่าจะทิ้งร่องรอยอะไรไว้เยอะกว่านี้

หรือถ้าเป็นพวกมืออาชีพหน่อย ไม่วางแผนมาก่อน ก็จะทำกันโจ๋งครึ่มก็ใช้อาวุธสงครามซัดให้รู้แล้วรู้รอด แต่คราวนี้ดูแล้วแนบเนียน สืบสาวจับตัวยาก การข่มขู่แบบปิดบัง อำพราง ลักษณะนี้ ไม่รู้แน่ชัดว่าใครเป็นคนลงมือ ใครอยู่เบื้องหลัง แต่แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคนจะมองไม่รัฐบาลไม่เกี่ยว ไม่กระทบต่อรัฐบาลเลย!!

แต่ยิ่งพฤติกรรมแนบเนียนเท่าไหร่ คนบงการที่อยู่ห่างออกไป ล้วนน่าจะใกล้เคียงกับผู้ก่อเหตุมากที่สุด เพราะต้องวางแผนมาอย่างดี รัดกุม และให้พ้นตัวไปไกลๆ

พฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุที่ใส่ชุดดำเดินเรียบๆ เอื่อยๆ อย่างใจเย็น จงใจให้กล้องจับได้ โดยไม่ใช้รถอะไรมาด้วยเลยนั้น นับว่าเป็นมืออาชีพที่ไม่ทิ้งหลักฐานให้ตามแกะ ไม่มีร่องรอยของพาหนะที่โดยสารมา ไม่ให้สืบแม้แต่ป้ายทะเบียน เป็นการวางแผนมาอย่างดี ไม่ใช่โจรธรรมดา โจรกระจอกแน่นอน

กรรมชั่วที่ก่อขึ้นครั้งนี้ชั่ง ตวง วัด แล้ว หากให้ฟันธงแล้วไม่น่าจะใช่วงการสีเขียว แต่น่าจะเป็นสีอื่น!!

ไม่รู้ว่ารับคำสั่งใครมา หรือจะรับจ๊อบมาจากรัฐตำรวจ ก็ยังไม่อยากปักใจเชื่อนัก เพราะโจร 500 ถ้าไม่จนมุมด้วยหลักฐาน ไม่เป็นหมาจนตรอกไม่มีทางยอมรับความจริง

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลจะนิ่งเฉยไม่ได้ ต้องออกมาจัดการ และรับผิดชอบอย่างเต็มที่ เพราะไม่อย่างนั้นอาจถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังสั่งการลงมือ หรือถ้าไม่ได้ลงมือก็แอบยิ้มเยาะสะใจ เห็นดีเห็นงามกับคนที่ทำเรื่องนี้!!

และยังเท่ากับเป็นการปล่อยปละละเลยให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก กลายเป็นพฤติกรรมเลียนแบบ ที่สุดก็กลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน ใครไม่พอใจใคร ไม่พอใจอะไร ก็ใช้วิธีโฉดชั่วเช่นนี้มาลอบกัดคนอื่น

เหตุการณ์วันนี้ยังแค่ถล่มรถ แต่ถ้าปล่อยไว้โดยไม่สะสาง คนก่อเหตุก็จะย่ามใจ คราวหน้าอาจจะไม่ใช่แค่ยานพาหนะหรือบ้านเรือน อาจถึงชีวิตคนเลยก็ได้ ถ้าการสืบสวนสอบสวนยังทำเหลาะแหละ เหมือนไม่อยากจะจับคนร้ายยังไงยังงั้นแบบนี้

แต่ถึงอย่างไรก็ดี..สิ่งที่อยากจะบอกให้รู้โดยถ้วนทั่วกันก็คือ ไม่ว่าใครจะข่มขู่ คุกคามอย่างไรก็ไม่มีผล เอเอสทีวีผู้จัดการจะขยันพูดความจริงต่อไป แม้มันจะเสียดแทงใจใคร...ก็ไม่ขอสนใจ จะสนใจแต่การยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง ตีแผ่ข้อเท็จจริงให้สังคมต่อไป ขอให้เข้าใจตามนี้!!

ใครบางคน หรือหลายคน อาจมองว่า เอเอสทีวีผู้จัดการทำผิด ทำไม่ดี ไม่ถูกใจ ก็อยากให้มองย้อนดูมุมกลับบ้าง อย่าถือทิฐิ ตั้งแง่ ลองปล่อยวางคิดอีกแง่มุม อาจพบข้อเท็จจริงอีกด้านที่ไม่เคยพบเจอ เหรียญยังมีสองด้านฉันใด ความรู้สึกก็มีสองด้านฉันนั้น ลองไปค้นหา แล้วบางทีอาจจะค้นพบ

กระนั้นก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องขอย้ำว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในดินแดนศิวิไลซ์ จนองค์กรสื่อวิชาชีพ คือ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ต้องออกแถลงการณ์ร่วม แสดงความไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมข่มขู่ คุกคามสื่อมวลชน!!

1.เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำที่มีความอุกอาจ ใช้ความรุนแรงเพื่อมุ่งข่มขู่และการคุกคามสิทธิเสรีภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงขอเรียกร้องให้ผู้ที่ก่อเหตุดังกล่าวและผู้ที่เกี่ยวข้องเคารพสิทธิเสรีภาพ และเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน ที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อนำความจริงมาเสนอต่อสาธารณชนอย่างครบถ้วนรอบด้าน

2.การปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน สามารถตรวจสอบได้ตามกลไกที่ชอบด้วยกฎหมาย หากผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน เห็นว่าสื่อมวลชนใช้สิทธิเกินขอบเขต

สามารถใช้อำนาจฟ้องร้องได้ตามกฎหมาย หรือใช้กลไกในการควบคุมทางจริยธรรมขององค์กรสื่อผ่านสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย แต่จะต้องไม่ใช้ความรุนแรงคุกคามสื่อ ซึ่งไม่สามารถแก้ไขปัญหาใด ๆ ได้ และมีแต่จะสร้างความเสียหายแก่ทุกฝ่าย

3.ขอเรียกร้องต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว ไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบหายไป เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างในการข่มขู่คุกคามสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน รวมทั้งขอให้แถลงผลความคืบหน้าคดีต่อสาธารณชนทราบโดยเร็ว เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยแก่ประชาชนและสังคมไทย

ชัดเจนแจ่มแจ้ง พฤติกรรมป่าเถื่อน ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ไม่คิดที่จะใช้กลไกตรวจสอบตามระบบ เหล่านี้ไม่ได้เกิดผลดี จรรโลงสังคมแต่อย่างใด ซ้ำยังสานต่อความเกลียดชัง ขยายผลความขัดแย้งเพิ่มเติมมากขึ้นไปอีก

จึงต้องเรียกร้อง ฟ้องประชาชนดังๆ ให้ผู้มีอำนาจ ผู้รักษากฎกติกาในบ้านเมืองให้รับสะสาง นำคนร้ายมาลงโทษไม่ให้เอาเป็นเยี่ยงอย่างสืบไป

ระยะหลังการกระทำที่เย้ยฟ้าท้ากฎหมายลักษณะนี้นับวันจะยิ่งมากขึ้นๆ ย้อนไปยังเหตุการณ์ที่ “เฉลิมชัย ยอดมาลัย” คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์แนวหน้า ถูกทุบรถ หลังตีแผ่ความจริงที่ไม่ดีไม่งามของบางคน และทนายความของพรรคประชาธิปัตย์ “ราเมศ รัตนเชวง” ถูกทำร้ายร่างกายจนเจ็บสาหัส ล้วนเป็นการบอกเล่าสิ่งที่เห็นและเป็นไปในสังคม

น่าสังเกตเหลือเกินว่า ใครก็ตามที่ออกอาการขัดขวาง อยู่ตรงข้ามฝ่ายรัฐบาลอย่างแหลมคม จะต้องมีอันโดนเล่นงานทุกคราครั้งไป บ้านนี้เมืองนี้คนคิดเห็นแตกต่างจะอยู่ไม่ได้เลยกระนั้นหรือ

หรือจะเป็นเรื่องที่อันตรายถึงชีวิต ไม่มีความมั่นคงปลอดภัยอะไรเลยแม้เสี้ยวผานาที หากมีความรู้สึกนึกคิดที่ไม่ตรงกับผู้มีอำนาจ จะมีความคิดต่างที่จุดไฟสว่างให้สังคม แต่ไม่ตรงใจแก่ผู้มีอำนาจ แค่นั้นก็ไม่ได้เชียวหรือ ถามจริงๆ !!
กำลังโหลดความคิดเห็น