ชาวปทุมฯ ร้อง “มาร์ค” ซัด “รบ.ปู” สองมาตรฐาน ไม่แดงอดค่าชดเชยน้ำท่วม

ปชช.ธัญบุรี ปทุมธานี ขอ หน.ปชป.ช่วย หลังเป็นที่พึ่งสุดท้าย เผยบุกบ้าน “ปู” ทวงเงินเยียวยาน้ำท่วมแต่ไร้ผล มท.รับปากช่วยแต่เรื่องเงียบ แฉหมู่บ้านแดงช่วยเหลือทันทีไม่ยุ่งยาก โวย รบ.บีบ ปชช.เลือกข้าง ทั้งที่อ้างไม่เอาสองมาตรฐานกลับทำเสียเอง ชู ปชป.จริงใจ ขอคืนความยุติธรรม “อภิสิทธิ์” รับปากตามเรื่องให้ ชี้มีหลายรายประสบปัญหาแต่เก็บเงียบ ย้อน รบ.ช่วย ปชช.ให้เร็วอย่างที่คุย เผยส่ง ส.ส.ลงพื้นที่สำรวจ

วันนี้ (22 ม.ค.) ตัวแทนชาวบ้านหมู่บ้านเมธารมย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้ยื่นหนังสือต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ที่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีไม่ได้รับการเยียวยาน้ำท่วม ที่บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี มีผู้ได้รับความเดือดร้อนในอีก 4 ชุมชน ประกอบด้วย หมู่บ้านแพรมาพร 458 หลัง หมู่บ้านรังสิตการ์เด้นวิลล์ 125 หลัง หมู่บ้านเมธารมย์ 34 หลัง และหมู่บ้านรื่นฤดี 60 หลัง รวม 676 หลังคาเรือน ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลไม่ยอมจ่ายเงินชดเชย โดยอ้างว่าน้ำท่วมไม่ได้กระทบต่อโครงสร้างบ้าน จึงปฏิเสธการจ่ายเงินเยียวยาโดยไม่ได้มีการตรวจสอบแต่อย่างใด

ดร.เพ็ญพิสุทธิ์ ไชยกาญจน์ แกนนำชาวบ้านกล่าวว่า รัฐบาลบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะน้ำไม่ได้ท่วมแค่ด้านนอกถนน แต่ท่วมถึงชั้นในของบ้าน โดยทางเจ้าหน้าที่กล่าวหาว่าสาเหตุที่ท่วมเพราะมีการต่อเติมไม่ดีจึงเกิดการทรุดและร้าว แต่ไม่ได้ทำให้โครงสร้างบ้านเสียหายจึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะได้รับเงินเยียวยา อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบหมู่บ้านที่ติดกันก็ไม่ได้มีผลกระทบเรื่องโครงสร้างบ้าน แต่กลับได้รับเงินเยียวยาในการซ่อมแซมบ้านอย่างต่ำ 20,000 บาท บางบ้านได้เกินกว่านั้นโดยไม่ต้องไปยื่นขอรับเงินเยียวยา แต่ใช้วิธีการโทรศัพท์ให้ไปรับเงินเลย จึงเห็นว่าเป็นการกระทำสองมาตรฐานด้วยการแบ่งสี โดยรัฐบาลมองว่าเราเป็นสีอื่นไม่ใช่สีแดง โดยไม่ได้พิจารณาความจริงว่าในชุมชนของเรามีบางคนก็เป็นสีแดง ซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย แต่เขามองว่าในส่วนนี้มีจำนวนน้อยจึงไม่สนใจ ทั้งที่ความจริงชาวบ้านไม่มีพรรค แต่ต้องการรัฐบาลที่ดูแลและเอาใจใส่ประชาชน ซึ่งก่อนหน้านี้พวกตนได้เดินทางไปที่หน้าบ้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ แต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมาได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังกระทรวงมหาดไทยเพื่อตามเรื่องจากที่เคยมีการยื่นไว้แล้วในวันที่ 17 ก.ย. 55 แล้วเอกสารหาย ซึ่งทางหัวหน้ากลุ่มงานร้องทุกข์แจ้งให้ทราบว่า นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.มหาดไทย ซึ่งเป็นเลขาฯ พล.ต.ท.ชัชจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย ลงนามสั่งให้อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตั้งคณะกรรมการกลางไปตรวจสอบ แต่จนถึงวันนี้ยังไม่เห็นว่ามีคณะกรรมการกลางมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแต่อย่างใด จึงอยากให้คณะกรรมการมีความเป็นธรรมโดยให้ชาวบ้านพาชมสภาพบ้านเพื่อเป็นหลักฐาน

“ที่ผ่านมาเราเคยร้องเรียนไปยังรัฐบาลแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่ปลายปี 2544 จนถึงปัจจุบัน แต่กลับไร้คนเหลียวแล จึงหันมาพึ่งฝ่ายค้านเพราะคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความจริงใจ เพราะในเมื่อพรรคเพื่อไทยได้แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่มีความจริงใจ เท่ากับบังคับให้ประชาชนเลือกข้าง แต่ก่อนเราไม่ได้เลือก ต่อจากนี้ก็คงต้องเลือกข้าง เพราะไม่ว่าอย่างไรชาวบ้านก็เป็นประชาชนที่รัฐบาลต้องดูแล โดยเฉพาะการชดเชยเยียวยาน้ำท่วมจะได้มากหรือน้อยไม่เป็นไร ขอให้ได้รับความยุติธรรมคืนมา เพราะวันนี้เราไม่ได้รับความยุติธรรมและชาวบ้านไม่ต้องการพฤติกรรมสองมาตรฐาน ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยเรียกร้องเรื่องสองมาตรฐานมาตลอด แต่ทำไมคนของรัฐบาล เช่น ส.ส.ในพื้นที่ นายกเทศมนตรี และ ส.ท. กลับปฏิบัติต่อประชาชนสองมาตรฐาน มีการกลั่นแกล้ง ทำให้ชาวบ้านไม่ได้รับความเป็นธรรม” ดร.เพ็ญพิสุทธิ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านยังได้ชูป้ายโจมตีรัฐบาลด้วยข้อความหลากหลาย เช่น ส.ส. นายกเทศมนตรี ส.ท.พรรคเพื่อไทย ทอดทิ้งประชาชน, ทั้งที่รู้ว่าเป็นเขตภัยพิบัติยังถูกปฏิบัติสองมาตรฐาน

ด้านนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะรับเรื่องร้องเรียนและตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีรายละเอียดเป็นอย่างไร โดยจะติดตามหลายรูปแบบ เช่น การหารือในสภา หรือติดตามผ่านกรรมาธิการ ซึ่งเห็นว่ายังมีอีกหลายพื้นที่ที่มีปัญหาในลักษณะเดียวกันเพราะยังมีประชาชนบ่นอยู่ว่ายังไม่ได้รับเงินชดเชยเยียวยา เพียงแต่ไม่ได้มีการรวบรวมอย่างเป็นระบบและไปร้องเรียนอย่างเป็นทางการเท่านั้น แตกต่างจากกรณีนี้ซึ่งมีการร้องเรียนและมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน เพราะบางรายได้รับเงินเยียวยาแต่กลับถูกเรียกเงินคืนก็มี จึงอยากให้รัฐบาลให้ความเอาใจใส่ และให้ความสำคัญเนื่องจากเหตุการณ์ผ่านมากว่า 1 ปีแล้วแต่การเยียวยาไม่ได้รวดเร็วอย่างที่รัฐบาลกล่าวอ้าง โดยพรรคได้ท้วงติงเรื่องความรวดเร็วและการเยียวยาให้ทั่วถึงมานานแล้ว ที่สำคัญเรื่องนี้คือความยุติธรรมที่รัฐบาลต้องเร่งสะสางให้เสร็จ แต่ตนเข้าใจว่ามหาดไทยมีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีว่าการ อาจทำให้ประชาชนต้องร้องเรียนหลายรอบเพราะงานขาดความต่อเนื่อง ขณะนี้ ส.ส.ของพรรคลงพื้นที่เพื่อรวบรวมความเดือดร้อนของประชาชนว่ายังตกค้างอีกมากน้อยแค่ไหนเพื่อติดตามดูแลต่อไป