เวทีปราศรัยพรรคเพื่อไทย ลานคนเมือง สุดกร่อย มีแต่ขนเสื้อแดงมาเชียร์ ไร้เงา “สุดารัตน์” ขึ้นเวที เน้นโจมตี “สุขุมพันธุ์” ไม่เคยประสานรัฐบาล “เฉลิม” บอกผู้ว่าฯ ต้องฉะฉาน ไม่เอ๋อ เลือก “พงศพัศ” ไม่มีร้องไห้เหมือน “สุขุมพันธุ์” เตรียมดึงตำรวจร่วมกับ สนง.เขตปราบยาเสพติด ขุดอุโมงค์ขายของ “เต้น ไพร่เทียม” ตีฝีปากเลือกชายหมูได้กล้องดัมมี่ เลือกจูดี้ได้ซีซีทีวีของจริง
วันนี้ (21 ม.ค.) ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เวทีปราศรัยของพรรคเพื่อไทย เพื่อหาเสียงแก่ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เริ่มขึ้นประมาณ 16.30 น.โดยมีแกนนำพรรคอย่าง นายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.กระทรวงไอซีที นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัย โดยเนื้อหาส่วนใหญ่ยังเน้นไปที่การกล่าวโจมตีการทำงานของ ม.ร.ว.สุขมพันธุ์ บริพัตร อดีตผู้ว่าฯ กทม.และผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า การทำหน้าที่ของ ม.ร.ว.สุขมพันธุ์ ไม่มีประสิทธิภาพ และไม่เคยประสานงานกับทางรัฐบาล ทำให้การบริหาร กทม.มีปัญหา ที่เห็นได้ชัด ก็คือ เหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา แต่หากผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ คือ พล.ต.อ.พงศพัศ การทำงานก็จะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และจะทำให้ กทม.มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ด้านบรรยากาศโดยรอบของเวทีปราศรัยนั้น มีประชาชนประมาณ 300 คนให้ความสนใจ แต่ก็ถือว่าบางตา โดยประชาชนส่วนใหญ่มักจะเป็นกลุ่มคนเสื้อแดงที่ตามมาให้กำลังใจ ส.ส.ของพรรคมากกว่า
ต่อมาเวลา 18.15 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วย พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ในปี 2526 สมัยที่ตนยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ตนเคยช่วยพรรคหาเสียงขึ้นเวทีปราศรัยจนผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.มาแล้ว เพราะฉะนั้นในปีนี้ ตนก็จะหาเสียงส่งจูดี้เป็นผู้ว่าฯ เช่นเดียวกัน ตนกับ พล.ต.อ.พงศพัศ ถือเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันมา ตนรู้ว่า พล.ต.อ.พงศพัศเป็นคนที่มีความสามารถ เก่ง และประสานงานกับทุกฝ่ายได้ดี ไม่ว่าจะเป็นผู้บังคับบัญชา หรือผู้ใต้บังคับบัญชา การเลือกตั้งครั้งนี้ตนเตือนไปยังข้าราชการตำรวจ ไม่ต้องเข้ามาช่วยเหลือใดๆ ขอแค่เพียงดูแลตรวจสอบหน่วยเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้มีการโกงเลือกตั้งก็พอ
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวต่อว่า ผู้ว่าฯ กทม.ที่ผ่านมา เคยมีทหารอย่างลุงจำลองมาแล้ว ครั้งนี้ก็ถึงคราวตำรวจบ้าง ตนบอกกับ พล.ต.อ.พงศพัศ ว่าหากได้รับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ขึ้นมาจริงๆ จะต้องฉะฉานเหมือนกับตอนทำหน้าที่เป็นตำรวจ เพราะถ้าจะมาเป็นแล้วเอ๋อเหมือนกับผู้ว่าฯคนก่อน ก็เสียชื่อข้าราชการตำรวจหมด ตนเคยเรียกผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดเข้าร่วมประชุมเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด ทุกจังหวัดมาหมด แต่ยกเว้น ม.ร.ว.สุขมพันธุ์ ที่ไม่ยอมเดินทางมา แล้วถ้าเป็นแบบนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์จะทำงานได้อย่างไร โดยที่ไม่ยอมประสานงานกับส่วนกลางบ้าง เอาแต่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย
ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวต่อว่า ถ้า พล.ต.อ.พงศพัศเป็นผู้ว่าฯ ไม่มีร้องไห้ มีแต่ก้าวหน้า ก้าวไป ไม่เหมือน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ที่ร้องไห้วันละสามเวลา ขอให้พรรคประชาธิปัตย์อย่าชกใต้เข็มขัด ให้ตรงไปตรงมา ทั้งนี้ มีคนพยายามบิดเบือนว่า ผู้ว่าราชการ กทม.ต้องมาจากคนละพรรคกับรัฐบาล ทั้งที่ กทม.ต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล หากประชาชนมาใช้สิทธิน้อยคะแนนจัดตั้งจะเหนือกว่า แต่ถ้าประชาชนมาใช้สิทธิมาก พรรคเพื่อไทยจะชนะแน่นอน และจะพัฒนาเมืองหลวงร่วมกันกับรัฐบาลแบบไร้รอยต่อ ทั้งการแก้ปัญหาจราจร น้ำท่วม ความสะอาด ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ส่วนเรื่องยาเสพติด มีนโยบายให้ผู้กำกับ ทุก สน.ร่วมกับสำนักงานเขตแก้ปัญหายาเสพติด แบบเอกซเรย์ทุกพื้นที่ เพราะ กทม.เป็นแหล่งเสพและแหล่งค้าที่ใหญ่ที่สุด ยุทธศาสตร์สำคัญของพรรคเพื่อไทย ที่จะเสนอต่อที่ประชุมพรรคในวันที่ 22 ม.ค. คือ จะทำให้ กทม.เป็นเมืองหลวงของอาเซียน และระดับสากล จะเป็นท้องถิ่นของไทยอย่างเดียวไม่ได้ รวมถึงเสนอให้มีการขุดอุโมงค์ใต้ดินเป็นพิ้นที่ให้พ่อค้า แม่ค้าขายของ ไม่ต้องถูกไล่จับ และจะนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินให้หมดทุกพื้นที่
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.กระทรวงเกษตกรและสหกรณ์ กล่าวว่า สโลแกนของ พล.ต.อ.พงศพัศ คือ หากเลือกชายหมู ได้กล้องดัมมี แต่หากเลือกจูดี้ ได้กล้องซีซีทีวีของจริง การทำหน้าตำรวจของ พล.ต.อ.พงศพัศจะเห็นว่า ลงพื้นที่พูดคุยกับประชาชนอยู่ตลอด แต่ผู้ว่าฯคนก่อน ไม่สามารถพูดคุยกับใครรู้เรื่องเลย เพราะเห็นว่าจะพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีคนก่อน รู้เรื่องคนเดียว ป้ายหาเสียงโดยการโฆษณาชวนเชื่อว่าจะทำอันนี้สร้างแบบนั้น ตนขอให้ประชาชนกลับไปคิดว่า ทำไมอยู่มา 4 ปีถึงไม่ทำ การทำงานของ พล.ต.อ.พงศพัศ ในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.นั้น จะไร้รอยต่อ เปิดขึ้นมาก็สามารถทำได้ทันที ขอให้อย่าฝากความหวังอันเลื่อนลอยเอาไว้กับพรรคฝ่ายค้าน
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า นโยบายแรกที่ พล.ต.อ.พงศพัศ จะทำ คือ การติดกล้องซีซีทีวีที่เป็นกล้องของจริง เพื่อป้องกันอาชญากรรม และดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ซึ่งหากคน กทม.ไม่ไว้ใจคนที่เป็นตำรวจแล้ว จะไปไว้ใจใครได้อีก นอกจากนี้ยังจะมีการปรับภูมิทัศน์ของกรุงเทพฯให้สวยงามยิ่งขึ้น โดยการเก็บสายไฟฟ้าของเสาไฟทุกต้นลงใต้ดินทั้งหมด ซึ่งนโยบายนี้ ทางผู้ว่าฯ คนก่อนก็ประกาศว่าจะทำเช่นกัน แต่ตนไม่เข้าใจว่า ทำไม 4 ปี ถึงไม่เก็บลองดูสักต้น ทั้งนี้ ประชาชนอาจจะคิดว่าทำไมรัฐบาลถึงไม่ทำงานร่วมกับ กทม.ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่ผ่านมา ตนก็อยากจะบอกว่า ในเมื่อต้องทำงานกับคนที่พูดไม่รู้เรื่องจะทำกันอย่างไร
มีรายงานว่า เวทีปราศรัยของพรรคเพื่อไทยที่ลานคนเมือง จากกำหนดการเดิมนั้น มีรายชื่อของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่จะขึ้นเวทีปราศรัยอยู่ด้วยในเวลา 18.15 น.แต่กำหนดการดังกล่าวก็ได้ยกเลิกไป