“สุขุมพันธุ์” รุดไหว้พระแก้วหลังคว้าเบอร์ 16 ชูเลขมงคล อ้างเป็นผู้ว่าฯ คนที่ 16 พอดี บอกสงสัยจะไม่มีผู้ว่าฯ คนที่ 17 รับโล่งใจ หวั่นได้เลขสวย ขรก.จะโดนกล่าวหาว่าเอียงข้าง ลั่นพร้อมร่วมงานรัฐบาล เมินโพลยังลิ่ว กองเชียร์ประชาธิปัตย์หงอย ด้าน “องอาจ” เน้นชูสาระผ่านป้ายหาเสียง เย้ย “เฉลิม” เชื่อคนฝั่งธนฯ คงฝังใจเจอน้ำท่วม พร้อมระดมสมาชิกสู้ ไม่วิตกเจอพวกอิสระตัดแต้ม ขณะที่ “อภิรักษ์” ชูเจ้าตัวดันรถไฟฟ้าข้ามสู่ฝั่งตะวันออก
วันนี้ (21 ม.ค.) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร บรรยากาศการลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ มีแกนนำของพรรคมาร่วมให้กำลังใจ เช่น นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผู้อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.พรรคประชาธิปัตย์, นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ประธานยุทธศาสตร์การหาเสียง, นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรค, คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธาน ส.ส.กทม., ส.ส.กทม., ส.ก.และส.ข.บางส่วน โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงาเพราะแกนนำระดับสำคัญของพรรคไม่มาร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค หรือนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ติดภารกิจเดินทางไปสิงคโปร์
ส่วน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้เดินทางมาถึงศาลาว่าการกรุงเทพมหานครตั้งแต่ 07.00 น. พร้อมด้วยขบวนประชาชนที่มาให้กำลังใจ และได้มีการกล่าวทักทายข้าราชการ กทม.ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่หลังจากที่จับฉลากได้หมายเลข 16 กองเชียร์มีสีหน้าค่อนข้างผิดหวังและตัดสติกเกอร์หมายเลข 16 ติดป้ายหาเสียง และเสื้อรณรงค์หาเสียง จากนั้นได้เดินทางไปสักการะพระแก้วมรกต และศาลหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล
ทั้งนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์เปิดใจภายหลังได้รับหมายเลข 16 ว่าไม่กังวลใจ เพราะถือเป็นเลขมงคล เพราะตนเป็นผู้ว่าฯ กทม.คนที่ 16 และรู้สึกโล่งใจ เนื่องจากเกรงว่าหากจับได้หมายเลขสวย ข้าราชการ กทม.อาจจะโดนกล่าวหาว่าโน้มเอียง แต่เมื่อตนได้หมายเลข 16 แล้วจึงถือว่าไม่มีข้อกังขาอะไร ทั้งนี้ตนเคยพูดว่าหากได้เบอร์เดี่ยวก็จะเป็นเรื่องที่ดี และไม่มีผู้สมัครคนใดที่อยากได้เบอร์คู่ แต่ในกรณีของตนก็ตรงกับลำดับการเป็นผู้ว่าฯ กทม.ของตนพอดี ซึ่งก็แสดงว่าคงจะไม่มีผู้ว่าฯ คนที่ 17 ทั้งนี้ในส่วนของกลยุทธ์การหาเสียงก็ยังคงใช้แนวทางเดิม โดยจะนำเสนอสิ่งดีๆและทำงานหนักมากขึ้น ซึ่งตนมองว่างานด้านการเมืองต้องการความต่อเนื่อง ต้องการประสบการณ์ ความคุ้นเคยกับงานและข้าราชการ รวมทั้งการประสานงานกับรัฐบาล ซึ่งหากตนได้รับเลือกตั้งใหม่อีกครั้งหนึ่งก็เป็นหน้าที่ที่จะต้องทำงานร่วมกับรัฐบาล และเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำงานร่วมกับตน ทั้งนี้ยืนยันว่าจะสามารถประสานงานกับรัฐบาลได้ เพราะเป็นหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายที่ต้องร่วมมือกันเพราะรัฐบาลก็มีความชอบธรรมที่มาจากการเลือกตั้ง และผู้ว่าฯก็ได้รับการเลือกตั้งจากคน กทม.เหมือนกัน
เมื่อถามว่า ต้องทำความเข้าใจกับคน กทม.ในเรื่องน้ำท่วมปี 2554 อย่างไร ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า เชื่อว่าคน กทม.เข้าใจเรื่องนี้ แต่มีคนบางกลุ่มเท่านั้นที่ไม่เข้าใจ ส่วนในเรื่องของผลโพลนั้นไม่ว่าจะออกมาอย่างไรตนก็จะทำงานหนักต่อไป ทั้งนี้ก็อยากให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิให้มากๆ และให้เป็นหูเป็นตาในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่อให้เป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมเหมือน 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งตนถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดมากกว่าใครแพ้ใครชนะ เพราะหากการเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์คน กทม.ทั้งเมืองก็จะเป็นผู้ชนะ
ด้านนายองอาจกล่าวว่า ไม่เป็นอุปสรรคต่อการหาเสียงเพราะทางพรรคก็เคยได้เลขสองหลักมาแล้ว โดยจะเน้นย้ำหมายเลขที่ป้ายหาเสียงเป็นหลัก ตนว่าอยู่ที่เนื้อหาสาระนโยบายที่เสนอกับประชาชนมากกว่า เพราะประชาชนจะจำได้ไม่กี่เบอร์เฉพาะผู้สมัครที่น่าสนใจ ส่วนรูปแบบการหาเสียงจะเน้นให้ ส.ส. ส.ก.และ ส.ข.ของพรรคช่วยหาเสียงในพื้นที่ให้หนักเพราะต้องการเข้าถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้มากที่สุด
ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ประกาศจะกวาดคะแนนเสียงในเขตฝั่งธนบุรีทั้ง 15 เขตนั้น นายองอาจกล่าวว่า ตนเห็นว่า ร.ต.อ.เฉลิมพูดแบบนี้มาตลอดที่มีการเลือกตั้ง ส่วนที่คนฝั่งธนฯ จะฝังใจปัญหาน้ำท่วมก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะพรรคได้ให้การช่วยเหลือมาตลอด และประชาชนเข้าใจว่าสาเหตุน้ำท่วมเพราะอะไร และจากการลงพื้นที่ประชาชนก็ไม่เคยถามเรื่องนี้ แต่พรรคจะพยายามทำให้ดีที่สุดในการรณรงค์ หวังว่าประชาชนจะให้การสนับสนุน ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ให้เป็นผู้ว่าฯ กทม.คนที่ 16 ต่อไป
นายองอาจยังยอมรับว่า พื้นที่ในเขตตะวันออกยังเป็นจุดอ่อนของพรรค เพราะไม่มี ส.ส.ในพื้นที่ แต่ก็มี ส.ก.และส.ข.ในบางพื้นที่และมีสาขาพรรคที่เข้มแข็ง และอดีตผู้สมัครหลายคนยังทำงานในพื้นที่มาโดยตลอด เชื่อว่าจะสามารถช่วยได้พอสมควร ผลการเลือกตั้งที่ออกมาคงไม่ขี้เหร่อะไร โดยพรรคจะระดมบุคคลากรเข้าไปในพื้นที่ให้มากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณที่มีผู้สมัครอิสระจำนวนมาก จะทำให้เสียงของพรรคลดลงหรือไม่ นายองอาจกล่าวว่า เป็นธรรมดาที่จะต้องมีการแบ่งคะแนนกันไปบ้างซึ่งก็ต้องติดตามดู แต่ตนไม่วิตกอะไรเพราะแต่และคนก็มีแนวทางหาเสียงของตนเอง เชื่อว่าวันลงคะแนนประชาชนจะมีแนวทางตัดสินใจเลือกใคร โดยผู้สนับสนุนพรรคก็ยังคงให้การสนับสนุนอยู่ ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องการตัดแต้มกัน
ด้านนายอภิรักษ์กล่าวว่า ทางพรรคก็พร้อมลงพื้นที่อย่างเต็มที่ เบอร์ที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์จับได้ก็ตรงกับลำดับการเป็นผู้ว่าฯ กทม.คนที่ 16 จึงถือเป็นเลขดี และจากนี้ไปจะมีการลงพื้นที่ระดมเครือข่ายต่างๆ ในพื้นที่ และตามสื่อออนไลน์ ส่วนพื้นที่เขตฝั่งธนฯ ความจริงชาว กทม.มีการเลือก ส.ก.และส.ข.ของพรรคมาทั้งหมด และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ยังเป็นคนผลักดันให้ต่อขยายเส้นทางรถไฟฟ้าไปยังฝั่งธนฯ หวังว่าผลงาน 4 ปีที่ผ่านมาและนโยบายที่พร้อมทำงานต่อยอดที่เสนอผ่านสื่อต่างๆ จะทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการสร้าง กทม.ด้วยกัน โดยการเสนอความเห็นต่างๆ มาได้ผ่านสื่อออนไลน์
ส่วนความกังวลต่อคะแนนเสียงในเขตที่เป็นจุดอ่อนนั้น นายอภิรักษ์กล่าวว่า 4 ปีที่ผ่านมา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ได้ไปแล้วครบทุกเขต แต่ก็ยังมีพื้นที่ในฝั่งเหนือ และตะวันออก ที่พรรคไม่มี ส.ส. แต่ก็มีส.ก.และ ส.ข.ทำงานอยู่ เช่นที่เขตดอนเมืองล่าสุดผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคก็ได้รับเลือกเข้ามา