ทำเนียบฯ ชื่นมื่น นายกฯ ตั้ง “สุดารัตน์” นั่งที่ปรึกษากองทุนสตรีฯ สยบเกาเหลา โอบไหล่โชว์นักข่าว เจ้าตัวป้อนคำหวานนายกฯ เก่งเป็นการเมือง พร้อมบ่นการเมืองวุ่น ขอทำงานด้านพุทธศาสนา ยันช่วย “พงศพัศ” หาเสียงได้ ด้าน นายกฯ บอกวางใจใช้ประสบการณ์วางนโยบาย กทม.เผยวันสมัครหัวหน้าพรรคไป เหตุติดประชุม ครม.สัญจร
วันนี้ (18 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ (คกส.) พร้อมด้วย น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี พร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยในที่ประชุม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้แถลงว่า มีคำสั่งแต่งตั้ง ลงวันที่ 3 ธ.ค.2555 ให้ คุณหญิง สุดารัตน์ เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ ทั้งนี้ ก่อนเข้าร่วมการประชุม คุณหญิง สุดารัตน์ กล่าวว่า ถือเป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ภายหลังจากเหตุการณ์ปฏิวัติรัฐประหาร ปี 2549 ซึ่งบรรยากาศเปลี่ยนแปลงไปมาก พร้อมทั้งกล่าวว่า ช่วงนี้มีความสุขกับการทำงานด้านศาสนา ซึ่งมีความสุขกว่างานการเมืองเยอะ พร้อมทั้งนำไอแพดโชว์ภาพกิจกรรมทางศาสนาให้บรรดาสื่อมวลชนได้ชม และบอกอีกว่ากลับมาการเมืองวุ่นวายจัง
จากนั้นเวลา 16.00 น.ภายหลังการประชุม น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมด้วย คุณหญิง สุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ถึงการแข่งขันผู้ว่าฯ กทม.โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ในส่วนของพื้นที่ กทม.คุณหญิง สุดารัตน์ ดูแลพื้นที่ดีอยู่แล้ว เราอยากได้รับคำแนะนำจากคุณหญิงอยู่แล้ว คงช่วยได้ในส่วนของการให้ข้อคิดเห็นและแนะนำในส่วนของเชิงนโยบาย นี่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เมื่อถามว่า มีโอกาสที่คุณหญิง สุดารัตน์ จะได้ขึ้นเวทีปราศรัยพร้อมกันหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หัวเราะ พร้อมกล่าวว่า อันนี้ต้องเก็บไว้ก่อน อย่าเพิ่ง ต้องรอ ตื่นเต้น จริงๆ แล้วต้องเรียนว่า วันนี้ภารกิจที่อยากขอให้ช่วย คือ เรื่องของประสบการณ์ที่คุณหญิงได้ใกล้ชิดกับคน กทม.เป็นประโยชน์สำคัญที่เราจะได้นำมาพัฒนาในส่วนของนโยบาย ที่ตอบโจทย์ให้ตรง นี่คือ ประการหลัก และวันนี้ตัวคุณหญิงก็มีภารกิจหลายอย่าง ต้องแล้วแต่ท่านจะสะดวก เมื่อถามว่า ในวันที่ 21 ม.ค.ที่จะมีการเปิดรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ใครจะเป็นคนพาผู้สมัครไปลงสมัคร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า จะต้องเป็นหัวหน้าพรรค เพราะในส่วนของตนจะติดภารกิจอยู่ในพื้นที่ประชุมคณะรัฐมนตรีที่ จ.อุตรดิตถ์
ผู้สื่อข่าวถามไปยัง คุณหญิง สุดารัตน์ ว่า ในวันเสาร์ที่ 19 ม.ค.จะลงพื้นที่ช่วย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หาเสียงด้วยหรือไม่ คุณหญิง สุดารัตน์ กล่าวว่า จะไปให้กำลังใจ แต่ในช่วงเช้าติดภารกิจจะตามไปในช่วงสาย ต้องขอเรียนว่า โดยส่วนตัวอยากขอโอกาสและขอเวลา เนื่องจากว่าตนได้ตั้งใจที่จะไปทำงานในเรื่องของพระพุทธศาสนา ซึ่งได้ทำมากว่า 2 ปีแล้ว ดังนั้น ขอพักการเมืองต่ออีกระยะหนึ่ง อะไรที่จะเป็นประโยชน์กับการทำงานส่วนรวมสามารถช่วยคน กทม.หรืองานส่วนอื่นๆ ที่จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นให้คน กทม.มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในส่วนนี้ก็ได้คุยกับท่านพงศพัศไปเยอะ ตนก็ยินดี แต่โดยส่วนตัวเพื่อให้เคลียร์และเกิดความเข้าใจ และตนได้พูดมานานเป็นปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งพูดว่า ขออนุญาตที่จะพักการเมือง และขอไปทำงานรับใช้พระพุทธศาสนาให้ลุล่วง และตนได้ตั้งใจที่จะนำเอาเรื่องของพระพุทธศาสนา และเรื่องคุณธรรมกลับมาแก้ไขปัญหาสังคมและปัญหาต่างๆ ซึ่งในที่ประชุมกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีได้เรียนเสนอท่านนายกฯ และนายกฯ เองก็เห็นด้วยที่จะดำเนินการแบบนี้ ดังนั้น ขออนุญาตว่าอะไรที่เป็นการเมืองจ๋า ส่วนตัวเรียกว่าลำบากใจ และได้ขออนุญาตท่านนายกฯ ตั้งแต่ปีที่แล้วว่าขอพักการเมือง จะให้ไปเหมือนเดิมบู๊ฉะดะคงไม่ไหวแล้ว
เมื่อถามว่า เรื่องของ กทม.ไม่สามารถที่จะมาช่วยได้อย่างเต็มที่ใช่หรือไม่ คุณหญิง สุดารัตน์ กล่าวว่า ช่วยได้ค่ะ ช่วยได้ยังช่วยได้ ขณะที่นายกฯ กล่าวเสริมว่า ขอเรียนว่า บทบาทการช่วยมีหลายอย่าง ทั้งในมุมของการลงพื้นที่ กับการช่วยในเชิงของนโยบาย ซึ่งวันนี้คุณหญิงช่วยเต็มที่อยู่แล้วในเรื่องนโยบาย และนำประสบการณ์ต่างๆ มาคุยร่วมกัน นี่คือ สิ่งที่เราต้องการให้นโยบายตอบโจทย์ การลงพื้นที่งานหลักจะเป็นหน้าที่ของผู้สมัครที่จะต้องพบ และปราศรัยกับพี่น้องประชาชน แต่ในส่วนเรื่องการขึ้นเวทีปราศรัยต้องอยู่ที่หัวข้อแต่ละหัวข้อ ที่จะจัดการปราศรัย ซึ่งคุณหญิงเองเรียนแล้วว่าเรื่องการเมืองก็ขอพัก
เมื่อถามว่า ในฐานะที่คุณหญิงผูกพันกับพรรคมานาน มีความห่วงใยในสนามแข่งขันของ กทม.ที่พรรคเพื่อไทยด้อยกว่าพรรคฝ่ายตรงข้ามหรือไม่ คุณหญิง สุดารัตน์ กล่าวว่า จะเรียกว่าด้อยกว่าก็คงไม่ใช่ เพราะในมุมมองของตน มองว่า การเลือกตั้งทุกครั้งไม่มีง่าย มีความยากอยู่ทุกครั้ง แต่เราเองต้องมาดูว่าวันนี้สิ่งที่ด้อยหรือเป็นรองในมุมมองส่วนตัว คิดว่าไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะ 1.นโยบายดี 2.ผู้สมัครมีผลงานและมีความสดใหม่ ประกอบกับในอดีตการทำงานที่ผ่านมาของ กทม.คนกรุงเทพฯ ยังมีปัญหาอยู่เยอะ ดังนั้น ก็สามารถที่จะเป็นตัวเลือกที่ดีให้กับคนกรุงเทพฯ ได้ ซึ่งอะไรก็แล้วแต่ถ้าเรามองถึงประโยชน์ของคนกรุงเทพฯ ก็น่าจะมีโอกาสที่จะเดินหน้าไปได้ ไม่ได้มองว่าด้อยกว่า
เมื่อถามว่า คุณหญิง สุดารัตน์ ให้กำลังใจและให้คำแนะนำเรื่องการเมืองกับนายกฯ อย่างไรบ้าง คุณหญิง สุดารัตน์ ยิ้มพร้อมกับนำมือโอบไหล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมกับกล่าวว่า ให้กำลังใจกันอยู่บ่อยๆ ค่ะ และท่านนายกฯ ก็เก่งอยู่แล้ว และในฐานะที่ท่านนายกฯ เสียสละมารับภาระให้กับประเทศ อยากจะให้ทุกคนมีความเข้าใจ และให้กำลังใจในการทำงาน เพราะทุกอย่างของประเทศกำลังเดินหน้าไปด้วยดี ถ้าเราช่วยให้การทำงานของรัฐบาลราบรื่นประโยชน์ก็จะอยู่กับประชาชน และท่านนายกฯ ก็มีความตั้งใจมุ่งมั่น ส่วนคำแนะนำคงจะไม่ต้องอะไรมาก เพราะท่านนายกฯ มานั่งในตำแหน่งนายกฯ ถือว่าเก่งแล้ว ถ้าไม่เก่งคงแย่ไปแล้ว ที่ท่านเลี่ยงตอบเรื่องการเมือง ก็เพราะว่าเก่งและเป็นการเมือง
เมื่อถามว่า จะมานั่งทำงานในทำเนียบรัฐบาลต่ออีกหรือไม่ คุณหญิง สุดารัตน์ กล่าวว่า ไม่เอาแล้วถ้าจะมาให้นั่งตำแหน่งในทำเนียบรัฐบาล แต่ขณะนี้ท่านนายกฯ ได้มอบหมายให้ตนไปดูเรื่องนโยบายผู้ว่าฯ กทม.และนโยบายกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งตนจะกลับไปทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย