นายกฯ เรียก ผบ.ทร.เข้าพบ ถกปัญหาโรฮิงญาลอบเข้าประเทศไปยังประเทศที่ 3 หวั่นแอบหลบเข้าร่วมขบวนการก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ด้าน ผบ.ทรภ.3 ลั่นคุมเข้มตามกฎหมาย พร้อมช่วยเหลือตามหลักสิทธิมนุษยชน ชี้ปัจจุบันอพยพเป็นครอบครัว
วันนี้ (15 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.00 น. มีรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียก พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เข้าพบเพื่อหารือถึงปัญหาการลักลอบเข้าประเทศไทยของชาวโรฮิงญา โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ ผบ.ทร. สกัดกั้นชาวโรฮิงญาที่ลักลอบเข้ามาภายในประเทศ เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหา เนื่องจากเกรงว่าเมื่อเดินทางเข้ามาแล้วจะทำให้เกิดความยุ่งยากได้ เพราะไม่แน่ใจว่ากลุ่มโรฮิงญาเหล่านี้จะเดินทางออกไปประเทศที่สามอย่างเดียวหรือไม่ เนื่องจากส่วนหนึ่งเกรงว่าจะแอบหลบเข้าไปร่วมขบวนการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ ผบ.ทร.พร้อมปฏิบัติการในการเข้มงวดดูแลเส้นทางน้ำต่างๆ ที่กองทัพเรือดูแลอยู่อย่างเต็มที่ และเชื่อมั่นว่าจะสามารถดูแลควบคุมไม่ให้มีการลักลอบเข้ามาอีกได้
ขณะที่ พล.ร.ท.ธราธร จิตสุวรรณ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า ทางกองทัพเรือภาคที่ 3 ได้ดำเนินการเข้มงวดเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแรงงานเถื่อน ของหนีภาษี และยาเสพติด รวมถึงปัญหาชาวโรฮิงญาที่ลักลอบเข้ามาในประเทศไทย หากมีการจับกุมชาวโรฮิงญาที่ลักลอบเข้ามานั้น เราก็จะพยายามผลักดันออกไปประเทศที่ 3 หรือส่งกลับประเทศต้นทางที่เดินทางมา ซึ่งต้องปฏิบัติตามนโยบายในการช่วยเหลือด้านสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ ปัจจุบันพบว่านอกจากชาวโรฮิงญาที่เป็นผู้ชายแล้วยังพบเด็กและสตรีเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยกลุ่มเหล่านี้จะอพยพมาเป็นแบบครอบครัว โดยทางกองทัพเรือภาคที่ 3 ต้องปฏิบัติตามกฎหมายไทยทุกอย่างหากบุคคลเหล่านี้เข้ามาอย่างผิดกฎหมาย
“ทุกปีเมื่ออากาศคลื่นลมสงบ ชาวโรฮิงญาเหล่านี้ก็จะใช้จังหวะดังกล่าวหลบหนีเข้ามายังประเทศไทย เพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศที่ 3 โดยจะมีขบวนการและนายหน้าต่างๆ เข้าไปหาผลประโยชน์ จึงทำให้ชาวโรฮิงญาใช้เส้นทางประเทศไทยไปยังประเทศที่สามมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ทางกองทัพเรือภาคที่ 3 ได้มีการประสานงานร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) รวมถึงฝ่ายตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการประสานงานติดตามขบวนการเหล่านี้อย่างใกล้ชิด” พล.ร.ท.ธราธรกล่าว
