สะเก็ดไฟ
ยังข้องใจไม่หายกับการตบเท้าเข้าประชิดบ้านพระอาทิตย์ ที่ตั้งหนังสือพิมพ์ “เอเอสทีวีผู้จัดการ” ของเหล่าทหารเลวจอมเชลียร์นาย
กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กระหึ่มเมืองว่าเหมาะควรหรือไม่ ทหารมีหน้าที่ไปรบ ไปป้องกันประเทศ ไม่ใช่มาตั้งท่ารบกันคนในบ้าน มันข่มขู่ คุกคามกันชัดๆ!!
เหล่าแม่ทัพนายกองเรื่อยไปจนถึงทหารชั้นผู้น้อย ดาหน้าออกมาแสดงพลัง แสดงจุดยืนปกป้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. บอกว่าทนไม่ได้ที่คนที่เปรียบเหมือนพ่อคนที่ 2 ถูกโจมตี ดูหมิ่น เหมือนหลับหูหลับตาเอาใจนายไว้ก่อน โดยไม่พิจารณาข้อเท็จจริงให้ถ่องแท้
สิ่งที่ “เอเอสทีวีผู้จัดการ” สะท้อนออกมาล้วนยึดโยงกับเหตุผลและข้อเท็จจริง จะมาแสดงพลังหรือต่อต้านอย่างไรก็คงไร้ผล เพราะจะยืนหยัดเสนอข่าวสารต่อไปเช่นเดิม ไม่สนใจว่าจะถูกใจใคร หรือไม่ถูกใจใคร ทางที่ดีถ้าไม่พอใจก็ไปใช้ช่องทางตามกฎหมายดีกว่า ที่จะมาแสดงออกเชิงอันธพาลแบบนี้
การกระทำของฝ่ายทหารระยะหลังเคยสำรวจตรวจสอบตัวเองหรือไม่ว่า กำลังเชลียร์รัฐบาลจนออกนอกหน้า ถ้าลืมตัวไปก็ต้องออกมากระตุกเตือนแบบนี้
พฤติกรรมที่เห็นวันนี้คือ ปฏิบัติการเลียเป็นทอดๆ กองทัพเชลียร์รัฐบาล ทำตัวเป็นลิ่วล้อมากขึ้นทุกวัน ขณะที่ทหารเลวก็ออกมาเชลียร์นาย สอพลอเอาหน้าจากผู้บังคับบัญชา
สิ่งที่สังคมเห็นไม่ได้มีความรู้สึกปลื้มใจแม้แต่น้อย ซ้ำยังตั้งคำถามว่ามันเกิดอะไรกันแน่ ถึงขั้นต้องตบเท้ากันออกมาขนาดนี้ ลืมไปแล้วหรือไงว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง การกระทำวันนี้เหมือนจะลงมาคลุกการเมืองมากเกินไป และเอียงเข้าข้างรัฐบาลมากขึ้นเรื่อยๆ
หรือเป็นเพราะผลประโยชน์มันอุดลิ้น อุดปาก งบประมาณก็ฟาดไปบานตะไท ไหนจะเรื่องของอำนาจการแต่งตั้งคนเข้าไปนั่งในบอร์ดรัฐวิสาหกิจต่างๆ รวมไปถึงตำแหน่งนายทหาร แม้กระทั่งนายตำรวจ ที่วันนี้ดูเหมือนว่า “ทหารเจ้าอารมณ์” จะใหญ่จริงในวงการนี้ เป็นที่รู้กันดีว่า ถ้าผ่านการรับรองจาก นายทหารปากคอเราะร้ายคนนี้ รายไหน รายนั้นต้องได้
กรณีตัวอย่างเช่น พล.ต.ท.ศรีวรา รังสิพราหมณกุล รักษาการ ผบช.ภ. 1 เป็นบุคคลที่ “ทหารใหญ่ในกองทัพบก” ให้การสนับสนุนผลักดันเต็มที่เพื่อให้เป็น ผบช.ภ. 1 แต่มีปัญหาติดขัดขึ้นแท่นนั่งตัวจริงไม่ได้ ชั่วโมงนั้นไม่มีใครกล้าไปสับเปลี่ยน เพราะรู้ดีว่าเป็นเด็กใคร ก็เลยต้องปล่อยให้ลอยค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น
สะท้อนชัดถึงบารมีของ “นายทหารคนนั้น” ลุกลามนอกกองทัพ
การออกมาของลิ่วล้อทหารคราวนี้ โดยเฉพาะนายทหารนามสกุลดัง พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ลูกชาย “บิ๊กจ๊อด” พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ เจ้าของวลี ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน ผู้อยู่เบื้องหลังสัมปทานดาวเทียม “ทักษิณ ชินวัตร” นักโทษหลบหนีคดี ออกมาพูดจาเกรี้ยวกราดเอาใจนายแบบสุดลิ่มทิ่มประตู
จุดยืนของกองทัพที่เราเคยเห็นว่าเป็นเสาหลักของบ้านเมือง เป็นหน่วยงานที่เชื่อถือและพึ่งหวังของประชาชนได้ วันนี้มันแทบไม่เหลือความรู้สึกเหล่านั้น เพราะเมื่อไหร่ที่การเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือเอาตัวเข้าไปพันกับการเมือง เมื่อนั้นก็ถึงคราวนับถอยหลังสู่ความเสื่อมทราม
จากที่ยืนขึงขังตระหง่านด้วยอุดมการณ์ ก็เริ่มอ่อนระทวย โน้มเอียง ด้วยงบประมาณก้อนโตที่รัฐบาลหว่านลงมาจนทั่วถึง ไหนจะเรื่องของการมีส่วนร่วมในการจัดตั้งบุคลาการในบอร์ดต่างๆ ที่มีผลประโยชน์มหาศาล
ตอนนี้อยู่ในจุดที่อำนาจบารมีตึงมือ ใครมาวิพากษ์วิจารณ์ ใครมาล้วงลับ ล้วงตับ มันก็เลยเกรี้ยวกราด อาละวาดกันแบบนี้!!