xs
xsm
sm
md
lg

ผอ.รพ.พระมงกุฎฯ ยันรักษาเท่าเทียม ชี้มองเลือกปฏิบัติ อาจไม่เข้าใจแพทย์วินิจฉัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการแพทย์ในสภา ตั้งโต๊ะแถลง โฆษก ปธ.สภาฯ เสียใจช่างภาพเนชั่นหมดสติ ยันเน้นรักษาเท่าเทียม ผอ.รพ.พระมงกุฎฯ แจงแพทย์สภาดูแลตามกระบวนการ พร้อมมีรถพยาบาลสแตนด์บาย ชี้อาการไม่ถึงขั้น ชี้มองเลือกปฏิบัติเพราะไม่เข้าใจการวินิจฉัย ลั่นชีวิตคนสำคัญสุด พร้อมปรับให้ดีขึ้น รับถามสิทธิประกันสังคมเป็นเรื่องปกติ ย้ำ “ประยุทธ์” เจ็บก็ทำแบบเดียวกัน ผอ.สำนักการแพทย์ กทม. ปัดส่งคนป่วยล่าช้า รับตอบไม่ได้หายปกติหรือไม่

วันนี้ (11 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนพ.สามารถ ตันอริยะกุล ผอ.สำนักการแพทย์ กทม. โดยมี รพ.กลางเป็น 1 ใน 9 รพ.ที่รับผิดชอบ สังกัด กทม. พล.ต.ชุมพล เปี่ยมสมบูรณ์ ผอ.รพ.พระมงกุฎเกล้า ในฐานะ รพ.จัดหน่วยแพทย์ประจำรัฐสภา ร่วมแถลงข่าวจากกรณีที่นายสกล สนธิรัตน ช่างภาพเนชั่น เกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตก โดยมีอาการวูบเนื่องมาจากโรคความดันโลหิตสูงขณะปฏิบัติหน้าที่ภายในรัฐสภา และได้รับการส่งตัวอย่างล่าช้าเนื่องจากรถพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ที่ประจำอยู่รัฐสภาไม่กล้าไปส่งผู้ป่วยโดยอ้างว่าต้องใช้รถดังกล่าวรองรับ ส.ส.และ ส.ว.เท่านั้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการักษาตัวที่ รพ.กลาง ว่าขอแสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าสภาฯมีนโยบายให้หน่วยพยาบาลประจำรัฐสภาดูแลผู้ป่วยทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

ขณะที่ พล.ต.ชุมพลกล่าวว่า ยืนยันว่าแพทย์และพยาบาลประจำรัฐสภาที่เข้าไปดูแลอาการนายสกลได้วินิจฉัยอาการเบื้องต้นตามหลักทางการแพทย์ ซึ่งประเมินแล้วว่าสามารถรอส่งผู้ป่วยได้ เพราะยังสามารถแสดงอาการโต้ตอบ และความรู้สึกได้ระดับหนึ่ง ซึ่งขอยืนยันว่ากระบวนการก่อนส่งผู้ป่วยได้ทำตามหลักวิชาชีพการรักษาอย่างถูกต้อง และระหว่างที่วินิจฉัยพยาบาลก็ได้เรียกรถพยาบาลจาก รพ.พระมงกุฎเกล้ามาสแตนด์บายคันเดิมที่มีอยู่ไว้แล้ว ซึ่งใช้เวลาเพียง 10 นาที ไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อการรักษาผู้ป่วย จากนั้นก็ได้ส่งตัวไปที่ รพ.กลาง ซึ่งช่วงที่เกิดเหตุหากอาการนายสกลทรุดหนักลงอย่างต่อเนื่อง แพทย์สามารถสั่งออกรถที่ประจำอยู่ได้เลย แต่อาการยังไม่ถึงขั้นดังกล่าว จึงไม่ใช่ความผิดพลาดของการวินิจฉัยแต่อย่างใด เพราะเมื่อไปถึง รพ.กลางแล้ว ผลจากการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ทางสมองของนายสกล มีเลือดออกที่ก้านสมองเพียงเล็กน้อยเท่าเม็ดถั่วเขียว แพทย์ยังสามารถรักษาอาการได้ตามปกติ และขอชี้แจงด้วยว่า สาเหตุที่ทำให้ถูกมองว่าเลือกปฏิบัติเฉพาะผู้ทรงเกียรติ และสงตัวผู้ป่วยล่าช้า อาจเป็นเพราะไม่เข้าใจกระบวนการวินิจฉัยของแพทย์ต้องวินิจฉัยให้ผู้ป่วยมีความปลอดภัยระดับหนึ่งก่อนส่งตัว เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุไม่คาดคิดระหว่างการส่งตัวนั่นเอง

ผอ.รพ.พระมงกุฎเกล้ายืนยันว่า นโยบายของ รพ.ไม่ได้เลือกปฏิบัติต่อผู้ป่วย ทุกคนต้องได้รับการรักษาอย่างเท่าเทียมกัน ส่วนกรณีที่ที่คณะแพทย์ พยาบาลประจำรัฐสภาไม่ยอมส่งตัวผู้ป่วยในทันทีนั้น โดยอ้างว่ารถพยาบาลต้องไว้รองรับ ส.ส. ส.ว. และหากเกิดเคสซ้อนอาจทำให้ถูกตำหนินั้น เรื่องนี้ตนจะได้ตรวจสอบต่อไป แต่ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะชีวิตประชาชนสำคัญที่สุด หลังจากนี้ ยอมรับว่าจะนำมาปรับปรุงแผนการส่งตัวผู้ป่วยให้รอบคอบยิ่งขึ้น และจะเรียกประชุมแพทย์พยาบาลของ รพ.ทั้งหมด ส่วนที่เป็นข้อติติงว่า เจ้าหน้าที่พยาบาลมัวแต่ซักไซร้การใช้สิทธิ์ประกันสังคมมากกว่ารีบนำตัวผู้ป่วยส่ง รพ. อยากชี้แจงว่าเป็นมาตรฐานเบื้องต้นในการตรวจสอบอาการผู้ป่วยว่าอยู่ในระดับรุนแรงมากน้อยแค่ไหน

เมื่อถามว่า หากนายสกลเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.จะได้รับการปฏิบัติจากทีมแพทย์แตกต่างกันหรือไม่ พล.ต.ชุมพลกล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นใครเราปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันหมด ยืนยันใช้มาตรฐานเดียวกัน ซึ่งเคสดังกล่าวเป็นพยาบาลมาวินิจฉัยเบื้องต้น จึงอาจทำให้เกิดความล่าช้าไปบ้าง เพราะต้องได้รับคำยืนยันจากแพทย์ในการวินิจฉัยอีกครั้งจึงจะรอบคอบมากที่สุด

ด้าน นพ.สามารถกล่าวว่า สาเหตุที่มีการส่งตัวนายสกลมายัง รพ.กลาง เพราะได้รับการประสานจากนายฉลาด จันทร์เดช ประธานชมรมช่างภาพการเมือง ให้ช่วยดูแลผู้ป่วย ซึ่งก็ได้สั่งเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ ทีมแพทย์ไว้รองรับ ขอยืนยันว่าประเด็นที่มีการส่งตัวล่าชาจนส่งผลให้อาการทรุดหนักนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะเมื่อมาถึง รพ.กลาง จากการเอ็กซเรย์สมองก็มีเลือดออกเพียงเล็กน้อย มีเพียงสายตาผิดปกติและปากเบี้ยว แต่อาการกลับมาทรุดหนัก ชีพจรหยุดเต้นกะทันหันจึงต้องเข้าผ่าตัดพบว่ามีอาการเลือดออกเพิ่มขึ้น จึงต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อดูดน้ำออก ถือเป็นเรื่องปกติของโรคเส้นเลือดสมองไม่ดีขึ้นก็ต้องเลวลง เป็นลักษณะปกติของโรคนี้ อย่างไรก็ตาม แม้การผ่าตัดโดยรวมผลออกมาดี แต่ก็ยังต้องติดตามประเมินผลอย่างใกล้ชิด เพราะเลือดไปทำลายแกนสมอง และไม่สามารถตอบได้ว่าจะหายเป็นปกติหรือไม่ หากเปรียบเทียบสมองเป็นแผงวงจรไฟฟ้า ส่วนที่เสียหายของนายสกลคือคัตเอาต์ ไม่ใช่หลอดไฟ ซึ่งถ้าสมองยังไม่ฟื้นก็อาจจะต้องมีการเจาะคอช่วยหายใจ เพื่อลดการติดเชื้อจากท่อช่วยหายใจของผู้ป่วยนั่นเอง










กำลังโหลดความคิดเห็น