ยื้อแก้รัฐธรรมนูญ ใจยังไม่กล้าพอ

สะเก็ดไฟ

จบลงไปแบบไม่มีข้อสรุปตามเคย และตามคาด พรรคเพื่อไทยฝนตกขี้หมูไหลไปพบกันที่เขาใหญ่ 6 ม.ค. ถือโอกาสเลี้ยงงานปีใหม่ พร้อมตั้งวงหาวิธีชำเรารัฐธรรมนูญที่ยังเถียงกันไม่รู้จบสิ้น เถียงยาวนานข้ามปี

ข้อสรุปที่ออกมา ณ เขาใหญ่ ก็ยังไม่มีข้อสรุป อาการกลัวๆ กล้าๆ ยังสุมอยู่แน่นหัว ไม่กล้าเดินหน้าฝ่าดงตีน!!

แนวทางหลักจากเดิม 3 แนวทาง “ลุยโหวตวาระ 3-แก้รายมาตรา-ทำประชามติ” ยิ่งเถียงไปมายิ่งขยายวงกว้าง ผุดแนวทางออกมาเพิ่มเติมจนปวดหัววุ่นวาย แต่ทุกแนวทางล้วนมีฝ่ายไม่เห็นด้วย

ภาพที่ออกมาคือ ยักแย่ยักยัน ทุ่มเถียงกันในรูปแบบเดิมๆ ในที่สุดก็มีมติเตะถ่วงซื้อเวลาออกไปอีก ด้วยการโยนให้สถาบันการศึกษาประมาณ 3 สถาบันช่วยหาคำตอบในเรื่องนี้...

หลักๆ คือจะขอให้ 3 มหาวิทยาลัยช่วยหาทางออก หาวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ที นัยสำคัญไม่ใช่เรื่องอื่นใดนอกจากซื้อเวลาไปเรื่อยเปื่อย เพราะสุมหัวกันคิดหลายตลบแล้วยังไม่กล้าหาญพอที่จะเดินไปในแนวทางใดแนวทางหนึ่ง เห็นอุปสรรคขวางหน้าอยู่เยอะ

จะทำประชามติก็กังวลว่าจะไม่ผ่าน ประชาชนจะไม่ออกมาใช้สิทธิตามจำนวน จะลุยโหวตวาระ 3 ก็เกรงว่าจะพังเร็ว ติดกับดักกฎหมาย เจอยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ อาจพินาศไปทั้งรัฐสภา รัฐบาล หรือแก้ไขรายมาตรา ก็ต้องใช้เวลานาน สำคัญคือไม่สบายใจที่ต้องใช้รัฐธรรมนูญฉบับที่ตัวเองด่าทุกวัน ต้องการแก้แบบทั้งฉบับมากกว่า

ฉะนั้นทางออกชั่วโมงนี้ก็คือ “การซื้อเวลา” อย่างที่เห็น

อย่างน้อยก็ลากยาวไปอีกเดือนสองเดือน ทั้งๆ ที่ความจริงคนในพรรคเดียวกันเองก็มองว่า “ไม่ใช่เรื่อง” ที่จะไปให้มหาวิทยาลัยศึกษาเรื่องนี้ เป็นหน้าที่ของ ส.ส.และส.ว.เท่านั้นที่จะตัดสินใจเรื่องรัฐธรรมนูญ และตอนนี้เดินมาถึงวาระ 3 แล้วด้วย ยิ่งไม่จำเป็นต้องขอคำปรึกษาจากใครอื่นใดแล้วนอกจากตัวเอง

การโยนให้มหาวิทยาลัยไปศึกษานั้น ก็หวังเพื่อให้ได้คำตอบตรงตามสิ่งที่ตัวเองตั้งธงไว้ แล้วค่อยเดินหน้าด้วยเสียงสนับสนุนที่เสียงดังอีกอันหนึ่ง แต่หากคำตอบออกมาไม่ตรงตามหวัง สงสัยต้องหาเกมมาเล่นเตะถ่วงอีกรอบ ทำแบบนี้กันอยู่เรื่อยไป ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้แก้ไขเสียที

เราอาจได้เห็นวิธีการแก้อย่างจริงจัง ชนิดวัดดวงวัดใจในช่วงปลายสมัยของรัฐบาล ได้ก็ได้ไม่ได้ก็ยุบสภาไปเลย แต่ตอนนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องวัดดวงขนาดนั้น ยังมีเวลาอยู่บนอำนาจอีกเยอะเพื่อหาเงินเข้ากระเป๋าตุนไว้ก่อน!!

สิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องการรู้ชั่วโมงนี้ก็คือ แนวทางการแก้ไขที่ไม่ผิดรัฐธรรมนูญ แต่ไม่รู้ว่าคำตอบคืออะไร เถียงกันเองก็เห็นแตก ไปถามคนอื่นก็ไม่เชื่อคำตอบ เนื่องจากไม่ใช่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

ดังนั้นการถามที่ตรงที่สุดก็คือถามไปยังศาลรัฐธรรมนูญ!!

เป็นความคิดของคนเสื้อแดงก่อนหน้านี้ที่จะทำจดหมายเปิดผนึกไปถาม แล้ว “คางคกตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ก็มาสำทับซ้ำ พูดให้คนในพรรคเพื่อไทยฟัง ได้รับเสียงปรบมือเกรียวกราวว่ามองปัญหาตรงจุด กระนั้นก็ตามการถามไปยังศาลรัฐธรรมนูญด้วยรูปแบบนี้ หลายคนฟันธงว่าจะไม่ได้รับคำตอบ เพราะไม่ใช่เรื่องที่ตุลาการจะมาตอบคำถามในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น!!

หลายคนในประเทศนี้ก็ไม่อยากให้ศาลรัฐธรรมนูญมาชี้ช่องก่อน ปล่อยให้พรรคเพื่อไทยเป็นตาบอดคลำช้างไปแบบนี้แหละ เมื่อเจตนาการแก้ไขไม่โปร่งใส ก็ให้เดินตกหลุมพรางแล้วฝังไปเลยทีเดียว!!