“อภิสิทธิ์” จี้ถาม “นายกฯ ยิ่งลักษณ์” แก้ไขไม่แก้แค้น แต่มีคนบุกฟันหัวรองโฆษก ปชป. แก๊งเสื้อแดงบุกวงสัมมนาคณะกรรมการสิทธิฯ เรียกว่าอะไร บี้ตำรวจเร่งดำเนินการทั้งสองเหตุการณ์ เตือนรัฐบาลใช้อำนาจเกินขอบเขต ปล่อยพวกถ่อยเถื่อนคุกคามฝ่ายที่เห็นต่าง จุดจบไม่ต่างเผด็จการ ยันจดหมายเปิดผนึกคว่ำประชามติ ไม่ผิดกฎหมาย เป็นสิทธิรณรงค์ตามระบบ พร้อมไล่รัฐบาลแก้ปัญหาประชาชนก่อนปัญหา “นช.แม้ว”
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงอาการของนายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และทีมกฎหมายของพรรคว่า ขณะนี้อาการอยู่ในขั้นปลอดภัยหลังจากที่โคนของมีคมฟันที่ศีรษะ ซึ่งโชคดีว่าไม่มีเลือดคั่งในสมอง แต่ก็ถือว่าอาการหนักเพราะเพิ่งถอดเครื่องช่วยหายใจออกไป โดยที่ผ่านมานายราเมศมีบทบาทเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายและการร้องต่อองค์กรอิสระในประเด็นที่เห็นว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมายหรือจริยธรรม จึงทำให้มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากเรื่องการเมือง เพราะก่อนหน้านี้นายราเมศก็ทราบมาระยะหนึ่งแล้วว่ามีคนคอยประกบตามจนกระทั่งเกิดเหตุขึ้นในที่สุด
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้บ้านเมืองอยู่ในยุคประชาธิปไตยหรือไม่ ต้องถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าที่พูดว่าแก้ไขไม่แก้แค้น วันนี้สิ่งที่เกิดคือแก้แค้นหรือแก้ไข รวมทั้งพฤติกรรมของนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาของ น.ส.กมนเกด อัคฮาด ที่เสียชีวิตในช่วงการชุมนุมปี 53 บุกเข้าไปล้มงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) มีส่วนใดที่เป็นการทำผิดกฎหมายหรือไม่ รัฐบาลก็ต้องดำเนินการ
“สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นการคุกคามฝ่ายที่เห็นต่าง ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ที่รัฐบาลจะสร้างอาณาจักรความกลัว โดยคนในพรรคไม่หวั่นไหวแต่ก็มีการเตือนให้ระมัดระวังมากขึ้น รวมถึงผมก็มีการระมัดระวังในเรื่องความปลอดภัยอยู่แล้ว และอยากเตือนรัฐบาลว่า การใช้อำนาจรัฐสร้างบรรยากาศแห่งความหวาดกลัวนั้นสุดท้ายไม่ได้เป็นผลดีต่อใครแม้แต่รัฐบาลเอง ในทางตรงกันข้าม ในอดีตก็มีบทเรียนมาแล้วว่าเมื่อผู้มีอำนาจรัฐใช้อำนาจเกินขอบเขตจะมีปฏิกิริยาที่รุนแรงตามมาเสสมอ และหากยังดำเนินการเช่นนี้ต่อไปความตึงเครียดและความแตกแยกจะเพิ่มมากขึ้น”
นายอภิสิทธิ์ยังยอมรับด้วยว่า การทำร้ายนายราเมศครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อการสู้คดีของพรรคที่ถูกดีเอสไอดำเนินการในหลายคดี เนื่องจากเป็นตัวหลักซึ่งพรรคก็คงต้องหาทีมเสริมเพื่อต่อสู้คดีต่อไป พร้อมกับเรียกร้องให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.เร่งรัดหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษโดยเร็วตามกฎหมาย
ส่วนกรณีที่รัฐบาลข่มขู่ว่าจดหมายเปิดผนึกรณรงค์ให้คว่ำประชามติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจทำให้ถึงขั้นยุบพรรคนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เพราะการทำประชามติจะต้องทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยได้แสดงความเห็นอย่างเต็มที่ อีกทั้งที่ที่ตนเขียนในจดหมายเปิดผนึกก็ไม่มีส่วนใดที่จะก่อความวุ่นวาย แต่ให้ดำเนินการตามระบบ จึงไม่เข้าใจว่าจะมีความผิดถึงขั้นยุบพรรคได้อย่างไร พร้อมกับฝากไปถึงรัฐบาลว่าหากมีการใช้อำนาจรัฐไปชี้นำการลงประชามติจะเป็นการกระทำผิดกฎหมาย และฝากให้ กกต.ไปดูแลเพื่อให้การลงประชามติเป็นไปด้วยความโปร่งใส
ส่วนกรณีที่นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ระบุว่าเนื้อหาในจดหมายเปิดผนึกของตนอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายนั้นก็ต้องถามกลับไปด้วยว่า การที่ กกต.ขุ่มขู่คนที่ออกมาแสดงความเห็นซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามกฎหมายถือเป็นการกระทำความผิดกฎหมายหรือไม่
นายอภิสิทธิ์ยังสนับสนุนแนวคิดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ชะลอเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไปก่อน และเห็นว่าหากแก้รัฐธรรมนูญควรแก้เป็นรายมาตรามากกว่าเพื่อให้เห็นชัดเจนถึงความต้องการของรัฐบาล เพราะมีการแสดงออกชัดเจนว่าเป้าหมายคือมาตรา 309 เพื่อช่วยให้ พ.ต.ท.ทักษิณพ้นผิดในคดีทุจริต ซึ่งพรรคไม่เห็นด้วยและจะคัดค้านเรื่องนี้ ส่วนจะใช้วิธีการอย่างไรต้องดูการดำเนินการของรัฐบาลก่อนว่าจะมีการทำประชามติแบบใด ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาประชาชนแทนที่จะหมกมุ่นอยู่กับการแก้ปัญหาให้กับพี่ชายนายกรัฐมนตรี