รองปลัด กห.โวยศาล ปค.รับคำฟ้อง “อภิสิทธิ์” เผยรอ “ประยุทธ์” ปลดยศร้อยตรี

รองปลัด กห.ยันคำสั่งปลด ”อภิสิทธิ์” ไม่ซ้ำซ้อน อ้างปลดคนละเวลา-คนละเรื่อง ไม่เห็นด้วยศาลปกครองรับคำฟ้อง เผย ปกติศาลไม่รับเรื่องผิดวินัยทหาร แต่พร้อมสู้คดี ลั่นมีหลักฐานแจง วัดใจรอ “ประยุทธ์” ชงถอดยศร้อยตรี

วันนี้ (4 ม.ค.) ที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) พล.อ.มล.ประสบชัย เกษมสันต์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการบรรจุเข้ารับราชการของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปตย์ เปิดเผยว่า ตนได้รับมอบหมายจาก พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้ชี้แจงทำความเข้าใจ คำสั่งเพิกถอนการบรรจุ และแต่งตั้งยศว่าที่ร้อยตรี อภิสิทธิ์ เนื่องจากข่าวมีความสับสน บางคนไม่เข้าใจ ในการดำเนินการ โดยเฉพาะข่าวที่ได้เสนอ “ศาลปกครองไม่มีอำนาจ” แต่ความหมายของท่าน คือ คำสั่งปลดผิดวินัยทหาร โดยปกติไม่อยู่ในเกณฑ์ที่ศาลปกครองจะรับพิจารณา ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและที่ผ่านมาก็ไม่เคยรับเรื่อง แต่เมื่อขณะนี้ศาลได้รับคำร้องของ นายอภิสิทธิ์ ไว้ ทางกระทรวงกลาโหมก็ต้องให้ความเคารพ แม้จะไม่เห็นด้วย และพร้อมจะไปให้การโต้แย้ง เพราะกระทรวงกลาโหมมีข้อมูล หลักฐาน เอกสาร พยานบุคลทุกอย่างครบถ้วนว่าท่านผิดอย่างไร โดยขั้นต้นจะชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน

พล.อ.มล.ประสบชัย กล่าวว่า ผลของการปลดในคำสั่งแรกมีผลตั้งแต่ 2 มิ.ย.2531 เพราะเป็นวันที่ท่านได้นำเอกสารเท็จไปใช้ขึ้นทะเบียนประจำการ ต่อมาวันที่ 2 ม.ค.2556 กระทรวงกลาโหม ออกคำสั่งเพิกถอนการบรรจุเข้ามาเป็นข้าราชการกลาโหมพลเรือน เมื่อวันที่ 7 ส.ค.2530 เนื่องจากการบรรจุครั้งนั้นท่านไม่มีคุณสมบัติในการบรรจุ หมายถึงท่านหมดสภาพการเป็นข้าราชการกลาโหมตั้งแต่ต้น เนื่องจากไม่ได้ไปเกณฑ์ทหารเมื่อ 7 เม.ย.2530 จึงเพิกถอนการบรรจุ และเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งให้เป็นนายทหารสัญญาบัตร ยศว่าที่ร้อยตรี วันที่ 26 เม.ย.2531 วันนี้กระทรวงกลาโหมยังไม่ได้ถอดยศนายอภิสิทธิ์ เนื่องจากได้รับการพระราชทานแต่งตั้งเป็นนายทหารสัญญาบัตร เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2531 ซึ่งเป็นพระราชอำนาจ ทำให้ขณะนี้นายอภิสิทธิ์ ยังคงเป็นร้อยตรีอยู่ แต่การเป็นทหารของท่านได้หมดไปแล้ว ส่วนการดำเนินการถอดยศร้อยตรีจะต้องรอศาลพิจารณาหรือไม่ก็ได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่รับผิดชอบในสายงานนั้น ตนคงตอบแทนไม่ได้ เพราะตราบใดที่ศาลยังไม่ได้ตัดสินว่าคำสั่งนั้นผิดหรืออย่างไร ถือว่าคำสั่งนั้นมีผลตลอดเวลา

“ขั้นตอนของกระทรวงกลาโหมได้เสร็จสิ้นแล้ว ส่วนการถอดยศซึ่งเป็นยศของทหารบก กองทัพบกก็ต้องไปพิจารณา ว่า กรณีนี้เข้าข่ายการถอดยศหรือไม่ ทั้งนี้ยืนยันว่า เราไม่ได้ปลดซ้ำซ้อน เราปลดโดยการออกคำสั่งเมื่อวันที่ 8 พ.ย.2555 ให้มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2531 แต่คำสั่งที่ 2 เมื่อวันที่ 2 ม.ค.2556 คือ คำสั่งเพิกถอนที่ท่านเข้ามารับราชการโดยไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นคนละเวลากัน และเรื่องนี้คณะกรรมการ 2 ชุดจำนวน 18 คนมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ทุกคนว่า นายอภิสิทธิ์ มีความผิด เมื่อพบความผิดคณะกรรมการจึงเสนอ 6 ข้อ คือ 1.ให้ปลดเนื่องจากกระทำความผิดวินัยทหาร 2.ให้เพิกถอนคำสั่งบรรจุ 3.ให้เพิกถอนคำสั่งการแต่งตั้งการเป็นนายทหารสัญญาบัตร ซึ่งข้อ 1-3 ได้ดำเนินการไปแล้ว 4.เพิกถอนทะเบียนการเป็นทหารกองประจำการ คือ หัวใจของเรื่องนี้ เพราะเมื่อท่านขึ้นทะเบียนทหารกองประจำการถึงจะนับเวลาการรับราชการได้ 5.สมควรจะเรียกคืนหรือสิทธิประโยชน์ที่ได้ไปโดยมิชอบ หรือสมควรที่จะถอดยศหรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กองทัพบกจะต้องเป็นผู้พิจารณาเอง 6.ให้ไปพิจารณาว่า สมควรดำเนินการพิจารณาทางอาญากรณีใดๆ หรือไม่” พล.อ.ม.ล.ประสบชัย กล่าว