“อภิสิทธิ์” กังขา “สุกำพล” สับสนเรื่องถอดยศ เชื่อรัฐบาลเล่นงานไม่เลิก

หน.ปชป.ยันจะร้องศาลปกครอง-ป.ป.ช.อีกรอบ อัด “บิ๊กโอ๋” สับสนตัวเอง จ้องเล่นงานการเมือง กล้าทำเรื่องขัดกันเองเล่นงานสองเรื่องซ้อน เตือนรีบไปชี้แจงต่อศาล ไม่แปลกใจ “เรืองไกร” ร้องสอบคุณสมบัติ แต่เย้ยยื่นช้าไปหน่อย ลั่นเดินหน้าทำการเมืองต่อไป

วันนี้ (4 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าจะมีการไปยื่นต่อศาลปกครองและคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ออกคำสั่งถอดยศตน โดยยังมีเวลา 30 วันหลังจากการออกคำสั่ง ซึ่งจะใช้สิทธิทางกฎหมายโดยรวบรวมข้อเท็จจริงทางกฎหมายให้สมบูรณ์ที่สุด ไม่ใช่ไปร้องแล้วกลายเป็นภาระของศาล หรือ ป.ป.ช. ไปแสวงหาข้อเท็จจริงเหมือนกับครั้งที่แล้ว เมื่อข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายพร้อมก็ไปยื่นต่อ ป.ป.ช. และศาลปกครอง

“ผมคิดว่าตอนนี้ไปฟัง พล.อ.อ.สุกำพลมากไม่ได้ เพราะสะเปะสะปะมาก เพราะบางครั้งก็ยอมรับว่าผมยังเป็นร้อยตรีอยู่ บางทีก็บอกว่าไม่ได้เป็นแล้ว บางวันก็บอกว่าปลดออกจากการเป็นทหาร พออีกวันก็บอกว่าไม่เคยเป็นทหารเลย เป็นคำสั่งที่ขัดกันเองอยู่แล้ว ซึ่งจะมีผลต่อตัว พล.อ.อ.สุกำพลแน่นอน เพราะคำสั่งที่ออกมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีเจตนาที่ไม่สุจริตจะทำให้ท่านเดือดร้อน เพราะเจตนาไม่สุจริตชัดเจน โดยมีเป้าหมายเล่นงานผมอย่างเดียว ถึงขนาดกล้าทำเรื่องที่ขัดแย้งกันเองเพื่อมาเล่นงานถึงสองเรื่อง”

นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ยังเห็นว่า ไม่แปลกใจที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ไปยื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบคุณสมบัติตน หลังจากที่ พล.อ.อ.สุกำพลมีคำสั่งรอบใหม่ โดยมั่นใจว่าจะไม่มีผลทางการเมืองต่อตนเอง เพราะกระบวนการที่จะพิจารณาในเรื่องคุณสมบัติจะต้องดูที่มา ขณะนี้ยังมีประเด็นโต้แย้งกันอยู่ก็ต้องรับฟังซึ่งกันและกัน แต่ถ้ามีการพิจารณาถึงขั้นที่จะมีผลกระทบต่อตนก็จะใช้สิทธิในการขอคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว แต่วันนี้ยังไม่ถึงสถานการณ์นั้น ตนไม่แปลกใจที่นายเรืองไกรไปยื่นแต่คิดว่าอาจจะยื่นช้าไปหน่อย พร้อมกับยืนยันว่าทุกคำสั่งที่ พล.อ.อ.สุกำพลออกมาจะต้องไปเจอที่ศาลปกครอง และ ป.ป.ช.แน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าแผนที่ต้องการกวาดล้างนายอภิสิทธิ์ออกจากเส้นทางการเมืองจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ผู้นำฝ่ายค้านกล่าวว่า คงจะมีการเดินหน้าต่อ โดยเชื่อว่าจะมีไม้สองไม้สามตามมาแน่นอน เพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องก็ยังสร้างขึ้นมาได้ จึงไม่ประมาท เพราะรู้ว่ารัฐบาลตั้งใจเล่นการเมืองแบบนี้ คือ ใช้วิธีกดดันและบีบ จึงยืนยันอีกครั้งว่าไม่ได้ผล การใช้อำนาจรัฐในขณะนี้ไม่มีผลต่อตนและพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเราจะยืนหยัดต่อสู้ในสิ่งที่ไม่ถูกต้องโดยไม่มีใครหวั่นไหวแต่จะเดินหน้าสู้ต่อ และเห็นว่า พล.อ.อ.สุกำพลอยู่ในภาวะสับสน เพราะศาลปกครองได้รับคำร้องของตนไปแล้วคดีหนึ่ง แต่ พล.อ.อ.สุกำพลกลับอ้างว่าศาลปกครองไม่มีอำนาจ จึงงงว่ามาอ้างเช่นนี้ได้อย่างไร ในเมื่อศาลสั่งรับคดีไปแล้ว จึงขอเตือนว่าต้องรีบไปชี้แจงอย่าไปคิดว่าศาลไม่รับ