xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ไม่ขัด “เติ้ง” โซ่กลางปรองดอง ขอเข้าใจปมปัญหา อย่าล้างผิดคนโกง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)
หน.ปชป.ชี้คนกลางปรองดองต้องรู้ประเด็นขัดแย้ง ยันไม่คิดล้มล้าง รบ. เชื่อแก้ รธน.ล้างผิดมีปัญหา เตือน “บรรหาร” รับอาสาอย่าหลงประเด็น อีกด้านห่วงค่าแรง 300 บาท เอสเอ็มอีอยู่ไม่ได้ เตือนยอดผู้ว่างงาน 1.5 แสน รัฐบาลอย่าชะล่าใจ

วันนี้ (2 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นกรณีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาจะเดินสายสร้างความปรองดองกับทุกฝ่ายว่า ถ้าให้คนกลางหรือเป็นนายบรรหารหรือใครเข้ามาก็คงไม่ยาก แต่ต้องเข้าใจว่าขณะนี้ความขัดแย้งพื้นฐานเป็นความขัดแย้งในเชิงหลักการ โดยเฉพาะปัญหาการล้างความผิดคดีทุจริต ถ้านายบรรหารมาคุยและเข้าใจหลักการนี้ พร้อมมีคำตอบได้ก็จะเป็นเรื่องดี เพราะทุกคนอยากได้คำตอบ แต่คำตอบที่ดีที่สุดคือรัฐบาลบริหารบ้านเมืองไป พวกตนก็ไม่ได้ล้มล้างรัฐบาล ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการล้างผิดที่เป็นประเด็นขัดแย้งก็อย่าทำ ทั้งนี้ ตนอยากให้นายบรรหารเข้าใจต้นเหตุและเหตุผลที่แท้จริงของความขัดแย้ง ถ้าทุกคนยอมรับกฎหมาย ยอมรับสิ่งที่เป็นความผิดต่างๆ ที่มีการตัดสินตามกระบวนการยุติธรรมแล้วสังคมก็ให้อภัย แต่ถ้าบอกว่าไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมก็เป็นเรื่องยากที่จะหาข้อยุติ

ต่อข้อถามว่าไม่ได้ปฏิเสธนายบรรหารที่จะมาทำหน้าที่เป็นคนกลางในการสร้างความปรองดอง และมีความคาดหวังอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า หากใครทำ ตนก็ไม่ห้าม ใครอยากทำให้เกิดความสามัคคี ตนเชียร์ทั้งนั้น แต่ทำแล้วจะสำเร็จหรือไม่ ก็อยู่ที่ว่าถ้าเข้าใจประเด็นก็คงจะง่ายขึ้น แต่ถ้าไม่เข้าใจก็คงลำบาก และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสำเร็จได้

นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ยังให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมบลูสกายแชนแนล ถึงกรณีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาทว่า สำหรับบริษัทใหญ่ๆ ไม่น่าห่วงเพราะทางรัฐบาลได้ลดภาษี 23% เป็น 20% แต่น่าเป็นห่วงธุรกิจเอสเอ็มอี ซึ่งอยากเห็นการประเมินตั้งแต่เดือน ม.ค. ว่าธุรกิจขนาดเล็ก ธุรกิจที่ต้องใช้แรงงานเยอะๆ ธุรกิจที่เคยอยู่หรือยังอยู่ ถ้ายังอยู่ต่างจังหวัดไกลๆ ซึ่งต้นทุนทางด้านอื่นสูง พอค่าแรงเป็น 300 บาทแล้วจะอยู่ได้หรือไม่ได้ อยากให้มีการติดตามโดยเร็ว แล้วก็หวังว่าปีใหม่นี้จะทำให้สภาอุตสาหกรรมนั้น ศึกภายในสงบลง ซึ่งขอให้ทางรัฐบาลเอาใจใส่ แล้วก็ติดตามเรื่องนี้ เราคงไม่อยากเห็นปัญหา

ส่วนกรณีตัวเลขอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นอีก 1.5 แสนคนนั้น ภาพรวมของตลาดแรงงานไทยต้องยอมรับว่ายังเป็นตลาดซึ่งแรงงานขาดแคลนในภาพรวม แต่ว่าการที่มีการระบุว่าจะเกิดการว่างงานเพิ่มขึ้นมากพอสมควรนั้น เป็นเรื่องที่รัฐบาลตายใจไม่ได้ ประมาทไม่ได้ เพราะตอนเข้ามารับหน้าที่ หนี้สาธารณะก็ต่ำ ปัญหาของการว่างงานไม่มี แล้วก็เลยอาจจะไปคิดว่า ฉะนั้นทำนโยบายอะไรคงไม่เป็นไร ทำได้เต็มที่ แต่ก็อยากจะเตือนว่าเมื่อทำไปแล้วมันก็ย่อมส่งผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นต่อเรื่องแรงงาน ต่อเรื่องหนี้สาธารณะ ต่อเรื่องการส่งออก เพราะฉะนั้นไม่อยากให้ชะล่าใจแบบนี้ แล้วก็มาแก้ปัญหากันทีหลัง


กำลังโหลดความคิดเห็น