ม็อบ ขปส.บุกทำเนียบ ตามเรื่องแก้ปัญหาที่ดินทำกินไร้ความคืบหน้าหลังตั้ง กก.บูรณาการ จี้เร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ส่งตำรวจคุ้มครองชาวสุราษฎร์ฯ สู้นายทุน เผยพรุ่งนี้ชาวสำโรงกลางมาร้องนายกฯ ขอเคลียร์เจ้าของที่หลังถูกไล่ที่ ด้าน “แรมบ้า” ไม่ให้คำตอบได้พบหรือไม่
วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ได้เดินทางมาชุมนุมที่บริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล ก่อนส่งตัวแทนเข้าติดตามความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในการหารือเพื่อแก้ไขปัญหา เรื่องที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยของ ขปส. ซึ่งมีนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้เป็นผู้รับเรื่องดังกล่าวแทนนายกรัฐมนตรี โดยนายประยงค์ ดอกลำใย แกนนำ ขปส.กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้เคยยื่นเรื่องและหารือร่วมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อให้พิจารณาแก้ไขปัญหาดังกล่าวในช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นได้มีการตั้งคณะกรรมการบูรณาการบริหารจัดการที่ดินเชิงระบบ ที่มีการตั้งอนุกรรมการขึ้นมาถึง 10 ชุด และนายกฯ ได้ระบุว่าจะมีการประชุมร่วมกับ ขปส.อีกครั้งในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ถึงวันนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ทำให้ปัญหาดังกล่าวยังคมมีอยู่ เช่น ประชาชนถูกข่มขู่คุกคาม ถูกจับกุมดำเนินคดี เนื่องจากนโยบายไม่มีความชัดเจน
นายประยงค์กล่าวต่อว่า จากปัญหาดังกล่าวจึงขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าก่อน เช่น กรณีความขัดแย้งเรื่องที่ดินทำกินเมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา ในพื้นที่ ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี จนทำให้มีผู้เสียชีวิตด้วยอาวุธสงครามถึง 2 ราย จึงเรียกร้องให้รัฐบาลส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจากส่วนกลางเข้าไปให้การคุ้มครองประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากข้อขัดแย้งดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกลุ่มอิทธิพล อีกทั้งเคยขอกำลังจากทางอำเภอไปแต่ได้รับคำตอบว่ากำลังไม่เพียงพอ และพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่รอยต่อกับจังหวัดกระบี่ เมื่อเกิดเหตุแล้วผู้กระทำผิดจะข้ามเขตพื้นที่ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินการได้ รวมถึงให้ช่วยเร่งรัดการเยียวยาครอบครัวผู้ที่เสียชีวิตด้วย
นายประยงค์กล่าวต่อว่า กรณีต่อมาคือการขับไล่ประชาชนในชุมชนหลังศาลเจ้าพ่อทัพ ใน ต.สำโรงกลาง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ออกจากพื้นที่ โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นชุมชนแออัดที่ประชาชนในพื้นที่สำโรงได้อยู่อาศัยประมาณ 170 ครัวเรือน โดยไม่ทราบว่าเจ้าของที่ดินเป็นใคร ต่อมาได้มีการขายที่ดินดังกล่าวให้กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งและได้มีการไล่ที่ให้ประชาชนออกจากพื้นที่ในเวลา 1 เดือน ทั้งนี้ ประชาชนในพื้นที่ยินยอมออกจากพื้นที่โดยดี แต่ขอเวลาในการหาที่อาศัยใหม่และอยากให้รัฐบาลเป็นตัวกลางในการเจราจากับบริษัทเจ้าของพื้นที่เพราะก่อนหน้านี้ยังไม่เคยมีการเจรจากัน และขณะนี้ได้มีการจับกุมประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวเนื่องจากบุกรุกพื้นที่ พร้อมทั้งขอเข้าพบนายกฯ ในวันพรุ่งนี้ด้วย
ด้านนายสุภรณ์ระบุว่า จะเร่งพิจารณากรณีต่างๆ เพื่อเสนอต่อนายกรัฐมนตรีต่อไปและในวันนี้ ที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรง รองนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชุน จะมีความคืบหน้าในหลายๆ เรื่อง ส่วนกรณีขอเข้าพบนายกฯ นั้นยังไม่สามารถให้คำตอบได้
วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ได้เดินทางมาชุมนุมที่บริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล ก่อนส่งตัวแทนเข้าติดตามความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในการหารือเพื่อแก้ไขปัญหา เรื่องที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยของ ขปส. ซึ่งมีนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้เป็นผู้รับเรื่องดังกล่าวแทนนายกรัฐมนตรี โดยนายประยงค์ ดอกลำใย แกนนำ ขปส.กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้เคยยื่นเรื่องและหารือร่วมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อให้พิจารณาแก้ไขปัญหาดังกล่าวในช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นได้มีการตั้งคณะกรรมการบูรณาการบริหารจัดการที่ดินเชิงระบบ ที่มีการตั้งอนุกรรมการขึ้นมาถึง 10 ชุด และนายกฯ ได้ระบุว่าจะมีการประชุมร่วมกับ ขปส.อีกครั้งในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ถึงวันนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ทำให้ปัญหาดังกล่าวยังคมมีอยู่ เช่น ประชาชนถูกข่มขู่คุกคาม ถูกจับกุมดำเนินคดี เนื่องจากนโยบายไม่มีความชัดเจน
นายประยงค์กล่าวต่อว่า จากปัญหาดังกล่าวจึงขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าก่อน เช่น กรณีความขัดแย้งเรื่องที่ดินทำกินเมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา ในพื้นที่ ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี จนทำให้มีผู้เสียชีวิตด้วยอาวุธสงครามถึง 2 ราย จึงเรียกร้องให้รัฐบาลส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจากส่วนกลางเข้าไปให้การคุ้มครองประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากข้อขัดแย้งดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกลุ่มอิทธิพล อีกทั้งเคยขอกำลังจากทางอำเภอไปแต่ได้รับคำตอบว่ากำลังไม่เพียงพอ และพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่รอยต่อกับจังหวัดกระบี่ เมื่อเกิดเหตุแล้วผู้กระทำผิดจะข้ามเขตพื้นที่ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินการได้ รวมถึงให้ช่วยเร่งรัดการเยียวยาครอบครัวผู้ที่เสียชีวิตด้วย
นายประยงค์กล่าวต่อว่า กรณีต่อมาคือการขับไล่ประชาชนในชุมชนหลังศาลเจ้าพ่อทัพ ใน ต.สำโรงกลาง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ออกจากพื้นที่ โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นชุมชนแออัดที่ประชาชนในพื้นที่สำโรงได้อยู่อาศัยประมาณ 170 ครัวเรือน โดยไม่ทราบว่าเจ้าของที่ดินเป็นใคร ต่อมาได้มีการขายที่ดินดังกล่าวให้กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งและได้มีการไล่ที่ให้ประชาชนออกจากพื้นที่ในเวลา 1 เดือน ทั้งนี้ ประชาชนในพื้นที่ยินยอมออกจากพื้นที่โดยดี แต่ขอเวลาในการหาที่อาศัยใหม่และอยากให้รัฐบาลเป็นตัวกลางในการเจราจากับบริษัทเจ้าของพื้นที่เพราะก่อนหน้านี้ยังไม่เคยมีการเจรจากัน และขณะนี้ได้มีการจับกุมประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวเนื่องจากบุกรุกพื้นที่ พร้อมทั้งขอเข้าพบนายกฯ ในวันพรุ่งนี้ด้วย
ด้านนายสุภรณ์ระบุว่า จะเร่งพิจารณากรณีต่างๆ เพื่อเสนอต่อนายกรัฐมนตรีต่อไปและในวันนี้ ที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรง รองนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชุน จะมีความคืบหน้าในหลายๆ เรื่อง ส่วนกรณีขอเข้าพบนายกฯ นั้นยังไม่สามารถให้คำตอบได้
