กาญจนบุรี - กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง 5 อำเภอในกาญจนบุรี บุกศาลากลางจังหวัดยื่นหนังสือผ่านรองผู้ว่าฯ กาญจนบุรีถึงรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” เรียกร้องแก้ปัญหาราคามันฯ ตกต่ำ ลั่นหากไม่สำเร็จพร้อมยกทัพบุกทำเนียบรัฐบาล เทมันประจาน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (24 ธ.ค.) นายรังสี ไผ่สะอาด แกนนำผู้ปลูกมันสำปะหลัง 5 อำเภอ พร้อมด้วยกลุ่มเกษตรกรกว่า 40 คน ได้เดินทางไปที่ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อยื่นหนังสือให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งไปถึงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้หาแนวทางแก้ปัญหาราคาหัวมันสำปะหลังตกต่ำ พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลทำตามข้อเสนอ 8 ข้อโดยด่วน ทั้งนี้ หากรัฐบาลไม่ทำตามกลุ่มเกษตรกรทั้ง 5 อำเภอ พร้อมบุกทำเนียบรัฐบาลเทมันประจาน โดยมีนายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายวรวิทย์ เมฆนพรัตน์ พาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี นางพรรษวรรณ จันทร์ดี การค้าภายในจังหวัดกาญจนบุรี เป็นตัวแทนรับหนังสือ
นายรังสี ไผ่สะอาด แกนนำผู้ปลูกมันสำปะหลัง กล่าวว่า การเดินทางมายื่นหนังสือครั้งนี้เพราะเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังทั้ง 5 อำเภอได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากโครงการรับจำนำมันสำปะหลังของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย อำเภอสังขละบุรี อำเภอทองผาภูมิ อำเภอไทรโยค อำเภอด่านมะขามเตี้ย และอำเภอเมือง ดังนั้น พวกตนจึงมีข้อเรียกร้องเสนอต่อรัฐบาลเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาหัวมันสำปะหลังตกต่ำ ตามที่เกษตรกรต้องการให้ภาครัฐรีบดำเนินการโดยด่วน 8 ข้อ ประกอบด้วย
1.ขอให้รัฐบาลไปตั้งจุดรับจำนำหัวมันสำปะหลังสดเป็นการชั่วคราวในพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังทุกตำบลใน 5 อำเภอ ตำบลละ 1 แห่ง จากนั้น ให้รัฐบาลเป็นผู้ขนย้ายไปยังจุดรับจำนำถาวรพร้อมกับแปรสภาพเอง โดยไม่มีการหักค่าขนส่งจากเกษตรกร หรือหากรัฐบาลไม่สามารถตั้งจุดรับจำนำชั่วคราวได้ทุกตำบล ก็ให้ตั้งจุดรับจำนำถาวรให้ใกล้พื้นที่ที่สุด เช่น อำเภอสังขละบุรีจะต้องมีจุดรับจำนำอย่างน้อย 1 แห่ง อำเภอทองผาภูมิ 2 แห่ง อำเภอไทรโยค 3 แห่ง อำเภอด่านมะขามเตี้ย 2 แห่ง และอำเภอเมือง 1 แห่ง
2.ขอให้รัฐบาลจ่ายค่าชดเชยค่าขนส่งให้เกษตรกร ในกรณีที่เกษตรกรต้องนำหัวมันสดไปเข้าโครงการรับจำนำในพื้นที่ที่ห่างไกล ตั้งแต่ระยะทาง 20 กิโลเมตรขึ้นไป โดยการเหมาจ่ายในราคา 1 ตันต่อ 1 กิโลเมตร ในราคาไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา
3.ขอให้รัฐบาลรับจำนำโดยหักสิ่งเจือปนตัดจากน้ำหนักที่ไม่เกิน 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
4.หากเกษตรกรไม่สามารถขุดมันออกมาเข้าโครงการได้ทันตามเวลาที่กำหนดเอาไว้ คือ วันที่ 31 มีนาคม 2556 ขอให้รัฐบาลขยายเวลารับจำนำออกไปอีก 1 เดือน
5.หากเกษตรกรไม่สามารถขุดมันขึ้นมาเข้าโครงการรับจำนำในปีนี้ได้ทัน ในกรณีที่รัฐบาลไม่ขยายเวลาออกไปจากที่กำหนดไว้ ขอให้รัฐบาลรับจำนำหัวมันใต้ดิน
6.ขอให้กำหนดจำนวนอัตราผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ ให้เหมาะสมกับผลผลิตจริงที่ผลิตได้คือ จากเดิมผลิตได้ไร่ละ 3.2 ตัน ขอให้เพิ่มเป็น 4.5 ตันต่อไร่ และจะต้องไม่จำกัดจำนวนสูงสุด โดยคิดตามพื้นที่มีการเพาะปลูกจริงทั้งหมด
7.ขอให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังรายใหม่ที่ปลูกอยู่ในพื้นที่ดินเอกสาร ภบท.5 สามารถจดขึ้นทะเบียนเป็นผู้ปลูกมันสำปะหลังได้เหมือนรายเก่า โดยเสมอภาคเท่าเทียมกัน
และ 8.ขอให้รัฐบาลแก้ไขโดยการเปลี่ยนวิธีที่ใช้อยู่คือ โครงการรับจำนำ มาเป็นโครงการประกันราคา หรือใช้วิธีจ่ายค่าชดเชยส่วนต่างแทน
นายรังสี ไผ่สะอาด แกนนำผู้ปลูกมันสำปะหลัง กล่าวต่อว่า หากรัฐบาลมีความจริงใจ และตั้งใจแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ตามแนวทางที่เกษตรกรเรียกร้องทั้ง 8 ข้อ เชื่อว่าปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนก็จะหมดไป แต่อย่างไรก็ตาม หากข้อเรียกร้องไม่ได้ผล ตนและกลุ่มเกษตรกรทั้ง 5 อำเภอพร้อมที่จะเดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล และจะนำมันสำปะหลังไปเทประจานรัฐบาลแน่นอน
ด้านนายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวกับกลุ่มเกษตรกรว่า หลังจากได้รับหนังสือ และทราบข้อเสนอจากกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังทั้ง 8 ข้อ ตนจะได้เร่งดำเนินการให้โดยจะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมเพื่อแนวทางในการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน
“ข้อเรียกร้องใดที่ทางจังหวัดสามารถดำเนินการได้ก็จะรีบดำเนินการให้โดยเร็ว ส่วนข้อเรียกร้องบางข้อที่ทางจังหวัดไม่สามารถกระทำได้ก็จะรีบดำเนินการส่งหนังสือเพื่อรายงานให้รัฐบาลทราบโดยด่วนเช่นกัน” นายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีกล่าว