“ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน” เชื่อสุดท้ายเพื่อไทยทำประชามติตามบัญชานายใหญ่ ชี้ปฏิญญาเขาใหญ่เดินหน้าวาระ 3 แดงโดนแช่แข็งแล้ว เผยกระแสต้านยังไม่คลี่คลายแน่ ระบุโหวตแค่พิธีกรรมฟอกผิด “นช.แม้ว” จวกรัฐโบ้ยเรื่องของสภาฟังไม่ขึ้น ยันรัฐมีอำนาจจุ้น ส.ส.ร.ตลอดเวลา ย้ำถ้าไม่แก้ครหาเพื่อคนคนเดียวก็ยังเป็นสายล่อฟ้าเหมือนเดิม เตือนทำชาติเดินตามรอยอียิปต์
วันนี้ (23 ธ.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า ตนเห็นว่ากรณีการออกเสียงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เห็นต่างกันระหว่างแกนนำ นปช.ที่เสนอให้ลงมติวาระ 3 ในขณะที่รัฐบาลและ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องการให้เดินหน้าออกเสียงประชามตินั้น เชื่อว่าในที่สุดก็คงเป็นไปตามประกาศิตนายใหญ่ ความเห็นต่างในเรื่องนี้คงไม่ขยายตัวเป็นความขัดแย้ง เพราะที่ผ่านมา อำนาจเด็ดขาดทั้งในพรรคเพื่อไทยและในขบวนการคนเสื้อแดงอยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ฉะนั้น “ปฏิญญาเขาใหญ่” ของ นปช.ที่ต้องการให้รัฐบาลเดินหน้าลงมติวาระ 3 นั้น ก็คงถูกแช่แข็งโดย พ.ต.ท.ทักษิณเช่นเคย เหมือนเมื่อคราวที่ นปช.จัดชุมนุมหน้าสภาเพื่อกดดันให้ ลงมติวาระ 3 โดยไม่สนใจคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญนั้น แต่สุดท้ายก็กลับบ้านมือเปล่า
“ผมเชื่อว่ากระแสต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไม่คลี่คลาย แม้รัฐบาลจะจัดให้มีการออกเสียงประชามติก็ตาม เพราะประชาชนไม่ไว้วางใจและไม่เชื่อว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อการปฏิรูปการเมือง แต่เชื่อว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือการจัดให้มีการออกเสียงประชามติจะเป็นเพียงพิธีกรรมสร้างความชอบธรรมในการฟอกผิด พ.ต.ท.ทักษิณ และเครือข่ายเท่านั้น” นายสุริยะใสกล่าว
นายสุริยะใสกล่าวต่อว่า ส่วนที่รัฐบาลและพรรคร่วมบอกว่าเป็นเรื่องของสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) และรัฐสภานั้นฟังไม่ขึ้น เพราะรัฐบาลกุมเสียงข้างมากในสภา และมีอำนาจที่จะสามารถแทรกแซงกำหนดตัว ส.ส.ร.สายวิชาการ หรือแม้แต่ในกระบวนการยกร่างได้ตลอดเวลา เพราะรัฐบาลกุมทั้งสื่อและงบประมาณอยู่แล้ว อยากเตือนรัฐบาลว่าตราบใดที่ยังไม่สามารถลบข้อครหาว่าแก้รัฐธรรมนูญเพื่อคนคนเดียวนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็จะเป็นสายล่อฟ้า เป็นเงื่อนไขความแตกแยกในสังคมมากขึ้น และเป็นเรื่องยากที่รัฐบาลจะควบคุมกระแสต่อต้านได้ ถึงตอนนั้นประเทศไทยก็คงเดินตามรอยประเทศอียิปต์แตกแยกขัดแย้งไม่รู้จบ