ผบ.ทบ.เผยที่ประชุม กปต.เสนอบูรณาการกำหนดพื้นที่เร่งด่วนให้ กอ.รมน.ดูแล ส่วนพื้นที่ปลอดภัยให้ ศอ.บต.ลงไป เผยโจรใต้โจมตี จนท.ที่ป้องกันตนเองต่ำ ไม่ใช่แค่ครู ชี้สิ่งต้องระวังถูกยกระดับสถานการณ์และองค์กรภายนอกสากล ยันไม่เสียดินแดนแต่อาจเสียความเชื่อมั่น วอนหยุดโจมตีปัญหาใต้เพราะไม่เกิดประโยชน์ อีกด้านเลขาฯ สมช.เผยความจำเป็นตั้ง ศปก.กปต. เป็นหน่วยหนุน กปต.กับพื้นที่
วันนี้ (12 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีการทำร้ายครูอย่างต่อเนื่องว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.) ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีได้ลงนามในคำสั่งเรียบร้อยแล้ว ถือเป็นประชุม กปต.ครั้งแรกที่มีรัฐมนตรีจาก 17 กระทรวง 66 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยหน่วยงานด้านความมั่นคงเสนอให้มีการบูรณาการร่วมกันของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) โดยนายกฯ กำหนดพื้นที่เร่งด่วนที่ยังมีปัญหาในเรื่องความมั่นคงให้ กอ.รมน.เข้าไปดูแลเป็นพิเศษ แต่หากพื้นที่ใดปลอดภัยจะให้ ศอ.บต.ลงไปปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานปกติ เพื่อปรับเกลี่ยการใช้กำลังในพื้นที่ ขณะนี้กลุ่มก่อความไม่สงบมีเป้าหมายหลักทำลายเจ้าหน้าที่ ไม่เฉพาะครู แต่เป็นคนที่มีการการระวังป้องกันตนเองต่ำ ซึ่งเราต้องดูแลรักษาความปลอดภัยให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่วันนี้ยังดำเนินการไม่ได้เนื่องจากมีหลายปัจจัย ทั้งเรื่องกำลังเจ้าหน้าที่ทหารที่ไม่เพียงพอเพราะพื้นที่ภาคใต้กว้าง ซึ่งถ้าไม่เพียงพอก็ต้องผลิตเพิ่ม
“ปัญหาภาคใต้เป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อน และต้องแก้ให้ได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่ซ้อนทับอยู่หลายมิติ ไม่ได้แก้ด้วยการใช้ความรุนแรงหรือกำลัง เราต้องแก้ด้วยการบังคับใช้กฎหมาย อำนวยการยุติธรรม และการพัฒนาทุกมิติ สิ่งเหล่านี้อาจไม่ทันใจกองเชียร์ คนดูที่อาจมองว่าเราแก้ปัญหาไม่ได้ สิ่งเหล่านี้เป็นการต่อสู้ทางความคิด ศาสนา เรื่องคนไม่ดีที่กระทำผิดกฎหมาย จึงต้องค่อยๆแกะกันออกมา ทุกคนต้องระมัดระวังตัวเอง ไม่มีใครจะดูแลได้ 100% แต่จะดูแลให้มากที่สุด การรักษาความสงบปลอดภัยวันนี้ไม่ใช่เรื่องของเจ้าหน้าที่เพียงอย่างเดียว ทุกคนต้องช่วยกัน ทราบดีว่า กองทัพบกเป็นกองทัพใหญ่อาจเป็นความหวังของประชาชน แต่เราต้องดำเนินการไปตามกฎหมายที่มีอยู่ทุกประการ ถ้าเราไม่รักกัน ไม่ดูแลซึ่งกันและกัน ประเทศชาติคงไม่ปลอดภัย” ผบ.ทบ.กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า การดูแลรักษาความปลอดภัยครูจะต้องช่วยกันดูแลและช่วยกันรักษากฎ กติกา เมื่อครูเป็นเป้าหมายหลักจึงจำเป็นต้องระวังตัวให้มากที่สุด หากไม่ต้องการให้ทหารเข้าไปดูแลจะทำให้เกิดเหตุบ่อยครั้ง ซึ่งบางโรงเรียนไม่ต้องการให้ทหารเข้าไปใกล้ๆ ครู เราจึงต้องเข้าไปอยู่ในป่าแทน ซึ่งต่อไปนี้จะต้องมีกำลังท้องถิ่นเข้าไปดูแลประจำ เรียกว่ากำลังประจำถิ่น เพื่อเข้าไปแทนทหารที่ไปปฏิบัติภารกิจอื่น ตนขอร้องว่าถ้าครูคิดว่าไม่ปลอดภัย ขอให้เจ้าหน้าที่ทหารอยู่ดูแล สิ่งสำคัญเราอย่าไปให้ความสำคัญแต่ละเรื่อง เพราะเหมือนเราจะไปตามแก้ไขปัญหา วันนี้ต้องแยกให้ออก การแก้ไขปัญหา คือ ต้องทำให้เป้าหมายหลักปลอดภัย คือการบูรณาการกำลังทุกภาคส่วนและประชาชนต้องมีส่วนร่วม
“อย่ามองเพียงว่าทหารหรือตำรวจต้องดูแล เพราะมันเสี่ยงสูง เนื่องจากพื้นที่กว้างมาก การแก้ไขปัญหานั้นไม่ได้อยู่ที่งบประมาณหรืออยู่ที่เงิน เพียงแต่เป็นส่วนประกอบที่ทำให้มีเครื่องมือ หรือเจ้าหน้าที่เข้าไปทำงานเท่านั้น กลุ่มงานทั้ง 6 กลุ่ม ได้แก่กลุ่มงานด้านการพัฒนา กลุ่มงานด้านกฎหมาย กลุ่มงานสร้างความเข้าใจ กลุ่มงานรักษาความมั่นคง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน กลุ่มแสวงหาทางออก และกลุ่มงานด้านการศึกษา โดยทุกกระทรวงจะนำงบประมาณมากองรวมกันไว้ก่อนที่จะอนุมัติแผนงานออกมา การพูดอย่างนี้ไม่ได้เรียกร้องงบประมาณ แต่เรามองการแก้ไขปัญหาทุกมุม ปัญหาภาคใต้มีสิ่งที่ควรระมัดระวัง 2 ประการ คือ การยกระดับปัญหาของสถานการณ์ภาคใต้ของเรากันเองและการยกระดับขององค์กรภายนอกสากล การบาดเจ็บสูญเสียผมรับไม่ได้ แต่ทำอย่างไรถึงจะแก้ไขปัญหาได้ ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ทั้งนี้ การวิเคราะห์ถือว่า เป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงที่จะให้บุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาถือว่าเป็นเรื่องอันตราย ทุกคนต้องระวังเพราะเป็นเป้าหมายหมด ทั้งครูและเจ้าหน้าที่ ถ้าเผลอเมื่อไรก็โดน ผมอยากบอกว่าถึงอย่างไรเราก็ไม่เสียดินแดน ซึ่งถือเป็นชัยชนะอย่างหนึ่ง แต่จะเสียเรื่องความเชื่อมั่น เพราะเขาต้องการให้ขาดความเชื่อมั่นทั้งเรื่องเจ้าหน้าที่และไม่ไว้วางใจรัฐบาล ผมไม่อยากให้นำปัญหาภาคใต้มาเป็นปัญหาทางการเมือง เพราะปัญหาภาคใต้เป็นปัญหาของชาติ ทุกคนต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอให้หยุดโจมตีปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะไม่ได้เกิดประโยชน์กับใคร อีกทั้งทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานยากขึ้นทุกวัน บางคนอาจคิดว่าถ้าให้คนอื่นมาดูจะดีกว่าหรือไม่ แต่ถามว่าหากต่างชาติเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา เขาจะแคร์และคำนึงถึงปัญหาที่จะตามมาหรือไม่ ต่างชาติรบให้จบภารกิจเท่านั้น แต่ปัญหายังคงเหมือนเดิม เราจึงต้องแก้ไขปัญหากันเอง ต่อไปนี้พื้นที่รุนแรงน้อยจะให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจภูธรรับผิดชอบโดยตรง ส่วนพื้นที่ไหนหนักจะให้ทหารเข้าไปดูแลเป็นพิเศษ อย่าโทษว่าเป็นความผิดชอบใคร อยากขอร้องให้สื่อมวลชนให้กำลังใจและช่วยให้ฝ่ายการเมือง ฝ่ายท้องถิ่น สามัคคีร่วมมือกัน อย่าบอกว่าทหารบกพร่อง ตนสั่งการแม่ทัพภาคที่ 4 แก้ไขปัญหาทุกวัน แต่อย่างเดียวที่เป็นปัญหาหนักหนาสาหัสคือยังไม่สามารถทำให้คนไม่ตายไม่ได้ และจะเป็นอย่างนี้ต่อไปเพราะฝ่ายกลุ่มก่อเหตุไม่มีอะไรมาสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐ จึงลอบกัดด้วยฆ่าคน การแก้ไขปัญหามีโครงงานทั้งระยะสั้น และระยะยาว ขอให้มองด้วยใจบริสุทธิ์ และขณะนี้กองทัพภาคที่ 4 ได้นำเรือเหาะขึ้นบินตรวจการณ์แล้ว ซึ่งถือเป็นมาตรการหนึ่งในการแก้ไขปัญหา
อีกด้านหนึ่งที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า ตามปกติคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.) จะประชุม 1 หรือ 2 เดือนครั้ง ดังนั้นรอยต่อระหว่างการสื่อสารของ กปต.กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ไม่ต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นจึงมี ศปก.กปต.ไปเป็นหน่วยงานสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง โดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีิก็จะต้องมีการประสานกับในพื้นที่ ทั้ง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และ ศอ.บต.อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา เพื่อที่ข้อมูลต่างๆ จะได้ทันสถานการณ์ และประมวลข้อมูลให้คณะกรรมการได้อย่างฉับพลันและทันต่อสถานการณ์