ส.ส.แดงชี้ ปชป.จัดเวทีแจงความจริงเมษาเลือดแค่โบ้ยความรับผิดชอบให้ชายชุดดำ ซัดชั่ว อำมหิต ย้อน “อภิสิทธิ์” จี้ “ชายจืด” รับผิด 7 ตุลา แต่พอตัวเองกลับไม่ยอม แนะขอโทษเรื่องดีขึ้น แต่ปากดีไล่ ปชป.เปลี่ยน หน.พรรคหากไม่อยากแพ้เลือกตั้ง ส่วน “อนุสรณ์” มาบทเดียวกันทั้งพรรค อัดเต้าข่าวไซฟ่อนเงิน เย้ยปชป.ตกต่ำถึงต้องอาศัย ภตช.ล้ม รบ.
คลิกที่นี่ แถลงการณ์ โดย "นายก่อแก้ว พิกุลทอง"
วันนี้ (16 ต.ค.) นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม นปช. กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้จัดเวทีตามสถานที่ต่างๆ เพื่อตามหาชายชุดดำว่า ตนมองว่าเรื่องนี้เป็นเกมเพื่อที่จะปกป้องความผิดของตัวเองและโยนความผิดไปให้ชายชุดดำ โดยคนคิดเกมนี้ถือว่าเป็นคนที่เก่งที่สามารถคิดเกมที่อำมหิต โหดเหี้ยม และชั่วได้ถึงขนาดนี้ ซึ่งตนไม่ทราบว่าพรรคประชาธิปัตย์หาชายชุดดำเจอหรือยัง แต่ตนคิดว่าที่รัฐสภามีชายใจดำแน่นอนที่สั่งฆ่าประชาชนถึง 98 ศพ และบาดเจ็บอีกจำนวนมากแต่กลับไม่ยอมรับผิดชอบ โดยนายอภิสิทธิ์เคยถามหาความผิดชอบจากนายสมชาย อดีตนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่ใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า หากไม่รับผิดชอบก็เหมือนกับไม่ใช่คน ซึ่งถ้านายอภิสิทธิ์พูดเช่นนั้น ตอนนี้นายอภิสิทธิ์ก็ไม่ใช่คนเช่นเดียวกันที่ไม่ยอมรับความผิดของตัวเอง
นายก่อแก้วกล่าวต่อว่า ตนอยากจะแนะนำว่าไม่จำเป็นต้องไปหาชายชุดดำที่ไหน แต่ให้นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมาขอโทษต่อประชาชนและผู้สูญเสีย เรื่องก็จะดีขึ้น ทั้งนี้ตนอยากจะฝากไปยังพรรคประชาธิปัตย์ให้เปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคจะดีกว่า ไม่เช่นนั้นไม่ว่าจะเลือกตั้งกี่ครั้งก็จะต้องแพ้ไปเรื่อยๆ และเมื่อแพ้แล้วก็จะพยายามหาตัวช่วย ซึ่งก็จะต้องเกิดการเผชิญหน้ากับพวกตนอีกซ้ำรอยเดิม
ส่วนนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ตรวจสอบข้อมูลนักการเมืองขนเงิน 1.6 หมื่นล้านบาทไปไซฟ่อนที่ฮ่องกงว่า คิดไม่ถึงว่าพรรคประชาธิปัตย์จะตกต่ำถึงขั้นหาประเด็นโจมตีรัฐบาลจากการจับแพะชนแกะ ตัดแปะข่าวหนังสือพิมพ์รายวัน อ้างข้อมูลการไซฟ่อนเงินจากนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นแห่งชาติ (ภตช.) ความจริงก่อนนายองอาจจะเชื่อข้อมูลของนายมงคลน่าจะลองไปถาม อาจารย์ ผู้ปกครอง และนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชาก่อน ว่าทำไมถึงพากันขับไล่นายมงคลกิตติ์ไม่ให้เข้าโรงเรียน ไม่อายเด็กนักเรียนบดินทรเดชาบ้างที่เขารวมตัวกันเพื่อปกป้องเกียรติภูมิและเกียรติยศของโรงเรียน เด็กยังไม่ยอมเป็นเหยื่อทางการเมือง หรือคิดจะพาคนที่สังคมสงสัยว่าเป็นนักต้มตุ๋นระดับมัธยมมาล้มรัฐบาล
นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า ไม่มีเหตุผลใดที่ ภตช จะไปประชุมกับคณะกรรมการอิสระเพื่อการต่อต้านคอร์รัปชั่น (ไอซีเอซี) ของฮ่องกง หากมีจริงทางไอซีเอซีจะต้องติดต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ของไทย แต่ติดต่อภาคีภาคเอกชนที่แต่งตั้งกันเอง ไม่มีกฎหมายรองรับ และถ้า ภตช.หรือพรรคประชาธิปัตย์มีข้อมูลจริง เหตุใดไม่แจ้ง ป.ป.ช.และ ปปง. ไปแจ้งกรรมาธิการวุฒิสภา ซึ่งก็รู้อยู่ว่าใครเป็นใครใน 40 ส.ว. ถือเป็นการเต้าข่าวให้รัฐบาลเสียหาย ซึ่ง ป.ป.ง.ฮ่องกงก็ยืนยันว่าไม่มีการโอนเงิน 1.6 หมื่นล้านไปยังฮ่องกง
“วิธีการทำงานการเมืองแบบนี้ของพรรคประชาธิปัตย์ ถือว่าไม่สร้างสรรค์ เหมือนกับการโกหกว่ามีการขนเงินจำนวน 1 หมื่นล้านบาทผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ ในช่วงเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 อธิบายวิธีเสร็จสรรพว่าทยอยขนเข้ามาครั้งละ 1 พันล้านบาท ซึ่งที่สุดก็ไม่มีอะไร ยืนยันว่านโยบายของรัฐบาลชุดนี้เน้นการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตทุกรูปแบบ และได้ดำเนินการมาอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ถ้าพรรคประชาธิปัตย์มีข้อมูลจริงไปแจ้งความได้เลย หรือกลัวว่าจะโดนข้อหาแจ้งความเท็จ เสียราคาอดีตรัฐมนตรี” นายอนุสรณ์กล่าว