xs
xsm
sm
md
lg

“แม้ว” โผล่ช่อง 11 ได้ไม่คุ้มเสีย แรงกระเพื่อมไปไกลเกินคาด!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ผ่าประเด็นร้อน

ตอนแรกก็นึกสงสัยอยู่นานว่าจู่ๆ ทำไม ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีถึงได้ประกาศ “ป่วยล่วงหน้า” และทั้งๆ ที่รู้ว่า “ป่วยการเมือง” แต่ในตอนแรกก็ยังจับทางไม่ออกว่าจะมาไม้ไหน แต่พอได้เห็นภาพของ ทักษิณ ชินวัตร โผล่เอ็นบีที (ช่อง 11) เมื่อวันก่อน เป็นประธานอ่านสคริปต์ชี้แจงเรื่องความจงรักภักดี และแก้ตัวเรื่องความผิดของตัวเองก่อนการแข่งขันชกมวยรายการหนึ่งที่ถ่ายถอดข้ามประเทศจากเขตปกครองพิเศษมาเก๊า ซึ่งแน่นอนว่ารายการมวยดังกล่าวก็มองออกได้ไม่ยากเป็นแค่ “จัดฉาก” ขึ้นมาบังหน้า เพื่อให้เขาได้เคลียร์ตัวเอง

แน่นอนว่าการจัดฉากดังกล่าวต้องได้รับการสมรู้ร่วมคิดจากคนในรัฐบาลไล่ไปตั้งแต่ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ประกาศป่วยการเมืองล่วงหน้าและเก็บตัวเงียบไม่ต้องพบหน้าสื่อมวลชนที่อาจตั้งคำถามกวนใจจนความลับแตกเสียก่อน และเพื่อให้การลอยตัว ปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นทำได้สะดวกมากขึ้น หรือแม้แต่ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ศันสนีย์ นาคพงศ์ ที่กำกับดูแลสื่อของรัฐดังกล่าว ที่รีบออกมาปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่อง ขณะที่ฝ่ายเอกชนที่ดันหลัง พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร “ญาติผู้พี่” ออกมายืนยันว่าเป็นเรื่องของพวกเขาที่เช่าเวลาไปสามารถนำไปบริหารจัดการอย่างไรก็ได้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับรัฐบาล

เป็นเหตุผลที่พยายามแก้ต่างให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พ้นจากความผิดทางกฎหมายตามมา แต่ถึงอย่างไรมันฟังไม่ขึ้น และเป็นไปไม่ได้ เพราะหากรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสื่อเอ็นบีทีจะอ้างว่าไม่รู้เรื่อง แต่ผู้อำนวยการสถานีก็ต้องรู้ และไม่รู้ไม่ได้ เพราะหากไม่รู้จริงและได้เห็นการถ่ายทอดมีภาพของ ทักษิณ โผล่ออกมาก็ต้องสั่งตัดภาพนั้นทิ้งไปกลางคัน ไม่ใช่ปล่อยให้พูดจาแก้ตัวไปจนจบ ซึ่งไม่ว่ามองในมุมไหนงานนี้เป็นรายการ “สมคบคิด” ปล่อยให้โจรได้ออกทีวีของรัฐเพื่อแก้ตัวให้ตัวเองเท่านั้น

และแน่นอนว่าคนในสังคมล้วนมองออกได้ไม่ยาก ขณะเดียวกัน ภาพที่ออกมาสะท้อนให้เห็นว่า ทักษิณ มีความรู้สึกหวั่นไหวกับ ภาพ “คนใส่เสื้อเหลือง” ในวันมหามงคล จนต้องลนลานออกมาแก้ตัวและยืนยันถึงความจงรักภักดีของเขา ทั้งที่คลิปเสียงที่ “เสธ.อ้าย” พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นำมาเปิดยืนยันถึงการ “จาบจ้วง” พระเจ้าอยู่หัว นั้นผ่านมาตั้งหลายวัน และที่น่าสังเกตไปกว่านั้นก็คือในช่วงวันมหามงคล ทักษิณกลับเงียบเสียงไม่มีการแสดงออกให้เห็นทั้งคำพูด การถวายพระพรให้เห็นเลยแม้แต่น้อย

เชื่อว่าหลังจากนี้จะต้องมีคนไปร้องกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รวมไปถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งก็มีการขยับให้เห็นกันไปแล้ว เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานว่าคนที่หลบหนีคดี สามารถทำกิจกรรมโดยเปิดเผย โดยเฉพาะสามารถใช้สื่อของรัฐมาโฆษณาตัวเองทำได้หรือไม่ เพราะถ้าทำได้ต่อไปนักโทษที่หลบหนีคดีคนอื่นก็น่าจะทำได้ แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือต้องสร้างความเข้าใจให้เห็นชัดเจนว่า “การบังคับใช้กฎหมาย” นั้นยังศักดิ์สิทธิ์อยู่หรือไม่

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณากันอีกด้านหนึ่ง โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากภาพสะท้อนกลับมาแบบเฉพาะหน้าหลังจากได้เห็น ทักษิณ ชินวัตร โผล่ออกทีวีดังกล่าว รวมไปถึงการแก้ตัวของคนในรัฐบาล หรือแม้แต่การ “ป่วยการเมืองล่วงหน้า” ของนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำให้เกิดการปะติดปะต่อนำมาเชื่อมโยงเป็นเรื่องเดียวกัน ขณะเดียวกันยิ่งได้เห็นภาพของคนที่มีสถานะ “นักโทษ” คนทำผิดกฎหมายมาทำแบบนี้ดูแล้วมันก็เสียความรู้สึก ทำให้เห็นว่า “ท้าทาย” มากเกินไป ภาพที่ออกมาในเชิงย่ำยียั่วยุเสียมากกว่า แทนที่จะอยู่นิ่งๆ เงียบๆ แม้ว่าคนทั่วจะรู้ดีว่าเขามีอิทธิพลต่อรัฐบาล แต่ก็สมควรที่จะแอบอยู่ข้างหลังไม่ใช่โชว์ออฟให้เกิดความหมั่นไส้อย่างที่เห็น

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเกิดผลกระทบในทางลบกับตัวเขาอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างน้อยก็เกิดเสียงวิจารณ์ตามมาในเรื่องความไม่เหมาะสม และส่งผลมาถึงรัฐบาลภายใต้การกำกับของตัวเองอีกด้วย และที่สังเกตก็คือกำหนดการที่จะโฟนอินเข้ามาในเวทีของคนเสื้อแดงเมื่อตอนค่ำวันที่ 10 ธันวาคมที่เป็นวันรัฐธรรมนูญก็มีอันต้องยกเลิกกะทันหัน เนื่องจากเกรงว่าจะตกเป็นเป้าวิจารณ์มากเกินไป

ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากปฏิกิริยาเท่าที่เห็น รับรองว่า “ได้ไม่คุ้มเสีย” แน่นอนว่าในหมู่คนที่สนับสนุนอยู่แล้วก็ย่อมไม่มีผลอะไร ไม่มีปัญหา แต่ในกลุ่มที่กลางๆ ย่อมจับความรู้สึกได้ทันทีถึงเรื่องความไม่เหมาะสม เพราะในสถานะนักโทษย่อมมีความผิดกระทำแบบเปิดเผยโจ่งแจ้งไม่ได้ แต่อาจเป็นเพราะการตัดสินใจที่หุนหัน หรืออาจคล้อยตามความเห็นของคนใกล้ชิดบางคนหรือญาติบางคน ในที่นี้อาจเป็น พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยสำเร็จสักเรื่องเดียว

และคราวนี้ก็เช่นเดียวกันยังอาจกระทบไปถึง “งานใหญ่” ที่กำลังรออยู่ข้างหน้านั่นคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้ารีบออกตัวโฉ่งฉ่าง ในแบบ “เห็นแก่ตัว” เอาเปรียบคนอื่นบ่อยเข้ามันก็มีสิทธิ์พังตั้งแต่ต้นมือก็เป็นได้ อย่าทำเป็นเล่นไป!!
พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร
กำลังโหลดความคิดเห็น