ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน เตือนใบอนุญาต 3G อาจกลายเป็นใบอนุญาตเถื่อน จากการที่ กทค.รวบรัดผิดปกติ ระบุ 5 ปมอาจะทำให้เป็นโมฆะ ตั้งคำถามถ้ากลุ่มทุนสามารถครอบงำ กทค.ได้แค่ 3 เสียง อาจกุมกิจการโทรคมนาคมและความมั่นคงของประเทศได้
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า การที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. มีมติ 4 ต่อ 1 ออกใบอนุญาตประกอบกิจการ 3G ให้เอกชนผู้ประกอบการ 3 รายไปเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น ถ้า กทค.จะมั่นใจว่าการดำเนินการประมูล 3G ที่ผ่านมาโปร่งใสและมีอำนาจโดยชอบตามกฎหมายที่จะออกใบอนุญาตก็ถือเป็นสิทธิของ กทค. แต่ไม่ถือเป็นสิทธิโดยเด็ดขาดของ กทค. เพราะมีข้อกังขาและข้อโต้แย้งที่มีสาระสำคัญหลายประการที่ กทค.ก็ย่อมรู้อยู่แก่ใจ เช่น
1. ข้อพิพาทในชั้นศาลปกครองยังไม่สิ้นกระแสความ เพราะแม้ศาลปกครองจะมีคำสั่งว่าผู้ตรวจการแผ่นดินไม่มีสิทธิฟ้อง แต่ผู้ตรวจฯ ก็มีสิทธิโดยชอบที่จะยื่นอุทธรณ์คดีต่อศาลปกครองสูงสุด ซึ่งสัปดาห์หน้าจะมีการยื่นอุทธรณ์คดี ถ้าศาลอุทธรณ์สูงสุดมีคำสั่งไปอีกทาง กล่าวคือรับฟ้อง รับไต่สวน เพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวการประมูลที่เป็นปัญหา ถึงตอนนั้นใบอนุญาตที่เอกชนได้ไปจะเป็นใบอนุญาตเถื่อนทันที และถือว่ามติ กทค.เป็นโมฆะ
2. ข้อพิพาทว่าด้วยการประมูล 3G นับตั้งแต่วันประมูลเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ศาลปกครองยังไม่เคยมีคำสั่งหรือคำพิพากษาว่าการประมูลโปร่งใส มีการแข่งขันกันจริง ที่ผ่านศาลมีคำสั่งเฉพาะการระบุสิทธิของผู้ฟ้องหรือผู้เสียหายเท่านั้น ฉะนั้น กทค.จะโมเมลักไก่ว่าการประมูลโปร่งใสแล้วจึงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
3. ยังมีคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล และคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ตั้งอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้ว ถ้า ป.ป.ช.ชี้มูลว่ามีการฮั้วกันจริง และมีการนำคดีขึ้นสู่ศาลปกครองเพื่อระงับใบอนุญาต 3G อีกครั้งจะเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
4. ยังมีคำร้องที่อาจพิจารณากันในชั้นศาลรัฐธรรมนูญว่า อำนาจในการออกใบอนุญาต 3G เป็นอำนาจของ กทค.ลำพัง 5 คน หรือต้องเข้าที่ประชุม กสทช.ทั้ง 11 คน หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าต้องใช้มติที่ประชุมใหญ่ออกใบอนุญาตเท่านั้นก็จะเกิดปัญหาขึ้นทันที อย่าลืมว่ากิจการโทรคมนาคมเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศด้วย จึงต้องรอบคอบมากกว่านี้
5. มติ กทค.ออกใบอนุญาตครั้งนี้ไม่เอกฉันท์ เพราะมี 1 เสียงที่ไม่เห็นด้วย ทั้งที่เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะใบอนุญาตมีอายุ 15 ปี จึงควรใช้มติที่เป็นเอกฉันท์ถึงจะมีความชอบธรรม หากในอนาคตกลุ่มธุรกิจการเมืองสามารถแทรกแซงหรือครอบงำกุมเสียงข้างมากใน กทค.แค่ 3 เสียงใน 5 เสียงก็สามารถควบคุมผูกขาดกิจการโทรคมนาคมของชาติได้ในอนาคต
นายสุริยะใสกล่าวด้วยว่า มติ 4 ต่อ 1 ของ กทค.ในการออกใบอนุญาต 3G จึงเต็มไปด้วยความเสี่ยงสารพัด ที่ กทค.ชุดนี้สร้างขึ้นและกำลังเอาชะตากรรมตัวเองไปแลกและลากประชาชนไปแบกรับกับความเสี่ยงเหล่านั้น อยากเตือน กทค.ว่า หากเกิดปัญหาตามมาจากความลุกลี้ลุกลน รวบรัดจนผิดปกติ กทค.จะต้องรับผิดชอบอย่างปฏิเสธไม่ได้