เสธ.ทบ.เผยโครงการพระราชดำริเป็นยุทธศาสตร์สร้างความมั่นคง ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น เตรียมนำไปขยายผลในภาคต่างๆ นำความเจริญสู่พื้นที่ ส่วนปัญหาครูภาคใต้ปิดโรงเรียน “ประยุทธ์” กำชับแล้วให้คุ้มครองครู และวัดผลทุกเดือน มั่นใจโครงสร้างใหม่แก้ไขปัญหาได้
วันนี้ (28 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่โรงแรมแม็กซ์ พระราม 9 พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เดินทางมาเป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการการนำโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริไปขยายผลในพื้นที่ความมั่นคง โดยกล่าวว่า ภัยคุกคามรูปแบบใหม่มีความซับซ้อน จึงจำเป็นต้องมีการบูรณาการทุกภาคส่วน ซึ่งโครงการพระราชดำริเป็นโครงการที่ดีในการแก้ไขปัญหาต่างๆ โครงการพระราชดำริจึงเป็นยุทธศาสตร์สร้างความมั่นคงของประเทศ
ส่วนปัญหาที่ครูในพื้นภาคใต้รวมตัวกันปิดโรงเรียนไม่ยอมสอน พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า เรื่องนี้ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้กำชับลงไปแล้วในการคุ้มครองครู และต้องวัดผลทุกเดือนในการวางแผนการทำงานว่ายังมีจุดอ่อนตรงไหน แต่ก็มีความลำบาก เพราะครูเดินทางไปมาไม่ได้ อยู่แต่ในโรงเรียน โอกาสทีผู้ไม่หวังดีก็ทำได้ การดูแลก็ลำบากต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายไม่ใช่ของฝ่ายทหารอย่างเดียว ความร่วมมือของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ ทหารก็พยายามเต็มที่ ซึ่งการแก้ไขปัญหาเราคงหมดกำลังใจในการทำงานไม่ได้ ตอนนี้รัฐบาลลงมาก็จัดโครงสร้างละทุกส่วนราชการก็ต้องมาร่วมมือกัน ในสมัยก่อนส่วนราชการอาจจะไม่สามารถมาร่วมมือกันได้ เพราะการสื่อสารยังไม่เข้าใจกันเต็มที่ แต่ตอนนี้รัฐบาลมีการสร้างโครงสร้างที่มีบูรณาการมากขึ้น
จากนั้น พล.อ.อุดมเดชให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ในวันนี้เป็นการนำโครงการพระราชดำริมาขยายผลไปในภาคต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนที่อยู่ในโครงการ และเชิญประชาชนที่อยู่รอบโครงการ เพื่อนำความเจริญไปในพื้นที่ต่างๆ หลายพื้นที่เป็นพื้นที่ความมั่นคงจะได้นำโครงการพระราชดำริมาเสริมสร้างความมั่นคงและความเจริญ และเชิญผู้มีความรู้ในโครงการพระราชดำริมาบรรยายคือนายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา พล.อ.นพดล วรรธโนทัย ที่ปรึกษาโครงการพระราชดำริ มาให้ข้อมูลและมีการอภิปรายกัน
พล.อ.อุดมเดชกล่าวต่อว่า สถานการณ์ภาคใต้ถึงจะยังมีอยู่แต่สถานการณ์เริ่มดีมาโดยลำดับ จากการใช้โครงการพระราชดำริ ส่วนพื้นที่ต่างๆ ก็ภัยคุกคามมาในรูปแบบใหม่มาตลอด เช่น ยาเสพติด แรงงานต่างด้าว ที่มีปัญหามาจากความยากจน ก็จะนำโครงการพระราชดำริมาใช้อย่างต่อเนื่อง เมื่อประชาชนมีความเป็นอยู่ดีขึ้นภัยคุกคามก็จะน้อยลงและจะมีการวัดผลในแต่ละภาคทุก 3 เดือน