สภาหน้าสวนสัตว์กัดกันวุ่น “ณัฐวุฒิ” แจงราคายางเสียดสี “วิสุทธิ์” เบรก “สุนัย” ประท้วงไม่เป็นผล เรียกตำรวจตะเพิดแต่สุดท้ายนั่งลง อีกด้านโฆษกเพื่อไทยรวมก๊วน ส.ส. ลงไปแถลงข่าวประกาศถอดถอน 6 ส.ส.ปชป.อ้างอาศัยศึกซักฟอกใส่ร้ายนายกฯ-รัฐมนตรีถ่ายทอดสดทำให้เสียหาย “อุดมเดช” ยันซักฟอกจบวันนี้
วันนี้ (27 พ.ย.) การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลในช่วงค่ำ บรรยากาศเป็นไปอย่างวุ่นวายอีก เมื่อนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ชี้แจงในฐานะ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ต่อนโยบายการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ที่รัฐบาลใช้งบประมาณเพื่อดำเนินโครงการถึง 1.5 หมื่นล้านบาท ยืนยันว่าไม่เคยทุจริต และหากพรรคประชาธิปัตย์มีพยานหลักฐานชัดเจนว่ามีตนทุจริต ทำไมถึงไม่ยื่นถอดถอน หรืออภิปรายไม่ไว้วางใจตน ซึ่งประเด็นการทุจริตนั้นหากคนเราคิดจะทำจริงคงไม่มีเฉพาะข้าว หรือยางพารา ต้องรวมถึงปลากระป๋องด้วย
มีรายงานว่า ระหว่างการอภิปรายของนายณัฐวุฒินั้น พบว่ายังมีลักษณะการใช้ถ้อยคำเสียดสี พาดพิงถึงการทำงานของพรรคฝ่ายค้านสมัยที่เป็นรัฐบาล ทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ลุกประท้วงกันอยู่ไปมาอยู่หลายรอบ กระทั่งนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ต้องกล่าวคำว่า “ขออนุโมทนาอย่าได้ประท้วงกันอีก เพราะเสียเวลาการอภิปราย เนื่องจากขณะนี้เหลือเวลาเพียง 6 ชั่วโมงที่จะอภิปรายให้แล้วเสร็จ ก่อนปิดการอภิปราย” แต่ก็ไม่เป็นผล และ ส.ส.พรรคเพื่อไทยลุกประท้วง
กระทั่งเวลา 18.57 น. ในช่วงที่นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ขอใช้สิทธิ์ประท้วง นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ แต่นายวิสุทธิ์ไม่อนุญาต เพราะเห็นว่าจะเป็นการเสียเวลา และขอให้นั่งลง แต่นายสุนัยไม่ยอมนั่ง นายวิสุทธิ์จึงได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาเชิญออกนอกห้อง แต่ก่อนที่สถานการณ์จะบานปลายนายสุนัยได้เลือกที่จะนั่งลง
อีกด้านหนึ่งเมื่อเวลา 18.40 น. ที่รัฐสภา นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วยนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ใช้ห้องแถลงข่าวรัฐบาล ประกาศถอดถอน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 6 คน โดยนายพร้อมพงศ์กล่าวว่า บุคคลที่จะยื่นถอดถอน ประกอบด้วย นายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลก, นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง, นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก, น.ส.รัชดา ธนาดิเรก ส.ส.กทม., นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ ส.ส.กทม. และนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง ในข้อหาขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 158 วรรคสองที่บัญญัติว่าหากเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของนายกรัฐมนตรี ให้สมาชิกต้องยื่นคำร้องขอถอดถอนนายกรัฐมนตรีก่อน ในกรณีที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเกี่ยวกับประเด็นการทุจริต หรือร่ำรวยผิดปกติ หรือจงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย ทั้งนี้ บุคคลทั้ง 6 คนได้มีการอภิปรายในประเด็นที่ไม่อยู่ในคำร้องถอดถอนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี แต่อาศัยเวทีสภากล่าวหานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี โดยไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ และไม่ได้เป็นการตรจสอบและควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินตามปกติวิสัยที่จะปฏิบัติตามปกติ
นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า แม้จะมีหลายฝ่ายได้ทักท้วงระหว่างการประชุมและได้ยอมถอนคำอภิปราย เช่น กรณีของนายนคร น่าจะเป็นบรรทัดฐานต่อการทำหน้าที่ ส.ส.ให้กับ ส.ส.รายอื่นได้ แต่ก็ยังมีพฤติกรรมและเจตนาพิเศษจงใจฝ่าฝืนมาตราดังกล่าวเพื่อให้เป็นประโยชน์คดีและพวกพ้อง โดยผ่านการถ่ายทอดสดทำให้เกิดความเสียหายต่อนายกรัฐมนตรีในการทำหน้าที่และประโยชน์ต่อทางราชการ ดังนั้น พวกตนจึงขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 271 ยื่นคำร้องต่อประธานวุฒิสภา เพื่อขอให้วุฒิสภามีมติถอนถอดบุคคลทั้ง 6 คนออกจากตำแหน่ง ส.ส.ตามมาตรา 274 ในวันที่ 28 พ.ย. หลังลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ด้านนายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์เมื่อเวลา 18.30 น.เปิดเผยว่า การอภิปรายไม่ไว้ใจในวันที่ 3 ที่ขณะนี้ฝ่ายค้านใช้เวลาไปแล้วทั้งสิ้น 19 ชั่วโมง 49 นาที จากเวลาทั้งหมด 30 ชั่วโมง ส่วนรัฐบาลใช้เวลาไปทั้งสิ้น 5 ชั่วโมง จากทั้งหมด 12 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามตนจะพยายามทำให้การอภิปรายกระชับและจบลงในเวลา 24.00 น.ของวันนี้ตามที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ ในส่วนผู้ที่จะชี้แจงที่เหลือนั้น ซึ่งประกอบไปด้วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และผู้ที่ถูกพาดพิง รวมถึงผู้ที่จะสรุปการอภิปรายทั้งหมด วิปรัฐบาลได้หารือกันแล้วพบว่ามีหลายประเด็นที่ฝ่ายค้านอภิปรายถึงการทุจริตโดยที่ไม่ได้ยื่นถอดถอนไว้ ซึ่งอาจเข้าข่ายขัดหลักการตามรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม หลังจากการลงมติในวันพรุ่งนี้ วิปรัฐบาลได้นัดสมาชิกวุฒิสภา เพื่อประชุมอภิปรายรัฐบาลโดยไม่มีการลงมติตามมาตรา 161 ของรัฐธรรมนูญ