ส.ส.พิษณุโลก ประชาธิปัตย์ ย้ำตั้ง “ประภัสร์” นั่ง ผู้ว่าฯ รฟท.เอาคนของตัวเองดูแลโครงการมหาศาล แถมขาดคุณสมบัติชัด ยัน “ชัจจ์” ทำผิดกฎหมาย
วันนี้ (27 พ.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 15.00 น. นายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณี นายประภัสร์ จงสงวน ขาดคุณสมบัติของการเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จากกรณีที่บอร์ดการรถไฟเปิดให้มีการสรรหาผู้ว่าการการรถไฟฯ คนใหม่ จนมีการเลือกนายประภัสร์ เป็นผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.ว่า บุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งจะเข้ามาดูแลโครงการที่มีมูลค่ามหาศาล ควรเป็นคนที่มีความโปร่งใสในการแต่งตั้ง ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่า โครงการการพัฒนาพื้นที่การรถไฟบริเวณ กม.11 มูลค่า 1.5 แสนล้านบาท และแผนพัฒนาพื้นที่มักกะสัน 3 แสนล้านบาท ทั้งสองเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มหาศาลจึงเป็นการเอาคนของตนเองมาทำหน้าที่ รวมทั้งนายประภัสร์ยังเคยลงสมัครผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร เป็นตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย และเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 55 ครม.มีมติอนุมัติ ทั้งๆ ที่ขาดคุณสมบัติ จึงถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายและทำความผิดสำเร็จแล้ว เนื่องจากมีการกำหนดคุณสมบัติผู้ที่จะเป็นต้องไม่เคยมีตำแหน่งทางการเมือง และหากเป็นผู้นำองค์กรของเอกชน ต้องเป็นองค์กรที่มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท และต้องเป็นผู้บริหารหรือรองผู้บริหารองค์กร ซึ่งนายประภัสร์ขาดคุณสมบัติทั้งสองข้อ ก่อนหน้าเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม เพิ่งลาออกเมื่อ 21 มิ.ย. 55 และได้ตรวจสอบเอกสารรายงานของ (รฟม.) ปี 2549-2550 อีกทั้งการตรวจสอบข้อมูลจาก สตง.พบว่า ปี 2550 รฟม.มีรายได้ไม่ถึง 5 พันล้านบาท ปี 2551 มีรายได้ 529 ล้านบาท
“ใครก็แล้วแต่ที่เข้ามาบริหารองค์กรที่มีสินทรัพย์หลายแสนล้าน และมีโครงการเมกะโปรเจกต์หลายแสนล้านจะต้องมีที่มาโดยชอบ จะต้องเป็นไปตามกฎหมาย จะต้องเป็นตามขั้นตอนหรือประกาศ แต่ปรากฏว่า พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก ขณะเป็น รมช.คมนาคม กำกับดูแลการรถไฟอยู่ ให้นำเลือกนายประภัสร์ ทำผิดกฎหมายการรถไฟแห่งประเทศไทยมาตรา 37 และกฎหมายคุณสมบัติพนักงานรัฐวิสาหกิจ กรณีที่ พล.ต.ท.ชัจจ์และครม.มีมติรับรอง ตนจึงจะต้องต่อสู้ปกป้องผลประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศ ปกป้องผลประโยชน์การรถไฟแห่งประเทศไทย และเพื่อตรวจสอบให้การดำเนินการคัดสรรผู้ว่าฯ การรถไฟเป็นไปด้วยความถูกต้อง จะไม่เกรงไม่กลัว จะเดินหน้าต่อสู้กับทุกคนทุกฝ่ายที่ส่อไปในทางไม่ชอบด้วยกฎหมาย และจะเดินหน้าปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนให้ถึงที่สุด” นายนครกล่าว