ส.ส.ปชป.อภิปรายไม่ไว้วางใจอดีต รมช.คมนาคม โครงการขุดลอกแม่น้ำปิง วัง ยม นาน ชี มูล ป่าสัก 1.2 แสนล้าน ส่อฮั้วประมูลเหตุรู้เห็นเจ้าท่าใช้วิธีพิเศษ ไม่ผ่านอี-อ็อกชัน ปูดกำแพงเพชรลูก “กำนัน ต.” เด็ก “เจ๊ ด.” มีเอี่ยว นครสวรรค์เป็นถึงลูกอดีต ส.ส. ด้านเจ้าตัวแจงเสนอราคาตามเกณฑ์กรมบัญชีกลาง ปัดฮั้วให้ใคร อ้างไม่พบทุจริตจึงเซ็นให้โครงการเดินหน้า
วันนี้ (25 พ.ย.) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีต รมช.คมนาคม ในประเด็นโครงการขุดลอกและฟื้นฟูร่องน้ำที่ประสบอุทกภัย แม่น้ำปิง วัง ยม นาน ชี มูล ป่าสัก โดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 งบกลาง กรณีฉุกเฉินและจำเป็น 120,000 ล้านบาท โดยมีกรมเจ้าท่าและกระทรวงคมนาคมเป็นผู้รับผิดชอบ วงเงิน 1,215.435 ล้านบาท 26 โครงการ 14 ผู้รับจ้าง โดยมีการสมยอมกันเสนอราคาโดยวิธีพิเศษ และมีการฮั้วราคาในการประมูลของผู้รับจ้าง เพื่อเอื้อประโยชน์แก่พวกพ้องของตนเอง
นายถาวรกล่าวต่อว่า การดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม โดยงบกลาง 120,000 ล้านบาทของรัฐบาล ด้วยเหตุผลในการจัดจ้าง จัดซื้อ เพื่อป้องกันอุทกภัยให้กับประชาชน อาทิ ขุดลอกคูคลอง โดย พล.ต.ท.ชัจจ์ได้เสนอข้อเงินงบประมาณกับคณะรัฐมนตรี 1,215 ล้านบาท เพื่อขุดแม่น้ำปิง วัง ยม นาน ชี มูล ป่าซึ่งได้คณะรัฐมนตรีก็ตอบรับไปในวันที่ 12 ธันวาคม 2554 ทั้งนี้ พล.ต.ท.ชัจจ์ได้กำกับดูแล กรมเจ้าท่า ซึ่งมีการเสนองบประมาณ เพื่อขุดลอกและฟื้นฟูร่องน้ำที่ประสบอุทกภัย โดยให้กรมเจ้าท่าเป็นผู้รับผิดชอบในการเป็นผู้จ้างและจัดหาผู้รับจ้าง ซึ่ง พล.ต.ท.ชัจจ์ได้ร่วมรู้เห็นเป็นใจกับข้าราชการกรมเจ้าท่า ให้มีการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ โดยหากจะใช้การประกวดราคา อี-อ็อกชัน ก็ทำได้ แต่ไม่ได้เงินทอน 45-50 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ ประเด็นนี้ตนคิดว่าการดำเนินการของ พล.ต.ท.ชัจจ์ส่อผิดกฎหมาย เนื่องจากมีการหลีกเลี่ยงการแข่งขันอย่างเป็นธรรมของผู้รับจ้างทั้งหมด และยังสามารถตั้งราคากลางให้สูงเกินจริงได้ โดยเอกสารในการประมูลงานของผู้รับจ้างจะเห็นได้ว่ามีการผลัดกันได้งาน ผลัดกันเสนอประกบ โดยผู้รับจ้างรู้ล่วงหน้าว่าจะได้งานขุดลอกที่ใด บริเวณใด ทั้งนี้ยังมีการล็อกพื้นที่ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง กลุ่มการเมืองของรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี ได้งานพื้นที่ที่ต้องการ เช่น ขุดลอกแม่น้ำปิง ตอนที่ 4-5 จังหวัดกำแพงเพชร ผู้ได้งานคือ ลูกของ “กำนัน ต.” เด็ก “เจ๊ ด.” และการขุดลอกแม่น้ำปิง 2-3 จังหวัดนครสวรรค์ ผู้ได้งานคือ น้องสาวและลูกของอดีต ส.ส.เด็ก “เจ๊ ด.” ซึ่ง พล.ต.ท.ชัจจ์ รับรู้การกระทำที่ส่อทุจริตและผิดกฎหมายทั้งหมด
นายถาวรยังกล่าวต่อว่า เมื่อมีการประมูลงานไป แต่การดำเนินการในโครงการต่างๆ ตามไม่มีความคืบหน้าตามเป้าหมายที่ได้ตั้งเอาไว้ รวมไปถึงดินที่ถูกขุดขึ้นไปกองตามแม่น้ำสายหลักต่างๆ กลับมีสภาพไม่แข็งแรง เมื่อฝนตกหนักลงมาสักครั้งเดียว ดินก็พังทลายลง ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้ตามที่รัฐบาลวางแผนเอาไว้ เงินงบประมาณที่เสียไปไม่ได้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และผู้ที่เสียหายคนประเทศและประชาชน ที่สำคัญ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาหน้าแล้งได้ ทั้งที่ประชาชนได้รับความเดือนร้อนมาตลอดในปี 2554 อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสร้างภาพในการปราบปรามทุจริต ที่เคยประกาศต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันมาตลอด มีการเปิดสายร้องเรียน ที่เบอร์ 1206 โดยตนโทร.ไปที่เบอร์ดังล่าวไม่ต่ำกว่า 20 ครั้งมีแต่เสียงรับฝากข้อความ รวมไปถึงโครงการปราบโกงต่างๆ ที่ไม่เคยบรรลุวัตถุประสงค์ อาทิ ป.ป.ช.เสนอให้รัฐบาลมีมติสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอให้เปิดเผยข้อมูลราคาปาล์ม แต่รัฐมนตรีชุดนี้กลับปฏิเสธ ตนจึงขอให้พิจารณาเอาเองว่ารัฐบาลสร้างภาพหรือทำจริง
นายถาวรยังระบุว่า เส้นทางคอร์รัปชันที่เกิดขึ้นเม็ดเงินจะไปอยู่ที่ไหน ตนไม่ทราบ ก็คงจะฝากความหวังไว้ที่ ป.ป.ช. และ ปปง.ที่นักการเมืองเมื่อได้เงินจากการโกงแล้วก็จะเอาไปฝากไว้ที่นอมินีทั้งหลาย อย่างไรก็ตามตนขอยืนยันว่า พล.ต.ท.ชัจจ์ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ โดยที่ พล.ต.ท.ชัจจ์รับรู้การกระทำดังกล่าว แต่กลับเพิกเฉยและไม่ดำเนินการใดๆ
ด้าน พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวโต้แย้งว่า ตนเป็นข้าราชการตำรวจมาจนกระทั่งเกษีณยร ไม่เคยมีประวิติการทุจริต แต่มาอยู่การเมืองมาได้แค่ระยะหนึ่ง กลับต้องมาเสียประวัติวงศ์ตระกูล ซึ่งปัญหาการทุจริตของตนที่ถูกฝ่ายค้านกล่าวหา เกิดขึ้นจากปัญหาอุทกภัยที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน รัฐบาลจึงได้มีนโยบายฟื้นฟูเยียวยา วิธีการจัดจ้างผู้มารับจ้างมา 26 โครงการ ในเดือนเมษายน งบประมาณ 1,215 ล้านบาท ซึ่งทางกรมเจ้าท่าก็เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดการ วางแผน ที่จะต้องเสร็จโครงการในเดือกันยายนทั้งหมด เพื่อรับมือกับช่วงเวลาที่น้ำจะมา ซึ่งก็ถือเป็นโครงการปกติที่ทุกรัฐบาลจะต้องทำกัน
พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวต่อว่า การจัดจ้างโดยวิธีพิเศษก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีการทุจริต โดยวิธีดังกล่าวคือ ผู้จ้างต้องการจัดจ้าง และผู้รับจ้างมีศักยภาพเพียงพอ ก็สามารถจัดจ้างกันได้ แม้จะมีผู้รับจ้างเพียงแค่รายเดียวก็ตาม ซึ่งวีธีการนี้เน้นคำนึงถึงขีดความสามารถของผู้รับจ้าง และกรอบระยะเวลาในการดำเนินงาน ส่วนการเสนอราคานั้นก็เป็นการเสนอตามราคากลาง ที่ควบคุมโดยระเบียบของกรมบัญชีกลางที่มีหลักเกณฑ์อยู่แล้ว อยู่ที่ 34.50 บาทต่อลูกบาศก์เมตร บวกลบ เช่น ระยะทางในการเข้าไปขุดคลองก็ต้องมีการบวกราคาน้ำมันเข้าไปด้วย ต่อจากนั้นในเดือนกันยายน ตนได้ตรวจสอบและเร่งรัดให้กรมเจ้าท่าต้องทำงานให้เสร็จ จึงได้เรียกผู้รับจ้างทั้งหมดเข้ามาต่อรองราคาว่า กรมเจ้าท่ามีงบประมาณอยู่เท่านี้ จึงได้มีการพูดคุยกันเกิดขึ้น ซึ่งตนเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติก็ได้อนุมัติไป อย่างไรก็ตาม ตนขอยืนยันว่า การดำเนินการตามโครงการของนโยบายของรัฐบาลที่ตนได้รับมอบหมายนั้น ตนดำเนินการไปตามข้าราชการที่ได้รับผิดชอบ และเมื่อตนตรวจสอบแล้วไม่พบการทุจริตหรือเหตุผิดปกติใดๆ ตนก็ต้องลงชื่อเซ็นเพื่อให้โครงการเดินหน้าต่อไปได้
พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ในเรื่องการอนุมัติงบประมาณ ถ้างบประมาณเกิน 50 ล้านบาทขึ้นไป ถือเป็นอำนาจของรัฐมนตรีในการอนุมัติ ซึ่งตนตรวจสอบดูแล้ว เห็นว่าเป็นการทำตามระเบียบทุกอย่างจึงต้องอนุมัติ เพราะอยากให้งานดำเนินการโดยเร็ว ถ้าไม่อนุมัติก็จะเกิดเรื่องว่าอาจจะมีอะไรหรือเปล่า ทั้งนี้ตนได้ตรวจสอบทั้ง 14 ราย เห็นว่าไม่มีข้อผิดพลาดก็อนุมัติไป และตั้งแต่ตนมารับตำแหน่งคณะกรรมาธิการของพรรคประชาธิปัตย์ 4-5 คณะ ก็ได้เรียกกรมเจ้าท่าไปชี้แจงทุก ถึง 57 ครั้ง และเรื่องแบบนี้ตนไม่พลาดแน่ ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรเลย แต่ตนถูกพวกท่านกล่าวหาให้เสียหาย ตนติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด และได้แต่งตั้งให้รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานคณะทำงานตรวจสอบการจ้างงานตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา
“ผมเป็นรัฐมนตรีมีหน้าที่กำกับดูแล ไม่ได้รับรู้ รู้เห็น ไม่รู้จักกับ 14 บริษัทรับเหมา ที่ดำเนินการอยู่ในต่างจังหวัดห่างไกล และเจ้าหน้าที่ทำไปตามระเบียบแบบแผนทุกประการ ซึ่งนายประเสริฐ จันทรวงทอง รมช.คมนาคม ที่มารับงานต่อจากผม ก็ยืนยันว่ายังไม่สามารถจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาได้แม้แต่รายเดียว ดังนั้น ขอยืนยันว่าไม่มีแน่นอนเรื่องทุจริต เรื่องช่วยเหลือพวกพ้อง ส่วนที่ระบุว่าภรรยาผมโดน ป.ป.ช.สอบนั้น ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร แต่ผมกับภรรยาอยู่กันมา 20-30 ปี เพิ่งมาจดทะเบียนตอนที่ผมเป็นรัฐมนตรี เพราะเขาอยากเป็นภรรยารัฐมนตรี ถ้าผมทุจริตภรรยาผมจะยอมจดทะเบียนด้วยหรือไม่ ซึ่งนักการเมืองส่วนมากเมื่อมีตำแหน่งก็มักจะหย่าจากภรรยา ” พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าว